“นริศรา” ปลื้มเด็กแห่สมัคร ปวช.พุ่ง 2.3 แสนคน เกินเป้า เล็งขอ ครม.เพิ่ม 550 ล.ใช้งบเรียนฟรี-จ้างครู 1,000 อัตรา พร้อมประสาน ก.ค.ศ.-คุรุสภา บรรจุครูช่างชั่วคราว ขอใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ขณะที่ยอดสมัคร ปวส.ลดฮวบจากเป้า 1.3 แสนคน เหลือแค่ครึ่งเดียว เหตุไร้ ป.ตรี รองรับ
วันนี้ (29 มี.ค.) น.ส.นริศรา ชวาลตันพิพัทธ์ รมช.ศึกษาธิการ เปิดเผยความคืบหน้าการรับนักเรียน นักศึกษา ในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ประจำปีการศึกษา 2554 ว่า ขณะนี้มีนักเรียนสนใจสมัครเข้าเรียนในระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) จำนวน 230,000 คน ทำให้ สอศ.จำเป็นต้องขยายจำนวนการรับนักเรียน ปวช.เพิ่มจากขึ้นเป้าหมายเดิม จำนวน 204,000 คน เป็น 265,000 คน ดังนั้น จึงมีความจำเป็นที่จะต้องทำเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อของบกลาง จำนวน 550 ล้านบาท เป็นค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาตามโครงการเรียนฟรี 15 ปี และเป็นค่าจ้างครูช่างเพิ่มเติม ประมาณ 1,000 อัตรา โดยในส่วนของครูอัตราจ้างนั้น สอศ.กำลังประสานกับสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เพื่อขออัตราบรรจุครูช่างดังกล่าว พร้อมทั้งจะประสานกับสำนักงานเลขาธิการคุรุสภาให้ยืดหยุ่นเรื่องของใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูช่าง เพื่อให้สามารถสอบบรรจุได้ทันในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2554
น.ส.นริศรา กล่าวอีกว่า สำหรับกรณีที่ผู้ปกครองร้องเรียน ว่า สอศ.กำหนดเกรดขั้นต่ำในการรับเด็ก ปวช.ที่ 2.5 ทำให้นักเรียนที่จบชั้น ม.3 จำนวนหนึ่งไม่สามารถสมัครเข้าเรียนได้นั้น การรับนักเรียน ปวช.ในส่วนของโควตาพิเศษ 50,000 คน ในสายที่เป็นความต้องการสูง อาทิ กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ปิโตรเคมี ธุรกิจการโรงแรม ฯลฯ จะกำหนดผลการเรียนที่ 2.5 รวมทั้งมีการสอบวัดแววความถนัด ซึ่งดำเนินการเสร็จสิ้นไปแล้ว อย่างไรก็ตาม สอศ.กำลังเปิดรับ ปวช.รอบ 2 ซึ่งจะรับเด็กทั่วไปโดยไม่กำหนดเกรด แต่จะมีการสอบวัดแววความถนัด เพื่อเข้าเรียนในสาขาที่เด็กสามารถเรียนได้ ในส่วนของการรับสมัครนักศึกษา ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) นั้น สอศ.ตั้งเป้าหมายในการรับไว้ที่ 130,000 คน แต่ขณะนี้มีนักศึกษามาสมัครเพียง 72,000 กว่าคน ซึ่งถือว่าต่ำกว่าเป้าหมายมาก ทั้งนี้ เนื่องจาก สอศ.ยังไม่มีปริญญาตรีรองรับ ทำให้เด็กสนใจมาเรียน ปวส.น้อยลง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการแถลงข่าว ได้มีกลุ่มผู้บริหารสถานศึกษา สอศ.กว่า 20 คน ได้เข้ายื่นหนังสือต่อ น.ส.นริศรา เพื่อเรียกร้องให้เร่งผลักดันจัดตั้งสถาบันการอาชีวศึกษาเฉพาะทางกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน ที่วิทยาลัยเทคนิคอุบลราชธานี และสถาบันเทคโนโลยีข้าวและการจัดการ ที่วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีพิจิตร ซึ่ง น.ส.นริศรา ได้รับที่จะเร่งผลักดัน เนื่องจากเป็นความจำเป็นที่จะมีสถาบันรองรับผู้เรียนในระดับปริญญาตรี โดยจะหารือข้อกฏหมายกับสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และนำเสนอ รมว.ศึกษาธิการ หากทำได้ก็จะเร่งเสนอ ครม.ก่อนสงกรานต์ เพื่อให้สามารถออกกฏกระทรวงก่อนยุบสภาในเดือน พ.ค.ทั้งนี้ หากทำได้ตามขั้นจะทำให้สามารถมีสถาบันการอาชีวศึกษาเฉพาะทางได้ทันเปิดภาคเรียนนี้
