อย.เพิ่มมาตรการเข้ม ลั่นตรวจอาหารจากญี่ปุ่น ประเภทผัก-ผลไม้-อาหารทะเล ทุกรายการที่นำเข้า พร้อมชะลอการกระจายสินค้า ก่อนผลตรวจออก
วันนี้ (24 มี.ค.) นพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวถึงกรณีที่ อย.ต้องเพิ่มมาตรการเข้ม คุมอาหารที่นำเข้าจากญี่ปุ่น โดยเฉพาะผัก-ผลไม้ ว่า นับจากวันนี้จะเป็นการปรับเพิ่มมาตรการคุมเข้มในส่วนของอาหารนำเข้า โดยจะเก็บตัวอย่างผัก-ผลไม้ ทุกรายการ เพื่อตรวจหาสารปนเปื้อน จากเดิมที่สุ่มตรวจแค่บางรายการเท่านั้น และระหว่างการรอผลตรวจจากสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ อย. ก็ได้ขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการให้ชะลอการนำเข้า การจำหน่าย/กระจายสินค้า ที่มีแหล่งผลิตจากเกาะฮอนชู
นพ.พิพัฒน์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ จากการที่ อย.ได้ดำเนินการตรวจ อาหารที่นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่วันที่ 15 มี.ค. 2554 รวมทั้งสิ้น 65 ตัวอย่าง วันนี้ (24 มี.ค.) อย. ได้รับผลวิเคราะห์จากสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ จำนวน 39 ตัวอย่าง ได้แก่ ปลาสด 29 ตัวอย่าง มันเทศ 1 ตัวอย่าง ลูกพลับแห้ง 1 ตัวอย่าง สตรอว์เบอร์รี 2 ตัวอย่าง หอย 3 ตัวอย่าง กุ้ง 2 ตัวอย่าง และปลาหมึก 1 ตัวอย่าง ผลการตรวจวัดสารกัมมันตรังสีอยู่ในเกณฑ์ปกติ คือ ไม่มีสารปนเปื้อนใดๆ
“เราจะเน้นตรวจพิเศษในอาหารสด จำพวกผัก ผลไม้ ได้แก่ สตรอว์เบอรี่ ซึ่งมีนำเข้าทั้งหมดราว 20-30 กิโลกรัม และมันเทศน์นำเข้าราว 100 กิโลกรัม ส่วนในอาหารทะเล เช่น ปลาซาบะ ปลาแมคเคอเรล จะต้องตรวจเข้มพิเศษอยู่แล้ว เพราะมีการนำเข้ามาใช้ในภัตตาคารที่เมืองไทยกันมาก แต่คงไม่ได้สั่งระงับด่วน ในจำนวนมากเหมือนอย่างสหรัฐอเมริกา และฮ่องกง เนื่องจากสองประเทศนี้มีอัตรานำเข้ามากกว่าไทย ” นพ.พิพัฒน์ กล่าว
ผู้ สื่อข่าวถามว่า แล้วในเรื่องของนมนั้นจะมีการสุ่มตรวจ หรือชะลอการนำเข้าด้วย หรือเปล่า เลขาธิการ อย.กล่าวว่า เนื่องจากประเทศไทยไม่มีการสั่งนมจากญี่ปุ่นอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องสุ่มตรวจในสินค้าดังกล่าว อย่างไรก็ตาม อย.จะยังคงมุ่งเน้นที่การตรวจการนำเข้าจากผู้ประกอบการเป็นหลัก แต่หากมีประชาชนที่เดินทางกลับแล้วซื้อมามากในปริมาณผิดสังเกตก็อาจตรวจด้วย ซึ่งส่วนนี้ฝากด่านตรวจคนเข้าเมืองช่วยดูแลด้วย