“นิพิฏฐ์” แจงบทบาทหน้าที่ของศูนย์คุณธรรมและ ศน.ไม่ซ้ำซ้อนกัน แย้มรอลุ้น ครม.เห็นชอบตั้งศูนย์คุณธรรมเป็นองค์กรมหาชน และโอนย้ายมาอยู่ในกำกับของ รมว.วธ.ขณะที่งบประมาณของศูนย์ จะดำเนินจัดทำของบปี 55 คาด จะได้ใกล้เคียงเหมือนปีก่อนๆ
วันนี้ (14 ก.พ.) นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 15 กุมภาพันธ์ นี้ วธ.เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบจัดการตั้งศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาพลังแผ่นดินเชิงคุณธรรม (ศูนย์คุณธรรม) เป็นองค์การมหาชน และโอนย้ายจากสำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) หรือ สบร.มาอยู่ในกำกับของรัฐมนตรีว่าการ วธ.สำหรับประเด็นความซ้ำซ้อนเกี่ยวกับบทบาทหน้าที่ของศูนย์คุณธรรม กับกรมการศาสนา (ศน.) นั้น วธ.ได้เตรียมขอชี้แจงต่อ ครม.ซึ่งแม้บทบาทของภารกิจของทั้งสองหน่วยงานจะเป็นการเผยแพร่องค์ความรู้ เพื่อมุ่งเน้นให้คนประพฤติดี มีคุณธรรม จริยธรรม แต่เนื้อหาสาระขององค์ความรู้ที่ทั้งสองหน่วยงานนำไปใช้เผยแพร่นั้น มีความแตกต่างเห็นได้ชัดเจน เช่น ศน.เน้นการเผยแพร่หลักธรรม คำสั่งสอนตามหลักศาสนาของทุกศาสนาที่สอนให้คนเป็นคนดี มีศีลธรรม ส่วนศูนย์คุณธรรมจะให้ความสำคัญกับการเผยแพร่รูปแบบ และวิธีการการประพฤติปฏิบัติดี การเป็นคนดีของสังคม เพื่อให้คนสามารถเลือกนำไปใช้
นายนิพิฏฐ์ กล่าวต่อว่า ได้กำหนดขอบเขตและแนวทางการทำงานของศูนย์คุณธรรม เช่น ส่งเสริมการรวมพลังทางสังคม รวมถึงการจัดประชุมสมัชชาคุณธรรมภายใต้กรอบของคณะกรรมการส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติ เพื่อพัฒนาคุณธรรมความดีที่เหมาะสมกับบริบทของสังคม รวมทั้งการสนับสนุนการศึกษา วิจัย ค้นคว้า สร้างองค์ความรู้ใหม่ รวบรวมองค์ความรู้ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ บริหารจัดการความรู้และเป็นศูนย์ข้อมูลเกี่ยวกับการพัฒนาคุณธรรมความดีรูปแบบต่างๆ ทั้งนี้ หาก ครม.มีมติเห็นชอบตั้งศูนย์คุณธรรมเป็นองค์การมหาชน ตนก็จะนำร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) พ.ศ.. ส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา เพื่อประกาศใช้ โดยคาดว่าจะใช้เวลาไม่เกินเดือนมีนาคม ส่วนงบประมาณของศูนย์คุณธรรมนั้น วธ.กำลังดำเนินการจัดทำแผนของบประมาณปี 2555 ซึ่งคาดว่าจะใกล้เคียงกับงบประมาณที่ศูนย์คุณธรรมได้รับสรรมาทุกปีประมาณ 70-100 ล้านบาท
วันนี้ (14 ก.พ.) นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 15 กุมภาพันธ์ นี้ วธ.เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบจัดการตั้งศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาพลังแผ่นดินเชิงคุณธรรม (ศูนย์คุณธรรม) เป็นองค์การมหาชน และโอนย้ายจากสำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) หรือ สบร.มาอยู่ในกำกับของรัฐมนตรีว่าการ วธ.สำหรับประเด็นความซ้ำซ้อนเกี่ยวกับบทบาทหน้าที่ของศูนย์คุณธรรม กับกรมการศาสนา (ศน.) นั้น วธ.ได้เตรียมขอชี้แจงต่อ ครม.ซึ่งแม้บทบาทของภารกิจของทั้งสองหน่วยงานจะเป็นการเผยแพร่องค์ความรู้ เพื่อมุ่งเน้นให้คนประพฤติดี มีคุณธรรม จริยธรรม แต่เนื้อหาสาระขององค์ความรู้ที่ทั้งสองหน่วยงานนำไปใช้เผยแพร่นั้น มีความแตกต่างเห็นได้ชัดเจน เช่น ศน.เน้นการเผยแพร่หลักธรรม คำสั่งสอนตามหลักศาสนาของทุกศาสนาที่สอนให้คนเป็นคนดี มีศีลธรรม ส่วนศูนย์คุณธรรมจะให้ความสำคัญกับการเผยแพร่รูปแบบ และวิธีการการประพฤติปฏิบัติดี การเป็นคนดีของสังคม เพื่อให้คนสามารถเลือกนำไปใช้
นายนิพิฏฐ์ กล่าวต่อว่า ได้กำหนดขอบเขตและแนวทางการทำงานของศูนย์คุณธรรม เช่น ส่งเสริมการรวมพลังทางสังคม รวมถึงการจัดประชุมสมัชชาคุณธรรมภายใต้กรอบของคณะกรรมการส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติ เพื่อพัฒนาคุณธรรมความดีที่เหมาะสมกับบริบทของสังคม รวมทั้งการสนับสนุนการศึกษา วิจัย ค้นคว้า สร้างองค์ความรู้ใหม่ รวบรวมองค์ความรู้ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ บริหารจัดการความรู้และเป็นศูนย์ข้อมูลเกี่ยวกับการพัฒนาคุณธรรมความดีรูปแบบต่างๆ ทั้งนี้ หาก ครม.มีมติเห็นชอบตั้งศูนย์คุณธรรมเป็นองค์การมหาชน ตนก็จะนำร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) พ.ศ.. ส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา เพื่อประกาศใช้ โดยคาดว่าจะใช้เวลาไม่เกินเดือนมีนาคม ส่วนงบประมาณของศูนย์คุณธรรมนั้น วธ.กำลังดำเนินการจัดทำแผนของบประมาณปี 2555 ซึ่งคาดว่าจะใกล้เคียงกับงบประมาณที่ศูนย์คุณธรรมได้รับสรรมาทุกปีประมาณ 70-100 ล้านบาท