xs
xsm
sm
md
lg

มลพิษมาบตาพุดทำ ปชช.ป่วยโรคทางเดินหายใจ-มะเร็ง

เผยแพร่:

กรมอนามัย เผย ปชช.จ.ระยอง เข้ารักษาในโรงพยาบาลภาครัฐ สถานีอนามัยและศูนย์บริการสาธารณสุขเพิ่มขึ้น ตั้งแต่ปี 2547-2552 โดยมียอดผู้ป่วยนอกเพิ่มถึง 300,000 ครั้งต่อปี หลังพบมลพิษที่มาบตาพุดส่งผลต่อสุขภาพและเป็นต้นเหตุเกิดโรคทางเดินหายใจ มะเร็ง พร้อมเดินหน้าอบรมให้ความรู้แก่อาสาสมัครสาธารณสุข แกนนำชุมชน และพี่เลี้ยงเด็ก เพื่อถ่ายทอดสู่ประชาชนในพื้นที่หวังลดอัตราการป่วย

วันนี้ (23 มี.ค.) นายแพทย์สุวัช เซียศิริวัฒนา รองอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดการอบรมเชิงปฏิบัติการเรื่องการเฝ้าระวังและสร้างเสริมสุขภาพจากมลพิษสิ่งแวดล้อม ณ โรงแรมสตาร์ จังหวัดระยอง ว่า ปัจจุบันมลพิษสิ่งแวดล้อมในพื้นที่มาบตาพุดและบริเวณใกล้เคียง บางพื้นที่อาจมีสารมลพิษต่ำกว่ามาตรฐาน บางพื้นที่อาจมีสารมลพิษสูงกว่ามาตรฐาน การแก้ปัญหาที่จะช่วยดูแลและป้องกันสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวได้ คือ การให้ความรู้ด้านการเฝ้าระวังสุขภาพ การสร้างเสริมสุขภาพและการอนามัยสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ประชาชนสามารถนำความรู้ไปใช้ปฏิบัติในชีวิตประจำวันและในชุมชนของตนเอง อันจะช่วยลดผลกระทบที่เกิดจากสารมลพิษนั้นให้น้อยลง เพราะจากข้อมูลการเจ็บป่วยของประชาชนในจังหวัดระยองที่มารับการรักษาในโรงพยาบาลภาครัฐ สถานีอนามัยและศูนย์บริการสาธารณสุขที่อยู่ในเครือข่ายของโรงพยาบาลแต่ละแห่งพบว่า จำนวนผู้ปวยนอกที่มารับบริการมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปีตั้งแต่ปี 2547-2552 พบว่า ยอดผู้ป่วยนอกเพิ่มถึง 300,000 ครั้งต่อปี และมีแนวโน้มการใช้บริการทางการแพทย์มากขึ้นเกือบ 2 เท่า ในช่วงปี 2540-2552

นายแพทย์ สุวัช กล่าวต่อว่า กลุ่มโรคในผู้ป่วยนอกที่พบบ่อยในทุกๆ อำเภอ และอยู่ในลำดับที่ 1 ของทุกปี คือ กลุ่มโรคระบบทางเดินหายใจ ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบอัตราป่วยในระดับพื้นที่กับระดับประเทศแล้ว พบว่า อัตราการป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจของจังหวัดระยองสูงกว่าระดับประเทศ ส่วนกลุ่มโรคที่พบบ่อยในผู้ป่วยในและจัดอยู่ในลำดับต้น ๆ คือ ภาวะแทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์ การคลอด และหลังคลอด เมื่อเปรียบเทียบกับอัตราการป่วยของระดับประเทศ โดยไม่นับรวมกรุงเทพมหานคร พบว่า โรคในกลุ่มภาวะแทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์ การคลอด และหลังคลอด ภาวะบางอย่างที่เกิดจากการกำเนิดและอุบัติเหตุค่อนข้างสูงกว่าอัตราป่วยในระดับประเทศ

นายแพทย์ สุวัช กล่าวต่ออีกว่า จากข้อมูลของสถาบันมะเร็งแห่งชาติล่าสุดปี 2541-2543 ที่ได้จัดทำสถิติอัตราการเกิดมะเร็งรายใหม่ต่อประชากร 100,000 คน ในลักษณะการเปรียบเทียบการเกิดโรคของประชาชนที่อาศัยในพื้นที่ต่าง ๆ โดยจังหวัดระยองเป็น 1 ใน 9 จังหวัดที่เข้าร่วมโครงการ พบว่า ประชากรชายในจังหวัดระยองมีอัตราการเป็นมะเร็งมากที่สุด 3 ลำดับแรก คือ โรคมะเร็งปอดและหลอดลม ร้อยละ 25.1 มะเร็งตับและท่อน้ำดี ร้อยละ 14.9 และมะเร็งหลอดอาหาร ร้อยละ 10.3 สำหรับประชากรหญิงพบอัตราการเป็นมะเร็งมากที่สุด 3 ลำดับแรกคือ โรคมะเร็งปากมดลูก ร้อยละ 28.5 มะเร็งเต้านม ร้อยละ 22 และมะเร็งปอดและหลอดลม ร้อยละ 7.5 ตามลำดับ

“การแก้ไขปัญหาเพื่อลดจำนวนผู้ป่วยชาย-หญิงในพื้นที่มาบตาพุดและพื้นที่เขตควบคุมมลพิษให้น้อยลงนั้น วิธีการให้ความรู้ในเรื่องการป้องกันโรคและการส่งเสริมสุขภาพยังคงเป็นสิ่งที่จำเป็น โดยเฉพาะการถ่ายทอดความรู้ให้กับประชาชนกลุ่มอาสาสมัครสาธารณสุข แกนนำชุมชนและพี่เลี้ยงเด็ก ถือเป็นกลุ่มสำคัญที่สามารถนำความรู้ที่ได้ไปถ่ายทอดและให้คำปรึกษาแก่ประชาชนในพี้นที่ให้มีความรู้ ความเข้าใจและรู้จักการเฝ้าระวังและสร้างเสริมสุขภาพตนเองให้ปลอดภัยจากมลพิษสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ได้ ดังนั้น ภายหลังการอบรมเรื่องการเฝ้าระวัง และสร้างเสริมสุขภาพจากมลพิษสิ่งแวดล้อมในครั้งนี้ กรมอนามัยคาดหวังว่าผู้เข้ารับการอบรมจะได้มีส่วนช่วยเผยแพร่และสนับสนุนให้ประขาชนในพื้นที่มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและสามารถดำรงชีวิตอยู่ภายใต้มลพิษได้อย่างมีความสุข” รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น