xs
xsm
sm
md
lg

จวก “มาร์ค” ไฟเขียวเก็บภาษีเหล้าตามดีกรี ชี้ทำโจ๋ไทยติดงอม-ขี้เมาอื้ออุบัติเหตุพุ่ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ภาพประกอบข่าวจากอินเทอร์เน็ต
นักวิจัยอาวุโส ศวส.ซัด “มาร์ค” ไฟเขียวกระทรวงการคลัง เปลี่ยนภาษีเหล้าตามดีกรี ผลักเยาวชนไทยให้เป็นนักดื่มถาวร แจงดีกรีต่ำส่งเสริมน้ำเมายอดฮิต เบียร์ ไวน์คูลเลอร์ ราคาถูก-ซื้อง่าย-ขายคล่อง ชี้เลิกอ้างปรับภาษีตามระบบสากล เชื่อ หากปรับนโยบายภาษีดีกรีตามต่างชาติ ส่งผลยอดขี้เมาไทยพุ่งทะลุ พ่วงอุบัติเหตุเท่าตัว เผย ประเทศพัฒนา อย่าง แคนาดา อังกฤษ สนใจระบบภาษีไทย ระบุรัฐได้ประโยชน์ช่วยป้องกันนักดื่มหน้าใหม่

นพ.บัณฑิต ศรไพศาล นักวิจัยอาวุโส ศูนย์วิจัยปัญหาสุรา (ศวส.) กล่าวคัดค้านกรณีที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และกระทรวงการคลัง เสนอให้มีการปรับเปลี่ยนระบบภาษีสรรพสามิตสุราไทยในปัจจุบัน ที่เรียกว่า ระบบสองเลือกหนึ่ง ไปเป็นระบบภาษีตามดีกรี ว่า หากรัฐบาลปรับระบบภาษีสรรพสามิตปัจจุบันไปเป็นแบบภาษีตามดีกรี เยาวชนจะดื่มมากขึ้น และอุบัติเหตุเมาแล้วขับจะมากขึ้น คำถามที่นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นักการเมือง หรือนักวิชาการ ที่เสนอให้ปรับเปลี่ยนระบบภาษีสรรพสามิตปัจจุบันของไทย (ระบบภาษีแบบสองเลือกหนึ่ง) ไปเป็นระบบภาษีแบบตามดีกรีจะต้องตอบให้ได้ คือ 1.หากเปลี่ยนไปเป็นระบบภาษีตามดีกรีแล้ว เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่เยาวชนชอบ ได้แก่ เบียร์ ไวน์คูลเลอร์ เครื่องดื่มแอลกออล์เข้มข้นต่ำต่างๆ ตลอดจนเครื่องดื่มแอลกออล์นำเข้าจะราคาถูกลง ส่งผลให้เยาวชนดื่มมากขึ้นหรือไม่

นพ.บัณฑิต กล่าวอีกว่า ระบบภาษีปัจจุบันของไทย (ระบบภาษีสองเลือกหนึ่ง) นั้น เป็นภาษีพิเศษที่มีกลไกการทำงานที่เรียกว่า “ระบบภาษีตามดีกรีแบบพิเศษ” คือ เป็นระบบภาษีที่ทำให้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดต้องเสียภาษีขั้นต่ำเท่ากับการคิดภาษีตามดีกรี แต่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่หรูหรา ฟุ่มเฟือย ซึ่งเป็นที่นิยมของเยาวชนจะต้องเสียภาษีตามราคาซึ่งสูงกว่าอัตราภาษีตามดีกรี เช่น เบียร์ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ผสมน้ำผลไม้ ไวน์คูลเลอร์ และ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์นำเข้า หรือที่มีการโฆษณา หรือทำการตลาดมาก หากปรับระบบคิดภาษีในปัจจุบันไปเป็นระบบคิดภาษีตามดีกรีแล้ว จะทำให้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เหล่านี้ราคาถูกลง เช่น เบียร์ ไวน์คูลเลอร์ จอห์นนี่วอลเกอร์ แบล็กเลเบิ้ล เป็นต้น

“ผลที่ตามมา คือ เยาวชนจะเริ่มดื่มและกลายเป็นนักดื่มมากขึ้น ทั้งนี้ งานวิจัยจำนวนมากทั้งในและต่างประเทศ พบตรงกันว่า เยาวชนเริ่มต้นดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้มข้นต่ำ รสหวาน และที่มีภาพพจน์ดีจากการโฆษณา ก่อนที่จะกลายเป็นนักดื่มถาวรต่อไป” นพ.บัณฑิต กล่าว

นพ.บัณฑิต กล่าวต่อว่า ประการที่ 2.อัตราภาษีตามดีกรีได้ผลดีในประเทศที่มีสัดส่วนของผู้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สูง เพราะภาษีตามดีกรีทำให้นักดื่มหันมาดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้มข้นต่ำราคาถูก แต่จะเป็นอัตรายอย่างยิ่งในประเทศไทย ซึ่งมีสัดส่วนของเยาวชนผู้ไม่ดื่มสูงมาก เพราะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้มข้นต่ำราคาถูก จะทำให้เยาวชนมาสามารถซื้อดื่มและเป็นนักดื่มถาวรเต็มประเทศในที่สุด

นักวิจัยอาวุโส กล่าวต่อไปว่า การเก็บภาษีตามดีกรีจะทำให้แอลกอฮอล์มีราคาสูงตามภาษีโดยตรง ซึ่งส่งผลให้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่เข้มข้นสูงราคาจะแพง แต่ที่เข้มข้นต่ำราคาจะถูก นักดื่มทั้งหลายจึงหันมาดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้มข้นต่ำกัน การบริโภคโดยรวมจึงลดลง ระบบภาษีตามดีกรีนี้เป็นที่นิยมในประเทศพัฒนาแล้วที่มีสัดส่วนของผู้ดื่มแอลกอฮอล์สูง เช่น สหรัฐฯ 66%, แคนาดา 78%, ออสเตรเลีย 83% และอังกฤษ 88% เนื่องจากประเทศเหล่านี้ไม่ต้องการลดจำนวนนักดื่ม หรือป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ ขอให้นักดื่มดื่มในปริมาณที่น้อยลงก็พอแล้ว นอกจากนี้ หลายประเทศที่พัฒนาแล้ว เช่น แคนาดา อังกฤษ เริ่มสนใจระบบภาษีแบบของประเทศไทย เพราะรัฐได้ประโยชน์มากกว่า และมีส่วนช่วยป้องกันนักดื่มหน้าใหม่

แต่ทั้งนี้ ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีสัดส่วนของผู้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่ำ คนไทยดื่มเพียง 30% นโยบายการควบคุมปัญหาสุราจึงต้องลดการบริโภคเครื่องดื่มไปพร้อมกับการป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ด้วยเสมอ เนื่องจากว่าหากประเทศไทยใช้นโยบายภาษีตามดีกรีโดยมุ่งหวังว่าจะลดการบริโภคแอลกอฮอล์ โดยการสนับสนุนให้เกิดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้มข้นต่ำราคาถูก จะทำให้เยาวชนหันมาซื้อและดื่มแอลกอฮอล์ได้อย่างกว้างขวาง และกลายเป็นนักดื่มถาวรเต็มประเทศอย่างเช่นประเทศที่กล่าวถึงแล้วข้างต้น” นักวิจัยอาวุโส กล่าว

นพ.บัณฑิต กล่าวต่อว่า ผู้ที่มีพฤติกรรมเมาแล้วขับนิยมดื่มเบียร์เป็นอันดับหนึ่ง ไม่ใช่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้มข้นสูงอย่างที่เข้าใจกัน หากเปลี่ยนไปเป็นระบบภาษีตามดีกรีแล้วจะทำให้เบียร์ราคาถูกลงมาก ซึ่งผลที่ตามมา คือ อุบัติเหตุจะมากขึ้น คนในสังคมไทยโดยทั่วไปมักติดภาพว่าอุบัติเหตุนั้นมักเกิดจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้มข้นสูง แต่แท้ที่จริงนั้นคนที่มีพฤติกรรมเมาแล้วขับนั้นนิยมดื่มเบียร์มากที่สุด คือ นิยมดื่มเบียร์ถึง 39% รองลงมา คือ สุราสีไทย และสุราสีต่างประเทศเท่ากันที่ 23% โดยนิยมดื่มเหล้าขาวเป็นอันดับสี่ คือ 13%

“หากปรับระบบภาษีเป็นภาษีตามดีกรีแล้วจะยิ่งทำให้ราคาของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้มข้นต่ำ เช่น เบียร์ จะถูกลงไปอีก อุบัติเหตุย่อมสูงขึ้นไปอีกอย่างแน่นอน ดังนั้นผู้ที่อ้างว่าปรับระบบภาษีแล้วอุบัติเหตุจะลดลงนั้น เพราะคิดว่าอุบัติเหตุเกิดจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้มข้นสูงนั้นเป็นการให้ข้อมูลที่ผิด และหากรัฐบาลปรับเปลี่ยนระบบภาษีสรรพสามิตแบบสองเลือกหนึ่งในปัจจุบันไปเป็นระบบภาษีตามดีกรีแล้ว เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่เป็นที่นิยมดื่มของผู้ที่มีพฤติกรรมเมาแล้วขับและเยาวชนจะมีราคาถูกลง ซึ่งจะส่งผลให้อุบัติเหตุมากขึ้นและเยาวชนกลายเป็นนักดื่มถาวรเต็มประเทศในที่สุด” นพ.บัณฑิต กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น