ประธานวิทยาลัยจักษุแพทย์ เตือนคอนแทกต์เลนส์แฟชั่นนำเข้าจากเกาหลีใต้-ญี่ปุ่น ทำตาอักเสบ แนะใช้เฉพาะกรณีจำเป็น
วันนี้ (23 ก.พ.) ผศ.นพ.ศักดิ์ชัย วงศกิตติรักษ์ ประธานราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงข้อมูลเกี่ยวกับคอนแทกต์เลนส์บิ๊กอาย ว่า โดยความจริงนั้นประโยชน์ของคอนแทกต์เลนส์ (Contact Lens) ที่สำคัญมี 3 ด้าน คือ 1.เพื่อแก้ไขภาวะสายตาผิดปกติ เช่น สายตาสั้น สายตาตายาว หรือสายตาเอียง เช่นเดียวกับการใช้แว่นตา 2.เพื่อรักษาโรคของกระจกตาบางโรค เช่น กระจกตาทะลุ กระจกตาเป็นแผล หรือกระจกตานูนผิดปกติ (Keratoconus) 3.เพื่อความสวยงาม (Cosmetic contact lens) เช่น คอนแทกต์เลนส์สี และคอนแทกต์เลนส์ตาโต คอนแทกต์เลนส์แฟชั่น คือ การนำเอาคอนแทกต์เลนส์ชนิดมีสีต่างๆ มาใช้เพื่อความสวยงาม ในอดีตคอนแทกต์เลนส์สี อาจนำมาใช้ในการช่วยลดความรู้สึกด้อยของผู้ป่วยที่มีปัญหากับกระจกตา เช่น ใส่ปกปิดกระจกตาที่เป็นแผลเป็นสีขาว ให้เป็นสีดำมองเห็นคล้ายกระจกตาและม่านตาคนปกติ หรือใช้ในผู้ป่วยที่ไม่มีม่านตา (Aniridea) ให้สามารถสู้แสงแดดได้มากขึ้น ในระยะเวลา 5-6 ปีที่ผ่านมา กระแสการใช้คอนแทกต์เลนส์สี เพื่อความสวยงามแพร่กระจายมาจากประเทศเกาหลีใต้และญี่ปุ่น เป็นที่นิยมอย่างมากในประเทศไทย โดยอาจมีการระบายสีต่างๆ ลงบนผิวกระจกตา เช่น สีฟ้า สีเขียว หรือแม้แต่สีชมพู โดยอาจเป็นรูปร่างคล้ายม่านตาหรือเป็นลวดลายต่างๆ ทำให้ใบหน้าดูแปลกตาขึ้นและเป็นจุดสนใจของผู้พบเห็น จึงเป็นที่นิยมมากในหมู่วัยรุ่น
“คอนแทกต์เลนส์ที่นิยมมันมากเป็นคอนแทกต์เลนส์แฟชั่นอาจทำให้กระจกตาอักเสบเป็นหนอง จากการใช้คอนแทกต์เลนส์ผิดวิธี ไม่รักษาความสะอาด หรือใส่คอนแทกต์เลนส์นอน จะทำให้มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อที่บริเวณกระจกตา อาจทำให้เกิดปัญหาถึงขั้นตาบอดได้ นอกจากนั้น การใส่คอนแทกต์เลนส์มาเป็นระยะเวลานานๆ อาจทำให้เกิดอาการภูมิแพ้ที่เปลือกตา (Giant papilla conjunctivitis) ทำให้มีอาการเคืองตา ตาแดง ไม่สบายตา และใส่คอนแทกต์เลนส์ได้ไม่ทน จนกระทั่งไม่สามารถใส่ได้ในที่สุด” ผศ.นพ.ศักดิ์ชัย กล่าว
ผศ.นพ.ศักดิ์ชัย กล่าวด้วยว่า อาการผิดปกติเบื้องต้นเป็นที่แสดงให้เห็นปัญหาจากการใส่คอนแทกต์เลนส์บิ๊กอาย คือ มักทำให้เกิดอาคารเคืองตา ตาแดง สู้แสงไม่ได้ อาจมีเชื้อขึ้นตามากกว่าปกติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากอาการรุนแรงขึ้น ถึงขั้นมีการติดเชื้อที่กระจกตา จะทำให้มีตามัวลง และสังเกตเห็นบริเวณสีขาวบนกระจกตาดำ ซึ่งอาจลุกลามทำให้ถึงขั้นตาบอดได้ ดังนั้น หากเริ่มมีอาการเคืองตา ตาแดงผิดปกติควรรีบไปพบจักษุแพทย์ พร้อมบอกประวัติการใช้คอนแทกต์เลนส์ รวมทั้งแล่งจำหน่ายที่ซื้อคอนแทกต์เลนส์มา อย่างไรก็ตาม ในข้อควรระวังในการใช้ รวมทั้งพิจารณาว่าเป็นแหล่งซื้อขายที่น่าเชื่อถือ และใช้เฉพาะกรณีจำเป็น ซึ่งผู้ใช้ต้องศึกษาข้อมูลและดูแลรักษาความสะอาดอย่างถูกต้อง รวมทั้งใส่ในระยะเวลาที่น้อยที่สุด เมื่อหมดความจำเป็นให้ถอดออกทันที และห้ามใส่คอนแทกต์เลนส์นอนเด็ดขาด ทั้งนี้ เพื่อให้จักษุแพทย์ได้ทราบข้อมูล และให้การวินิจฉัยรักษาได้ทันท่วงที หรือหากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพตา สามารถสอบถามปัญหาได้ที่เว็บไซต์ของราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย ที่ www.rcopt.org
วันนี้ (23 ก.พ.) ผศ.นพ.ศักดิ์ชัย วงศกิตติรักษ์ ประธานราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงข้อมูลเกี่ยวกับคอนแทกต์เลนส์บิ๊กอาย ว่า โดยความจริงนั้นประโยชน์ของคอนแทกต์เลนส์ (Contact Lens) ที่สำคัญมี 3 ด้าน คือ 1.เพื่อแก้ไขภาวะสายตาผิดปกติ เช่น สายตาสั้น สายตาตายาว หรือสายตาเอียง เช่นเดียวกับการใช้แว่นตา 2.เพื่อรักษาโรคของกระจกตาบางโรค เช่น กระจกตาทะลุ กระจกตาเป็นแผล หรือกระจกตานูนผิดปกติ (Keratoconus) 3.เพื่อความสวยงาม (Cosmetic contact lens) เช่น คอนแทกต์เลนส์สี และคอนแทกต์เลนส์ตาโต คอนแทกต์เลนส์แฟชั่น คือ การนำเอาคอนแทกต์เลนส์ชนิดมีสีต่างๆ มาใช้เพื่อความสวยงาม ในอดีตคอนแทกต์เลนส์สี อาจนำมาใช้ในการช่วยลดความรู้สึกด้อยของผู้ป่วยที่มีปัญหากับกระจกตา เช่น ใส่ปกปิดกระจกตาที่เป็นแผลเป็นสีขาว ให้เป็นสีดำมองเห็นคล้ายกระจกตาและม่านตาคนปกติ หรือใช้ในผู้ป่วยที่ไม่มีม่านตา (Aniridea) ให้สามารถสู้แสงแดดได้มากขึ้น ในระยะเวลา 5-6 ปีที่ผ่านมา กระแสการใช้คอนแทกต์เลนส์สี เพื่อความสวยงามแพร่กระจายมาจากประเทศเกาหลีใต้และญี่ปุ่น เป็นที่นิยมอย่างมากในประเทศไทย โดยอาจมีการระบายสีต่างๆ ลงบนผิวกระจกตา เช่น สีฟ้า สีเขียว หรือแม้แต่สีชมพู โดยอาจเป็นรูปร่างคล้ายม่านตาหรือเป็นลวดลายต่างๆ ทำให้ใบหน้าดูแปลกตาขึ้นและเป็นจุดสนใจของผู้พบเห็น จึงเป็นที่นิยมมากในหมู่วัยรุ่น
“คอนแทกต์เลนส์ที่นิยมมันมากเป็นคอนแทกต์เลนส์แฟชั่นอาจทำให้กระจกตาอักเสบเป็นหนอง จากการใช้คอนแทกต์เลนส์ผิดวิธี ไม่รักษาความสะอาด หรือใส่คอนแทกต์เลนส์นอน จะทำให้มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อที่บริเวณกระจกตา อาจทำให้เกิดปัญหาถึงขั้นตาบอดได้ นอกจากนั้น การใส่คอนแทกต์เลนส์มาเป็นระยะเวลานานๆ อาจทำให้เกิดอาการภูมิแพ้ที่เปลือกตา (Giant papilla conjunctivitis) ทำให้มีอาการเคืองตา ตาแดง ไม่สบายตา และใส่คอนแทกต์เลนส์ได้ไม่ทน จนกระทั่งไม่สามารถใส่ได้ในที่สุด” ผศ.นพ.ศักดิ์ชัย กล่าว
ผศ.นพ.ศักดิ์ชัย กล่าวด้วยว่า อาการผิดปกติเบื้องต้นเป็นที่แสดงให้เห็นปัญหาจากการใส่คอนแทกต์เลนส์บิ๊กอาย คือ มักทำให้เกิดอาคารเคืองตา ตาแดง สู้แสงไม่ได้ อาจมีเชื้อขึ้นตามากกว่าปกติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากอาการรุนแรงขึ้น ถึงขั้นมีการติดเชื้อที่กระจกตา จะทำให้มีตามัวลง และสังเกตเห็นบริเวณสีขาวบนกระจกตาดำ ซึ่งอาจลุกลามทำให้ถึงขั้นตาบอดได้ ดังนั้น หากเริ่มมีอาการเคืองตา ตาแดงผิดปกติควรรีบไปพบจักษุแพทย์ พร้อมบอกประวัติการใช้คอนแทกต์เลนส์ รวมทั้งแล่งจำหน่ายที่ซื้อคอนแทกต์เลนส์มา อย่างไรก็ตาม ในข้อควรระวังในการใช้ รวมทั้งพิจารณาว่าเป็นแหล่งซื้อขายที่น่าเชื่อถือ และใช้เฉพาะกรณีจำเป็น ซึ่งผู้ใช้ต้องศึกษาข้อมูลและดูแลรักษาความสะอาดอย่างถูกต้อง รวมทั้งใส่ในระยะเวลาที่น้อยที่สุด เมื่อหมดความจำเป็นให้ถอดออกทันที และห้ามใส่คอนแทกต์เลนส์นอนเด็ดขาด ทั้งนี้ เพื่อให้จักษุแพทย์ได้ทราบข้อมูล และให้การวินิจฉัยรักษาได้ทันท่วงที หรือหากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพตา สามารถสอบถามปัญหาได้ที่เว็บไซต์ของราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย ที่ www.rcopt.org
