xs
xsm
sm
md
lg

เสน่ห์แห่งความเงางาม เปิดตำรับ “นางผมหอม”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

 สระผมด้วยตำรับนางผมหอม
บรรดาสาวผมสลวยในยุคนี้ เคยสงสัยกันบ้างหรือไม่ว่า บรรดาคุณย่าคุณยายในอดีต ที่หลายท่านสูงอายุแล้วผมก็ยังเงางาม หรือในภาพถ่ายโบราณแสดงให้เห็นมุ่นมวยของผมดำเงางามจนน่าอิจฉา แล้วพลันนึกต่อไปว่า ในสมัยโน้นที่ยังไร้ผลิตภัณฑ์จำพวก “แชมพู” หรือ “ครีมนวดผม” นั้น เขาใช้อะไรกัน ???

ยายผาด ชิดทิด วัย 84 ปี แห่งหมู่บ้านแสงภา ต.แสงภา อ.นาแห้ว จ.เลย ไขข้อสงสัยว่า แต่ละท้องถิ่นมีพืชสมุนไพรแตกต่างกัน ฉะนั้น การดูแลเส้นผมอาจต่างกันบ้าง แต่สำหรับภูมิปัญญาท้องถิ่นของบ้านแสงภาที่คุณยายสืบทอดมานี้ ได้รับการถ่ายทอดเคล็ดการ “สระผมหอม ดำเงางาม” มาจากแม่ โดยแม่ได้รับการถ่ายทอดจากบรรพบุรุษอีกทีหนึ่ง ซึ่งตำรับ “นางผมหอม” แบบฉบับดังกล่าว กว่าจะหอมและสวยได้ ต้องออกไปหาสมุนไพรที่มีอยู่ในท้องถิ่น
กรรมวิธีการปรุง
“ออกไปหาสมุนไพรผมหอมกับแม่มาตั้งแต่เด็กๆ เห็นต้นปุ๊บก็รู้ว่าอะไรต้องใช้ อะไรต้องเก็บ แล้วเก็บเอามาทำอะไร ผสมอย่างไร”

ยายผาด ให้รายละเอียดส่วนประกอบที่จะนำมาทำยาสระผมสูตรโบราณตำรับนางผมหอมเวอร์ชั่นบ้านแสงภา ว่า ประกอบด้วย รากแหน่งหอม หัวว่านหอม เปลือกไม้แข้ เนียม สำหรับขั้นตอนการทำ ใช้พืชหอมอย่างละกำมือ นำไปตากแห้งแต่ไม่ต้องบด ใช้น้ำมวกจากการหม่าข้าว (น้ำแช่ข้าวเหนียวข้ามคืนเพื่อไปนึ่งตอนเช้า) ประมาณ 2 ลิตร รินเอาส่วนที่ใสออกให้เหลือแต่ส่วนขุ่นข้น

ส่วนวิธีทำ ก็ให้นำน้ำมวกไปต้ม ใส่ รากแหน่งหอม หัวว่านหอม สับเปลือกไม้แข้ใส่ ต้มจนพวกเครื่องหอมต่างๆ เปื่อย ยกลงมาปล่อยให้เย็น กรองน้ำใส่ขวดหรือภาชนะเก็บไว้ได้นาน

“สูตรนี้สามารถใช้สระผม อาบน้ำ พอล้างออกจะทำให้ผมนุ่ม หอม มันเงางาม ชะลอความงอก ไม่เชื่อสังเกตผมยายซิ ยายไม่เคยย้อมผม อายุ 80 กว่าผมหงอกนิดหน่อย”  

ยายผาด จับเส้นผมโชว์ พร้อมกระซิบถึงความเชื่อว่า ก่อนสระผมจะล้างด้วยน้ำ “ส้มป่อย” เชื่อว่า ปลดปล่อยสิ่งไม่ดีออกจากศีรษะ ทำให้เกิดมงคลกับชีวิตด้วย และยาสระผมสูตรนี้ เชื่อว่าเป็นที่มาของตำนานนางผมหอม ด้วย

จากนั้น ผู้สูงอายุแห่งบ้านแสงภารายนี้ ก็ได้เผยความรู้สึกว่า หากสิ้นไปแล้ว คงไม่มีใครสืบสานต่อ  เพราะทุกวันนี้ ลูกหลานจะสระผม ก็ไม่มีใครเข้าป่าไปหาส่วนประกอบ ไม่มีใครจะประดิดประดอยตากแห้ง ต้ม อย่างที่ยายทำอีกแล้ว เพราะเพียงเดินเข้าร้านสะดวกซื้อ ก็จะพบสารพัดสารพันแชมพูหลากยี่ห้อที่วางขายตามท้องตลาด  สะดวกหยิบมาสระผมได้ทันที ไม่ต้องลำบากเข้าป่าหาสมุนไพร ไม่ต้องเสียเวลานั่งต้มหลายชั่วโมง
อัญชัน ส่วนประกอบสำคัญเพื่อทำ ครีมนวดแบบดั้งเดิม
ในขณะที่ ด้าน ภญ.ดร.สุภาภรณ์ ปิติพร หัวหน้ากลุ่มงานเภสัชกรรม โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร อันเป็นโรงพยาบาลที่ส่งเสริมการนำสมุนไพรและการแพทย์แผนไทย มารักษาผู้ป่วยควบคู่ไปกับการแพทย์แผนปัจจุบันอย่างต่อเนื่องและได้ผล   ให้ข้อมูลอันน่าสนใจยิ่งว่า

“จากการสำรวจและเก็บข้อมูลของทีมงาน พบว่า เพียงแค่จังหวัดเลยเพียงจังหวัดเดียว เราพบว่า มีกลุ่มหมอยาสมุนไพรพื้นบ้าน บรรดาพ่อหมอแม่หมอจำนวนไม่น้อย และมีสูตรยาน่าสนใจหลายสูตรที่สืบทอดกันมา รวมถึงตำรับผมหอม ที่นำสมุนไพรหลายตัวมาปรุงเพื่อสระผม สรรพคุณทำให้ผมหอม ดำ เงางามสลวยและชะลอการหงอกของผมได้”

ภญ.ดร.สุภาภรณ์ แนะนำเพิ่มเติมว่า หากมีผู้สนใจจะลองทำตามสูตรของยายผาดในการทำ “แชมพูนางผมหอมตำรับโบราณ” นี้แล้ว ยังมองหาสูตร “ครีมนวดสไตล์ไทย” อยู่ละก็ … ภูมิปัญญาแพทย์แผนไทย ก็มีสูตรครีมนวดผมแบบธรรมชาติอยู่หลายสูตร แถมมีสำหรับทุกสภาพผมชนิดไม่น้อยหน้า “คอนดิชันเนอร์” สมัยใหม่อีกด้วย!
สมุนไพรผมหอม
สูตรแรก เป็นสูตรน้ำมะกรูด โดยน้ำมะกรูด 3-5 ลูก ผสมกับน้ำซาวข้าวเหนียว ช่วยลดอาการคันศีรษะ ลดความันและป้องกันรังแค อันนี้สำหรับคนผมมัน ส่วน สูตรที่สอง สำหรับคนที่มีปัญหาผมร่วง ให้เอา ขิงเผาไฟ หรือขิงซอยห่อคล้ายลูกประคบ แล้วนวดให้ทั่วศีรษะ ช่วยลดการหลุดร่วงของเส้นผมได้ และสูตรที่สาม อันนี้ช่วยชะลอผมหงอกได้ดีมาก เป็นสูตร ดอกอัญชัน โดยนำมาขยี้ให้มีสีน้ำเงินหรือแช่ในน้ำสะอาดแล้วชโลมให้ทั่วผม ทำให้ผมดกดำและชะลอการหงอกของเส้นผม”

แถมท้ายอีกนิด ถึงเป็นเซอร์วิสพิเศษจาก รพ.อภัยภูเบศร ที่มาแบบจัดเต็มครบชุด เพื่อให้ครบกระบวนความความงามแห่งเส้นผมแบบฉบับคุณย่าคุณยาย ภญ.ดร.สุภาภรณ์ แนะนำ “สูตรหมักผม” ที่ช่วยบำรุงเส้นผมและฟื้นบำรุงในกรณีที่แห้งเสีย ซึ่งมีด้วยกัน 2 สูตร
ต้องเคี่ยวจนเปื่อย
สูตรแรก เป็นสูตรน้ำมันหมักผมสมอไทยและมะขามป้อม ทำง่ายๆ โดยนำสมอไทยและมะขามป้อมอย่างละ 1 ส่วน ทอดในน้ำมันมะพร้าวหรือน้ำมันทานตะวัน 2 ส่วน จนเหลืองกรอบ จากนั้นทิ้งไว้ให้เย็น กรองและนำมาใช้หมักผมก่อนสระ หมักทิ้งไว้ 10-15 นาที

ส่วนสูตรที่สองอันนี้ง่ายเข้าไปอีก ด้วย “สูตรกล้วยหอม” ที่นำกล้วยหอมสุกมายีหรือปั่นผสมน้ำมันมะกอกหรือน้ำมันมะพร้าว ปริมาณที่ใช้ขึ้นอยู่กับความยาวของเส้นผมด้วย อันนี้จะให้ดีต้องทำสดๆ จะสระผมเมื่อใดก็ลงมือยีผสมแล้วหมักได้เลย! หมักไว้ 15-20 นาทีแล้วค่อยล้างออก แต่ถ้าคุณเป็นอีกคนหนึ่งต้องเผชิญกับปัญหาผมไม่มีน้ำหนักหรือผมเส้นเล็กชี้ฟู ภญ.ดร.สุภาภรณ์แนะนำให้สระผมน้ำสุดท้ายด้วย “น้ำส้มป่อย” หรือ “น้ำมะกรูด” เพื่อเพิ่มน้ำหนักให้เส้นผม  
ยายผาดออกเก็บสมุนไพร
“ปัจจุบันเส้นผมต้องต่อสู้กับมลพิษมาก ทำให้เส้นผมสกปรกและหนังศีรษะเปลี่ยนแปลงไป หนำซ้ำเรายังทำร้ายเส้นผมด้วยการใช้สารเคมีในการสระผม นวดผม หมักผม รวมถึงการคัดผม ยืดผม หรือแม้กระทั่งการย้อมสีผมล้วนแล้ว แต่ยิ่งทำให้อายุการใช้งานของเส้นผมสั้นลงไปทุกขึ้น จึงอยากให้หันมาดูแลเส้นผมด้วยสมุนไพร หรือยาสระผมไร้สารเคมีแทน” ภญ.ดร.สุภาภรณ์ ทิ้งท้าย
กำลังโหลดความคิดเห็น