ศาลปกครองกลางพิพากษายกฟ้อง 2 นักเรียน ถูกตัดสิทธิ์สอบแพทย์ กสพท.เหตุหลักฐานไม่ครบ ตัวแทนยันเตรียมยื่นอุทธรณ์ หวังสร้างบรรทัดฐาน ด้าน กสพท.เผยทั้ง 2 คนสอบไม่ติดอยู่แล้ว ชี้ ยื่นอุทธรณ์อาจละเมิดสิทธิ์คนส่วนใหญ่ที่ทำตามระเบียบอย่างถูกต้อง ระบุ ตัดสิทธิ์ประกาศคะแนนเด็ก ม.6 เพราะเสียงนาฬิกาปลุกดัง ทำตามกฎเคร่งครัด
วันนี้ (4 มี.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น.ที่สำนักงานศาลปกครอง ถ.แจ้งวัฒนะ ตุลาการศาลปกครองกลางนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาคดีที่ น.ส.ศรัญญา จันนามวงศ์ นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนเบญจมราชรังสฤษฎิ์ จ.ฉะเชิงเทรา และ น.ส.ศิริขวัญ เจริญสุขโสภณ นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนบดินทร์เดชา สิงห์ สิงหเสนี ยื่นฟ้องศาลปกครอง ว่า กลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย (กสพท.) ตัดสิทธิ์การเข้าสอบคัดเลือกรับตรงเข้ากลุ่ม กสพท.เมื่อเดือน ต.ค.2553 เนื่องจากส่งหลักฐานภาพถ่ายการสมัครสอบไม่ครบถ้วน ต่อมาศาลปกครองกลางมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวให้ทั้ง 2 คน ได้เข้าสอบแล้ว และได้นัดอ่านคำพิพากษาวันนี้ โดยพิพากษาให้ยกฟ้อง เนื่องจากพิจารณาแล้วเห็นว่าการตัดสิทธิ์สอบโดย กสพท.เป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะผู้ร้องไม่ได้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่ กสพท.กำหนด อีกทั้งนักเรียนยังละเลยการตรวจสอบความครบถ้วนของเอกสารหลักฐานผ่านทางเว็บไซต์ กสพท.ทั้งที่ในช่วงเวลาดังกล่าวพบหลักฐานว่า นักเรียนสามารถเข้าใช้งานเว็บไซต์ Facebook ได้ โดยศาลเห็นว่าการตัดสิทธิ์สอบดังกล่าว จึงไม่ใช่การเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรม หรือการจำกัดสิทธิ์ในการได้รับการศึกษาตามรัฐธรรมนูญแต่อย่างใด
นายคมสัน เมธีกุล ผู้แทนคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน และ ผู้รับมอบอำนาจจาก น.ส.ศรัญญา กล่าวว่า จะนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) และสอบถาม น.ส.ศรัญญา ว่าจะอุทธรณ์หรือไม่
นายอำนวย สุนทรโชติ ผู้รับมอบอำนาจจาก น.ส.ศิริขวัญ กล่าวว่า ตนเคารพในคำพิพากษา แต่ไม่เห็นด้วย และจะอุทธรณ์คดีต่อไปอย่างแน่นอน เพราะกรณีดังกล่าว กสม.มีมติเอกฉันท์แล้วว่าเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน แต่เมื่อศาลปกครองพิพากษาว่าไม่ผิดกฎหมาย จึงจำเป็นต้องต่อสู้เพื่อให้เกิดบรรทัดฐานต่อไป
นายอำนวย กล่าวด้วยว่า สำหรับกรณี นายภานนท์ ศรีธเนศกุล นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ที่ถูก กสพท.ตัดสิทธิ์ไม่ประกาศคะแนนสอบวิชาภาษาไทยและสังคม ในการสอบครั้งล่าสุด เนื่องจากนักเรียนคนดังกล่าวเข้าสอบ โดยวางโทรศัพท์มือถือไว้ในกระเป๋า ซึ่งอยู่นอกห้องห่างออกไปและปิดเครื่องแล้ว แต่ปรากฏว่า มีการตั้งเวลาปลุกไว้ ทำให้โทรศัพท์เสียงดังขึ้นมาเอง เป็นเหตุให้ไม่สามารถเข้ารับการคัดเลือกเป็นนักเรียนแพทย์ได้ ทั้งที่คะแนนสอบน่าจะมีสิทธิ์ได้เข้าสถาบันแพทย์อย่างแน่นอน โดยผู้ปกครองของนักเรียนได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองไว้แล้ว และได้มาร้องต่อ กสม.ด้วย
ด้าน ศ.นพ.อาวุธ ศรีสุกรี เลขาธิการ กสพท.กล่าวว่า การที่ศาลพิจารณายกฟ้อง สะท้อนว่า ศาลมีความเข้าใจในกระบวนการคัดเลือกนักเรียนแพทย์ที่ดีที่สุดของ กสพท.ซึ่งขั้นตอนระเบียบหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ก็ถือเป็นการสอดแทรกให้นักเรียนผู้สมัครเป็นนักเรียนแพทย์ได้รู้หน้าที่ของตนเองอย่างดีที่สุด สำหรับนักเรียนที่ยื่นฟ้องทั้ง 2 คนนั้น ผลคะแนนจากการได้สอบตามคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวของศาล ปรากฏว่า ไม่ได้รับการคัดเลือกเข้าเรียนในสถาบันใด ทาง กสพท.จึงไม่จำเป็นต้องมีการดำเนินการใด หลังจากมีคำพิพากษายกฟ้องครั้งนี้ ส่วนกรณีที่จะมีการยื่นอุทธรณ์นั้น ถือเป็นสิทธิของนักเรียนที่จะกระทำได้ แต่ก็ต้องตระหนักด้วยว่าการยื่นฟ้องนั้น ก็กำลังเป็นการละเมิดสิทธิของนักเรียนคนอื่นส่วนใหญ่ที่ทำตามระเบียบอย่างถูกต้อง ส่วนกรณีเสียงโทรศัพท์ดังระหว่างการสอบนั้น ยืนยันว่าเป็นการทำผิดระเบียบที่ได้เขียนไว้แล้ว ซึ่งหากโทรศัพท์ที่ไม่สามารถปิดได้ นักเรียนก็ต้องถอดแบตเตอรี่ของโทรศัพท์ออก ซึ่งในการสอบครั้งที่ผ่านมานั้น พบกรณีเสียงโทรศัพท์ดังระหว่างการสอบ มากกว่า 3 ราย
