เครือข่ายผู้ปกครอง-นักเรียน ดอดให้กำลังใจ “ชินวรณ์” เดินหน้าสกัดแปะเจี๊ยะ เด็กฝาก เจ้าตัวสั่ง สพฐ.คัด ร.ร.คู่พัฒนา พื้นที่ กทม.-ปริมณฑล 10 แห่ง อัดงบ 200 ล.อัปเกรดโรงเรียน รองรับเด็กพลาดหวัง ร.ร.ดัง ระบุ ม.1 เหลืออีกแค่ 10% ยังเคว้ง ยันได้ที่เรียนครบทุกคน ย้ำไม่มีรับรอบ 2
วันนี้ (25 มี.ค.) เมื่อเวลาประมาณ 13.30 น.ที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ภาคีเครือขายผู้ปกครอง ได้แก่ ชมรมค่านิยมเพื่อสร้างชาติ สภาธรรมาภิบาล ชมรมเกษตรชุมชน เครือข่ายพ่อแม่เยาวชนเพื่อการปฏิรูปการศึกษา เครือข่ายวิทยุชุมชน สมาคมเครือข่ายผู้ปกครองแห่งชาติ เครือข่ายผู้ปกครองเพื่อความเป็นธรรมทางการศึกษา เครือข่ายผู้ปกครองฝั่งธนบุรี เครือข่ายผู้ปกครองคนพิการ และตัวแทนนักเรียน กว่า 20 คน เข้ามอบดอกไม้ให้กำลังใจ นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เพื่อสนับสนุนนโยบายขจัดเด็กฝาก และแปะเจี๊ยะ ในการรับนักเรียนประจำปีการศึกษา 2554 ของ ศธ.
นายชินวรณ์ กล่าวว่า จากการได้รับรายงานเบื้องต้นขณะนี้สำหรับการรับนักเรียนชั้น ม.1 มีผู้มาสมัคร 230,000 คน และสามารถเข้าโรงเรียนที่มีอัตราการแข่งขันสูงได้จำนวน 190,000 คน เหลือเพียงแค่ร้อยละ 10 ที่จะต้องเลือกเรียนในโรงเรียนคู่พัฒนา ตามที่เลือกไว้ สำหรับชั้น ม.4 นั้นมียอดสมัคร 240,000 คน ซึ่งนักเรียนส่วนใหญ่ก็จะเป็นในส่วนของนักเรียน ม.3 ขึ้น ม.4 โรงเรียนเดิม และที่สอบคัดเลือก ทั้งนี้ ตนได้สั่งการให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เชิญผู้อำนวยการโรงเรียนที่มีอัตราการแข่งขันสูง ซักซ้อมทำความเข้าใจถึงแนวทางหลังจากที่มีการจับฉลากในวันที่ 27 มี.ค.นี้ ซึ่งจะมีนักเรียนบางส่วนที่ต้องเลือกเรียนโรงเรียนคู่พัฒนา สายอาชีพ และโรงเรียนเอกชน อย่างไรก็ตาม ตนได้มอบให้ สพฐ.คัดเลือกโรงเรียนคู่พัฒนา 10 แห่ง เพื่อมารองรับนักเรียนที่เหลือในส่วนของพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล และจะได้จัดงบประมาณจำนวน 200 ล้านบาท ในปีการศึกษา 2554 นี้ ให้โรงเรียนคู่พัฒนาดังกล่าวได้พัฒนาอย่างเป็นรูปธรรม
“ผมเข้าใจดีว่า การเปลี่ยนแปลงทุกครั้งจะได้รับทั้งดอกไม้และก้อนอิฐ แต่ผมก็จะพยายามจัดระบบการรับนักเรียนให้โปร่งใส เป็นธรรม และขอยืนยันอีกครั้งว่า จะไม่เปิดรับรอบ 2 แน่นอน ซึ่งผู้ปกครองต้องคิดหาทางเลือกให้กับลูก เมื่อลูกไม่สามารถเข้าโรงเรียนดังได้ก็ไม่อยากให้กดดันลูก เพราะหากยังยืนยันจะเข้าให้ได้ เมื่อลูกเข้าไปเรียนก็อาจเรียนไม่ได้ จนต้องออกกลางคัน จึงอยากให้ตัดสินใจเลือกโรงเรียนคู่พัฒนา เรียนสายอาชีพ หรือเอกชน ตามความสามารถของเด็ก” รมว.ศธ.กล่าว
นายชินวรณ์ กล่าวด้วยว่า ส่วนกรณีที่ผู้ปกครองนักเรียนบางรายยังข้องใจเรื่องการรับนักเรียนที่มองว่าอาจจะไม่โปร่งใสนั้น ยืนยันว่าเรื่องนี้ตรวจสอบได้อย่างโปร่งใสอยู่แล้ว ซึ่งผู้ปกครองรายใดที่ยังข้องใจก็สามารถไปรับฟังคำชี้แจง และรายละเอียดของการรับนักเรียนของสถานศึกษาแต่ละแห่งจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาได้ เพราะก่อนหน้านี้ สพฐ.ได้มอบนโยบายไปแล้วว่าเขตพื้นที่ และโรงเรียนจะต้องมีแผนการรับนักเรียนชั้น ม.1 และ ม.4 ที่ชัดเจน โดยจะต้องสามารถชี้แจงข้อข้องใจต่างๆ ให้กับผู้ปกครองได้ทันที อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กระบวนการคัดเลือกนักเรียนเข้าเรียนต่อยังไม่เสร็จสิ้น ดังนั้น คงต้องรอหลังวันที่ 4 เม.ย.นี้ ศธ.จึงจะได้รายชื่อนักเรียนที่ผ่านการคัดเลือกในแต่ละโรงเรียน และจะสามารถตรวจสอบความไม่โปร่งใสได้
ด้าน นายอำนวย สุนทรโชติ ประธานชมรมค่านิยมเพื่อสร้างชาติ หนึ่งในคณะกรรมการติดตาม ประเมินผลการรับนักเรียน กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบการรับนักเรียนที่ จ.ชลบุรี พบว่าเรื่องเงียบมาก จากที่ในอดีตเคยมีปัญหา ซึ่งสถานศึกษาต่างก็พอใจกับนโยบายการรับนักเรียนในปีนี้ ซึ่งโรงเรียนทั้ง 8 แห่งใน จ.ชลบุรี ต่างก็พร้อมใจกันที่จะไม่รับเด็กเงื่อนไขพิเศษ อีกทั้งผู้อำนวยการโรงเรียนในพื้นที่ภาคอีสานหลายแห่ง ให้ข้อมูลว่า ขณะนี้มีความพยายามเคลื่อนไหว กดดัน ให้โรงเรียนรับรอบ 2 แต่ก็ยืนยันว่า โรงเรียนเองก็ปฏิบัติตามนโยบายอย่างเคร่งครัด และไม่อยากรับรอบ 2 อยู่แล้ว