เจ้าอาวาสวัดไทยนาลันทา ร้อง วธ.กรณีศาลพิพากษาให้แม่ชีเป็นเจ้าอาวาสวัด พร้อมให้ประสาน พศ.เพื่อหาทางออก ด้าน ผอ.พศ.เผย กฎหมายคณะสงฆ์ไทย ไม่สามารถนำไปใช้ต่างประเทศได้ แนะเจ้าอาวาสและแม่ชีต้องร่วมเจรจากัน เพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้งในวัด
พระครูปริยัติธรรมวิเทศ เจ้าอาวาสวัดไทยนาลันทา เมืองปัฏนา รัฐพิหาร สาธารณรัฐอินเดีย เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 19 ก.พ.ที่ผ่านมานั้น นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ได้เดินทางมาเปิดโครงการปฏิบัติธรรมเนื่องในวันมาฆบูชา ที่สาธารณรัฐอินเดีย และได้เดินทางเข้ามาที่วัดไทยนาลันทา จึงได้ขอความช่วยเหลือ เนื่องจากขณะนี้ศาลสูงเมืองปัฏนา ได้มีคำพิพากษาให้แม่ชีอารีย์ ผ่องใส ซึ่งอยู่ที่วัดเดียวกันเป็นผู้บริหารจัดการวัดแทนเจ้าอาวาส จึงอยากให้ทาง วธ.ช่วยประสานไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เพื่อหาทางออกในเรื่องดังกล่าว โดยแม่ชีคนดังกล่าวได้เดินทางมาเรียนหนังสือที่ประเทศอินเดีย ตั้งแต่สมัยพระมหาธารทอง กิตฺติคุโณ เป็นเจ้าอาวาส และหลังจากที่พระมหาธารทอง มรณภาพลงเมื่อเดือน สิงหาคม 2550 ทางคณะสงฆ์จึงแต่งตั้งตนเป็นเจ้าอาวาส ทำให้แม่ชีอารีย์ไม่พอใจทำให้บทบาทในวัดลดลง เนื่องจากแม่ชีเคยช่วยงานมาตลอด จึงนำเอกสารที่ระบุว่าเป็นพินัยกรรมที่เจ้าอาวาสรูปก่อนเขียนให้ไปฟ้องศาล จนศาลมีคำพิพากษาออกมาว่าให้แม่ชีมีสิทธิในการบริหารวัด ซึ่งขณะนี้แม่ชีอารีย์ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ กับทางวัด
พระครูปริยัติธรรมวิเทศ กล่าวต่อว่า ทางนายนิพิฏฐ์ได้รับเรื่องดังกล่าวไว้แล้ว และได้มอบให้กรมการศาสนา (ศน.) ประสานไปยัง พศ.ในการให้ความช่วยเหลือต่อไป นอกจากนี้ จะนำปัญหาดังกล่าวเข้าหารือในที่ประชุมพระธรรมทูตทั่วโลกซึ่งจะมีการประชุมในวันที่ 24 ก.พ.ที่สาธารณรัฐอินเดียด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในคำสั่งศาลสูงเมืองปัฏนา ที่แจ้งไปยังวัดไทยนาลันทานั้น ระบุว่า ศาลได้พิจารณาจากเอกสารต่างๆ และบัญชีของวัด ตามที่แม่ชีอารีย์ ยื่นฟ้องต่อศาล จึงมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 17 กันยายน 2553 ให้พื้นที่วัดเป็นของแม่ชีอารีย์ และมีสิทธิ์ในการบริหารวัดทั้งหมด แต่ศาลยังเปิดโอกาสให้ทางพระสงฆ์ยื่นเอกสารเข้ามาชี้แจง แต่จนถึงขณะนี้หลักฐานที่พระสงฆ์ยื่นไปยังศาลนั้นยังมีไม่เพียงพอ
ด้านนายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวว่า กรณีวัดไทยนาลันทา ที่ศาลมีคำสั่งให้แม่ชีมีอำนาจในการบริหารวัด อาจจะเกิดได้จากแม่ชีรูปนั้นเป็นประธานมูลนิธิที่ได้จดทะเบียนจัดตั้งวัด เนื่องจากในต่างประเทศการตั้งวัดจะจดทะเบียนในนามมูลนิธิ และส่วนใหญ่วัดจะใช้ฆราวาสเป็นประธานมูลนิธิ ซึ่งทำให้เกิดปัญหาต่างๆ ขึ้นหลายแห่ง โดยเฉพาะที่สหรัฐอเมริกา เจ้าอาวาสไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ เหมือนกับวัดไทยนาลันทา สาธารณรัฐอินเดีย ส่งผลให้เกิดผลกระทบต่างๆ มากมาย ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าว กฎมหาเถรสมาคม (มส.) หรือกฎหมายของคณะสงฆ์ไทย ไม่สามารถเข้าไปใช้ในต่างประเทศได้ วัดที่อยู่ในต่างประเทศก็ต้องดำเนินการตามกฎหมายในประเทศนั้นๆ
ผอ.พศ.กล่าวอีกว่า ทาง พศ.ได้เสนอแนวทางแก้ไขให้แก่วัดที่อยู่ในต่างประเทศ โดยให้เจ้าอาวาสเป็นประธานมูลนิธิ และให้พระลูกวัดร่วมเป็นกรรมการ กับฆราวาส ซึ่งหลายวัดในสหรัฐอเมริกาได้ แก้ปัญหาตามที่ พศ.เสนอก็ทำให้ปัญหาต่างๆ ลดลง ในขณะเดียวกัน การที่แม่ชีได้รับอำนาจในการบริหารวัด ทางเจ้าอาวาสก็ต้องมีการเจรจากัน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาความขัดแย้งขึ้นในวัด ซึ่งตนจะสอบถามเรื่องดังกล่าวอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาต่อไป