“ผอ.รพ.สงฆ์” เผยพระอาพาธที่เข้ารักษาตัวส่วนใหญ่มาจากเบาหวาน ความดัน ไขมันในเลือดสูง ส่งผลมรณภาพด้วยการติดเชื้อในกระแสเลือดมากสุด ระบุพระในเมืองเสี่ยงอาพาธมากกว่าพระวัดป่า ขณะที่สามเณรอายุ 15-17 ปี เจอความดันโลหิตสูง-โรคหิด แนะประชาชนถวายภัตตาหารเน้นผัก และผลไม้ งดหวาน เค็ม รสจัด ต้นทางช่วยดูแลสุขภาพพระสงฆ์
พญ.วราภรณ์ ภูมิสวัสดิ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสงฆ์ เปิดเผยว่า ใน 2-3 ปีที่ผ่านมาจากข้อมูลพระอาพาธที่เข้ารับการรักษาตัวใน รพ.สงฆ์ ส่วนใหญ่ร้อยละ 80 มาจากโรคเบาหวาน และความดันโลหิต ไขมันในเลือดสูง ทั้งพบว่าสาเหตุของการมรณภาพมาจากการติดเชื้อในกระแสโลหิตมากที่สุด ซึ่งเป็นผลมาจากเบาหวาน การดูแลรักษาจึงต้องเน้นเรื่องของการปรับพฤติกรรมการฉันอาหาร และออกกำลังกายซึ่งอาจไม่ถูกต้องกับกิจวัตรของสงฆ์ เพราะไม่สามารถเลือกอาหารที่ฉันเองได้ ผิดกับประชาชนที่เจ็บป่วยสามารถหลีกเลี่ยงอาหารได้ และมีการออกกำลังกาย ทั้งนี้จากการเก็บข้อมูลในปี 2549 โดยสำรวจสุขภาพพระสงฆ์ทั่วประเทศ พบว่า ร้อยละ 44 เป็นพระสงฆ์ที่มีสุขภาพดี ขณะที่ร้อยละ 55 อาพาธด้วยโรคเรื้อรัง ซึ่งยังพบอีกว่าพระสงฆ์ในเมือง ในชุมชน ส่วนใหญ่จะมีโรคเบาหวาน และความดันโลหิตสูงกว่าพระสงฆ์ที่ อยู่ในสำนักสงฆ์ห่างไกล หรือวัดป่า เนื่องจากฉันอาหารเพียงมื้อเดียว ต้องเดินทางไกลเพื่อไปบิณฑบาต ทำให้เหมือนได้ออกกำลังกายอยู่ตลอด
พญ.วราภรณ์กล่าวอีกว่า จากการสำรวจยังพบด้วยว่า ปัจจุบันมีสามเณรอาพาธด้วยโรคความดันโลหิตสูง โดยมีระดับวัดความดันอยู่ที่ 170 มิลลิเมตรปรอท ซึ่งถือว่าสูงมาก ส่วนใหญ่อายุเฉลี่ย 15-17 ปี และยังพบโรคผิวหนัง เช่น หิด ในสามเณรซึ่งมากกว่าเด็กทั่วไปอีกด้วย อย่างไรก็ตามจากการสอบถามพฤติกรรมการถวายอาหารยังพบว่า 7 ใน 10 ของประชาชนที่ตักบาตร นิยมใส่อาหารที่ตนและผู้ล่วงลับชื่นชอบ ซึ่งส่วนใหญ่ล้วนเป็นอาหารหวาน มัน และเป็นอันตรายต่อสุขภาพพระสงฆ์ ดังนั้น ประชาชนจึงควรเป็นต้นทางในการดูแลสุขภาพพระสงฆ์ด้วยการเลือกอาหารไม่หวาน มันเค็ม รสจัด เน้นผัก ผลไม้ไม่หวานจัดเป็นหลัก
