ลุ่นจับสลาก ม.1 คึกคัก! ผู้ปกครองควงลูกไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ร.ร.หอวัง เอาฤกษ์เอาชัยแต่เช้า ผอ.ร.ร ระบุเกิดปรากฏการณ์ใหม่ ยอดเด็กจับสลากน้อยแค่ 189 คน มาจับจริง 160 คน รับได้ถึง 110 คน เชื่อเป็นผลดีจากนโยบาย “เสมา 1” “ชินภัทร” ยันเด็กพลาดหวังมีที่เรียนทุกคน ยันเกลี่ยเด็กลง ร.ร.คู่พัฒนาเสร็จ 7 เม.ย.นี้ ขณะที่บรรยากาศพบพ่อ จับสลากแทนหลังลูกประสบอุบัติเหตุ แต่แห้ว รับเสียใจโชคไม่เข้าข้าง แต่พร้อมกลับไปโรงเรียนเดิม
วันนี้ (27 มี.ค.) เมื่อเวลา 07.30 น. ที่โรงเรียนหอวัง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีผู้ปกครองพร้อมบุตรหลานที่มีสิทธิจับสลากเข้าเรียนชั้น ม.1 ในเขตพื้นที่บริการของ ร.ร.หอวัง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) กรุงเทพมหานคร เขต 2 นำธูปเทียนและพวงมาลัยมาสักการะพระพุทธปัญญาสุริยาภาธร พระพุทธรูปประจำโรงเรียน และพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 เพื่อขอพรให้เป็นขวัญกำลังใจแก่การจับสลาก จากนั้นในเวลา 08.00 น.นักเรียนทุกคนต่างทยอยกันลงทะเบียน เพื่อจัดลำดับที่นั่งก่อนขึ้นยังหอประชุม ทั้งนี้ พบว่า เด็กบางคนได้แขวนเครื่องลางของขลัง เพื่อสร้างกำลังใจให้แก่ตนเอง ขณะเดียวกัน ในการจับสลากครั้งนี้ได้มี นายวันชัย ปรุงอาวุธ ผู้ปกครองของนักเรียนคนหนึ่งได้เดินทางมาจับสลากแทนลูก เนื่องจากลูกประสบอุบัติเหตุกะทันหัน ซึ่งทางโรงเรียนก็อนุโลมให้ขึ้นจับสลากแทน
นายปลองยุทธ อินทพันธุ์ ผู้อำนวยการ ร.ร.หอวัง กล่าวว่า ปีนี้ถือเป็นประวัติศาสตร์ของโรงเรียน เพราะมีเด็กที่พลาดหวังการสอบเข้า ร.ร.หอวัง น้อยมาก เนื่องจากมีเด็กในพื้นที่บริการสอบได้มากกว่าเด็กนอกพื้นที่บริการ โดยที่ปีนี้มีเด็กมีสิทธิจับสลาก จำนวน 189 คน รับได้ 110 คน ซึ่งพบว่ามีเด็กมารายงาน 160 คน ทำให้มีเด็กที่พลาดหวังจากการจับฉลากเพียง 50 คนเท่านั้น อย่างไรก็ตาม เด็กที่ไม่สามารถจับสลากได้ทางโรงเรียนได้เตรียมแผนเกลี่ยนักเรียนไปยังโรงเรียนคู่พัฒนาและโรงเรียนในเขตพื้นที่บริการ 6 แห่ง ได้แก่ ร.ร.ราชวินิต บางเขน, ร.ร.จันทร์หุ่นบำเพ็ญ, ร.ร.พิบูลอุปถัมภ์, ร.ร.บางบัว (เพ่งตั้งตรงจิตวิทยาคาร), ร.ร.มัยธยมประชานิเวศน์ (กทม.) และ ร.ร.เสนานิมคม ซึ่งขอให้ผู้ปกครองสบายใจได้ เพราะเด็กที่พลาดหวังจะมีที่เรียนทุกคนอย่างแน่นอน
“ผมสบายใจมากในปีนี้เนื่องจากนโยบายการรับนักเรียนชัดเจน และต้องขอบคุณนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รมว.ศึกษาธิการ ที่ทำให้การรับนักเรียนปีนี้ของโรงเรียนไม่มีการร้องเรียนใดๆ และส่วนตัวก็ไม่มีผู้ปกครอง นักการเมือง มารบกวนฝากเด็ก เพราะหลักเกณฑ์การรับนักเรียนปีนี้ชัดเจนทำให้ไม่สามารถมีช่องทางฝากเด็กได้เหมือนที่ผ่านๆ มา” ผอ.รร.หอวัง กล่าว
จากนั้นในเวลาประมาณ 09.00 น. นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ได้เดินทางมาถึงโรงเรียนเพื่อติดตามการจับฉลาก พร้อมกล่าวภายหลังการจับสลากเสร็จสิ้นว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ยืนยันว่า จะสามารถจัดที่เรียนให้เด็กได้ครบทุกคน โดยผู้ที่พลาดหวังจากการจับฉลากในวันนี้ สามารถแจ้งความจำนงได้ทันทีที่โรงเรียนที่จับฉลากตั้งแต่วันนี้ เพื่อนำไปประมวลผลในวันที่ 3-4 เม.ย.โดยในวันที่ 5 เม.ย.จะมีการประชุมผอ.เขตพื้นที่ และผอ.โรงเรียน ก่อนจะประกาศผลในวันที่ 7 เม.ย.และรายงานตัววันที่ 8 เม.ย.นี้ ดังนั้นทุกอย่างจะยุติในวันที่ 8 เม.ย. ซึ่งเด็กจะได้รับการจัดสรรและมีที่นั่งเรียนทุกคน รวมทั้งนักเรียนในพื้นที่ สพม.เขต 2 ซึ่งยังมีเด็กเกินจำนวนที่นั่งอยู่ 1,200 คน ซึ่งสามารถเกลี่ยไปยังเขตพื้นที่ใกล้เคียงได้ เพราะขณะนี้ สพม.เขต 1 ยังมีที่ว่างรับ ม.1 อยู่ 3,700 คน และ ม.4 จำนวน 1,700 คน
นายชินภัทร กล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตาม กรณีการรับนักเรียนที่จบ ม.3 เพื่อเรียนต่อ ม.4 ในโรงเรียนเดิมนั้น ทุกโรงเรียนต้องทำตามนโยบายที่ให้รับนักเรียนเดิมร้อยละ 80 และให้สอบคัดเลือกรับนักเรียนภายนอกเพิ่มได้ร้อยละ 20 ของจำนวนรับ ม.4 ทั้งหมด ดังนั้น ผู้ปกครองก็ควรเคารพกฎและกติกา ทั้งนี้ เด็กที่พลาดหวังไม่สามารถเรียนต่อ ม.4 โรงเรียนเดิมได้ ก็ยังมีโรงเรียนเอกชนและวิทยาลัยอาชีวศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ที่มีความพร้อมที่จะรองรับนักเรียนเหล่านี้ได้ ซึ่งปีนี้มีเด็กเข้าสมัครเรียนสายอาชีวะเพิ่มมากขึ้น
“ปีนี้ยังไม่มีการร้องเรียนเรื่องความไม่ยุติธรรมในการรับนักเรียน แต่มีปัญหาผู้ปกครองบางส่วนยังไม่ยอมรับ และมุ่งมั่นที่จะให้ลูกเข้าโรงเรียนดังให้ได้ แต่ก็ยังมีผู้ปกครองส่วนใหญ่ที่เข้าใจนโยบายและยอมรับกติกาตรงนี้ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ สพฐ.ได้ให้โรงเรียนดังจับคู่กับโรงเรียนคู่พัฒนาเพื่อช่วยกันพัฒนาคุณภาพโรงเรียน โดย สพฐ.ให้ ผอ.เขตพื้นที่ประชุมร่วมกับ ผอ.โรงเรียนที่มีการแข่งขันสูง ทำแผนพัฒนาโรงเรียนคู่พัฒนาให้เสร็จภายในเดือน เม.ย.นี้ และดำเนินการปรับปรุงให้เสร็จก่อนเปิดเทอมหรืออย่างน้อยภายในภาคเรียนที่ 1 โดย สพฐ.จัดงบประมาณไว้รองรับแล้ว 200 ล้านบาท” เลขาธิการ กพฐ.กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบรรยากาศการจับสลากนั้นเป็นไปด้วยความตึงเครียด เด็กทุกคนนั่งทำสมาธินิ่ง บางคนถึงกับยกมือขึ้นไหว้ พร้อมกับสร้อยพระที่แขวนมา บางคนตื่นเต้นจนน้ำตาซึม ซึ่งในการจับสลากของ ร.ร.หอวังนั้น จะให้เด็กหยิบเหรียญจากหีบที่ปิดอย่างมิดชิด ซึ่งหากจับได้เหรียญสีเขียวคือได้ และเหรียญสีชมพูคือไม่ได้
ขณะที่ นายวันชัย ผู้ปกครองนักเรียนที่จับสลากแทนลูก กล่าวว่า ตนจับแทนลูก แต่ปรากฏว่าไม่ได้ ก็รู้สึกเสียใจ แต่ก็ดีใจที่โรงเรียนเปิดโอกาสให้ตนมาจับฉลากแทน อย่างไรก็ตามจะให้ลูกกลับไปเรียนที่ ร.ร.พิบูลอุปถัมภ์ ซึ่งเป็นโรงเรียนเดิม สำหรับนโยบาบการรับนักเรียนในปีนี้ เป็นนโยบายที่ดีเพราะให้โอกาสทุกคน รวมถึงการจับสลากก็ยุติธรรม แต่โชคไม่เข้าข้างลูกตัวเอง
ด.ช.เซียมโรมาดล สุภัทร์ อายุ 14 ปี ชั้น ป.6 จาก ร.ร.ปัญจทรัพย์ กล่าวพร้อมน้ำตาคลอเบ้าว่า ดีใจมากที่จับสลากได้ ซึ่งจะได้ช่วยแบ่งเบาภาระพ่อแม่ เนื่องจากหากไม่ได้ที่นี่ก็ต้องไปเรียนโรงเรียนเอกชน ก็จะทำให้พ่อแม่ต้องเสียค่าเทอมแพง สำหรับเพื่อนๆ ที่จับสลากไม่ได้นั้น ก็ไม่ต้องเสียใจ เพราะเชื่อว่าโรงเรียนอื่นๆ ก็มีคุณภาพเท่าเทียมกัน
นางคีริสา ภูรีปติภาน อายุ 41 ปี ผู้ปกครอง ด.ช.ภควัต ดิษฐสุข จาก ร.ร.ธัชรินทร์วิทยา บางเขน ซึ่งจับสลากไม่ได้ กล่าวว่า การจับสลากก็อยู่ที่ดวงของลูก ซึ่งเมื่อจับไม่ได้ก็ไม่เป็นไร และก็พร้อมที่จะเลือกโรงเรียนสำรองตามที่ทาง ร.ร.หอวัง กำหนดให้ เพราะความจริงแล้วเรื่องของคุณภาพโรงเรียนก็คงไม่แตกต่างกันมากนัก แต่เรื่องของชื่อเสียงที่ต้องเลือกโรงเรียนดังนั้นก็คงเป็นเพราะว่าโรงเรียนนั้นๆ เปิดมานาน มีลูกศิษย์ที่จบออกไปมีคุณภาพ แต่เชื่อว่าปัจจุบันนี้ทุกแห่งก็คงเท่าเทียมกัน ทั้งนี้ สำหรับเกณฑ์การรับนักเรียนของ ศธ.ในปีนี้นั้น ถือว่ามีความชัดเจน และตนก็สนับสนุน