ปลัดแรงงาน ชี้ ขึ้นค่าจ้างขึ้นกับมติ คกก.ค่าจ้างไตรภาคี แจง ปกติปรับขึ้นปีละครั้ง ด้าน กก.ค่าจ้างฝั่งนายจ้าง ยัน ปีนี้ไม่มีปรับขึ้นค่าแรงอีก เหตุเพิ่งปรับเมื่อ 1 ม.ค.ที่ผ่านมา จวกนักการเมืองอย่าเอาค่าแรงมาหาเสียงทางการเมือง
วันนี้ (1 มี.ค.) ที่กระทรวงแรงงาน นายสมเกียรติ ฉายะศรีวงศ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการค่าจ้างกลาง กล่าวถึงกรณีนายกรัฐมนตรี ประกาศนโยบายขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 300 บาทต่อวัน ว่า ยังไม่ได้รับรายงานเรื่องนี้โดยตรงจากนายกรัฐมนตรี หรือ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.แรงงาน ซึ่งการขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำจะต้องมีคณะกรรมการค่าจ้างไตรภาคีเป็นผู้พิจารณา ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของคณะกรรมการ ว่า จะพิจารณาอย่างไร เพราะคณะกรรมการมีความเห็นที่เป็นอิสระ อย่างไรก็ตาม การพิจารณาปกติแล้วจะมีการพิจารณาปรับขึ้นปีละ 1 ครั้ง แต่ก็มีบางปีก็เคยมีการปรับถึง 2 ครั้ง ซึ่งต้องขึ้นอยู่กับคณะกรรมการ
นายปัณณพงศ์ อิทธิ์อรรถนนท์ กรรมการค่าจ้างฝ่ายนายจ้าง กล่าวว่า ได้หารือในหมู่กรรมการค่าจ้างฝ่ายนายจ้าง และมีข้อสรุปร่วมกันว่าจะไม่มีการปรับเพิ่มค่าจ้างอีกในปีนี้ เนื่องจากเพิ่งมีการปรับไปเมื่อวันที่ 1 ม.ค.และผู้ประกอบการก็ยังไม่ทันตั้งหลักเลย ทั้งนี้ ไม่อยากให้เอาเรื่องค่าจ้างมาเป็นประเด็นหาเสียงทางการเมือง และควรปล่อยให้เป็นดุลพินิจของกรรมการค่าจ้างตัดสินใจอย่างอิสระ โดยไม่มีการแทรกแซง หากมีนโยบายใดก็ควรสั่งการผ่านกระทรวงแรงงาน ผ่านตัวแทนภาครัฐที่นั่งอยู่ในกรรมการค่าจ้าง แต่ไม่ควรประกาศล่วงหน้า เพราะจะมีผลกระทบตามมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเงินเฟ้อ ราคาสินค้า และความสามารถในการจ่ายของนายจ้าง
“ไม่ทราบว่า นายกฯต้องการปรับค่าจ้างอีกในเดือนไหน แต่ฝ่ายนายจ้างคุยกันแล้ว ยืนยันว่า ปีนี้ไม่มีปรับอีก จะหาเสียงก็หาไป แต่ทำแบบนี้ถามว่าเอกชนรับภาระไหวไหม พูดแบบนี้ราคาสินค้าก็ขยับขึ้น ผู้ประกอบการจะหันไปหาแรงงานต่างด้าว และลูกจ้างก็จะได้รับผลกระทบในเรื่องค่าครองชีพ และหากจะบอกว่าปรับขึ้นค่าจ้างเพื่อให้สอดคล้องค่าครองชีพ รัฐบาลต้องไปคุมราคาสินค้าไม่ให้เพิ่มสูงขึ้น ไม่เช่นนั้นเท่ากับว่าต้องขึ้นค่าจ้างเพื่อไล่ตามค่าครองชีพไม่มีที่สิ้นสุด" นายปัณณพงศ์ กล่าว
วันนี้ (1 มี.ค.) ที่กระทรวงแรงงาน นายสมเกียรติ ฉายะศรีวงศ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการค่าจ้างกลาง กล่าวถึงกรณีนายกรัฐมนตรี ประกาศนโยบายขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 300 บาทต่อวัน ว่า ยังไม่ได้รับรายงานเรื่องนี้โดยตรงจากนายกรัฐมนตรี หรือ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.แรงงาน ซึ่งการขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำจะต้องมีคณะกรรมการค่าจ้างไตรภาคีเป็นผู้พิจารณา ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของคณะกรรมการ ว่า จะพิจารณาอย่างไร เพราะคณะกรรมการมีความเห็นที่เป็นอิสระ อย่างไรก็ตาม การพิจารณาปกติแล้วจะมีการพิจารณาปรับขึ้นปีละ 1 ครั้ง แต่ก็มีบางปีก็เคยมีการปรับถึง 2 ครั้ง ซึ่งต้องขึ้นอยู่กับคณะกรรมการ
นายปัณณพงศ์ อิทธิ์อรรถนนท์ กรรมการค่าจ้างฝ่ายนายจ้าง กล่าวว่า ได้หารือในหมู่กรรมการค่าจ้างฝ่ายนายจ้าง และมีข้อสรุปร่วมกันว่าจะไม่มีการปรับเพิ่มค่าจ้างอีกในปีนี้ เนื่องจากเพิ่งมีการปรับไปเมื่อวันที่ 1 ม.ค.และผู้ประกอบการก็ยังไม่ทันตั้งหลักเลย ทั้งนี้ ไม่อยากให้เอาเรื่องค่าจ้างมาเป็นประเด็นหาเสียงทางการเมือง และควรปล่อยให้เป็นดุลพินิจของกรรมการค่าจ้างตัดสินใจอย่างอิสระ โดยไม่มีการแทรกแซง หากมีนโยบายใดก็ควรสั่งการผ่านกระทรวงแรงงาน ผ่านตัวแทนภาครัฐที่นั่งอยู่ในกรรมการค่าจ้าง แต่ไม่ควรประกาศล่วงหน้า เพราะจะมีผลกระทบตามมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเงินเฟ้อ ราคาสินค้า และความสามารถในการจ่ายของนายจ้าง
“ไม่ทราบว่า นายกฯต้องการปรับค่าจ้างอีกในเดือนไหน แต่ฝ่ายนายจ้างคุยกันแล้ว ยืนยันว่า ปีนี้ไม่มีปรับอีก จะหาเสียงก็หาไป แต่ทำแบบนี้ถามว่าเอกชนรับภาระไหวไหม พูดแบบนี้ราคาสินค้าก็ขยับขึ้น ผู้ประกอบการจะหันไปหาแรงงานต่างด้าว และลูกจ้างก็จะได้รับผลกระทบในเรื่องค่าครองชีพ และหากจะบอกว่าปรับขึ้นค่าจ้างเพื่อให้สอดคล้องค่าครองชีพ รัฐบาลต้องไปคุมราคาสินค้าไม่ให้เพิ่มสูงขึ้น ไม่เช่นนั้นเท่ากับว่าต้องขึ้นค่าจ้างเพื่อไล่ตามค่าครองชีพไม่มีที่สิ้นสุด" นายปัณณพงศ์ กล่าว
