xs
xsm
sm
md
lg

สช.ใจอ่อน “อาชีวะคู่เดือด” เปิดเรียนปกติจันทร์นี้ - ลั่นสัตยาบัน 11 ข้อยุติศึก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต
ตามคาด! สช.ใจอ่อนอนุมัติ “อาชีวะคู่เดือด” เปิดเรียนได้จันทร์นี้ หลัง 2 สถาบันกางสัตยาบัน 11 ข้อ ยุติศึก ยันพร้อมให้ความร่วมมือตำรวจ เข้มงวดเด็ก ปรับทัศนคติ ส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม อย่างจริงจัง ลั่นหากยังไม่หยุดพร้อมรับการลงโทษทุกกรณี

วันนี้ (28 ม.ค.) นายชาญวิทย์ ทับสุพรรณ ผู้อำนวยการสำนักบริหารงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) เปิดเผยว่า ภายหลังที่ตนได้มอบหมายให้ โรงเรียนเทคโนโลยีบางกะปิ และ โรงเรียนเทคโนโลยีช่างอุตสาหกรรมกรุงเทพ ไปจัดทำแผนป้องกันการก่อเหตุทะเลาะวิวาทร่วมกันนั้น โดยเมื่อวันที่ 27 ม.ค.ที่ผ่านมา ทั้ง 2 สถาบันได้ส่งแผนการดำเนินการมายัง สช.แล้ว ซึ่งทั้ง 2 สถาบันได้ให้สัตยาบันต่อหน้าผู้กำกับสถานีตำรวจนครบาลหัวหมากใน 11 ข้อ ดังนี้

1.แต่ละสถาบันจะไม่ทำการใดๆ ทั้งทางตรงทางอ้อม ที่จะสนับสนุนให้นักเรียนของสถาบันไปก่อเหตุวิวาทกับนักเรียนสถาบันอื่นในทุกกรณี 2.แต่ละสถาบันยินดีที่จะให้ความร่วมมือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เพื่อสนองนโยบายรัฐบาลในทุกกรณี เพื่อป้องกันไม่ให้นักเรียนของสถาบันไปก่อเหตุวิวาท หรือกระทำการอันละเมิดต่อกฎหมาย เพื่อความสงบสุขของสังคม เพื่อชื่อเสียงเกียรติยศของสถาบัน 3.แต่ละสถาบันจะเสริมสร้างศีลธรรม คุณธรรม จริยธรรม แก่นักเรียน อย่างจริงจังเพื่อปรับทัศนคติ วัฒนธรรมองค์กรของนักเรียนรุ่นพี่ที่ถ่ายทอดกันมาในทางที่ผิด เพื่อให้นักเรียนได้เปรียบเทียบผลแห่งการทำดี การคิดถูกทำถูกว่ามีผลแตกต่างกับการทำไม่ดี คิดผิดทำผิดอย่างไร เพื่อนำไปสู่ภูมิคุ้มกันยับยั้งตนเองไม่ให้ไปกระทำผิดอย่างถาวรเป็นแนวทางการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน 4.ให้แต่ละสถาบันสร้างสรรค์กิจกรรมร่วมกันทางด้านกีฬา ดนตรี เทคโนโลยี นวัตกรรมและสิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆ หรือกิจกรรมอื่นที่เป็นประโยชน์ เช่น การออกช่วยเหลือชุมชน ซ่อมอุปกรณ์ต่างๆ ร่วมกัน

5.ให้แต่ละสถาบันร่วมกันคิด และวางมาตรการต่างๆ เพื่อยุติการก่อเหตุวิวาทของนักเรียนในทุกกรณี มีการปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์ให้ทันต่อกับการเปลี่ยนแปลงของสังคม เช่น การจัดครูเวรออกตรวจจุดล่อแหลมร่วมกัน 6.ให้ 2 สถาบันกำกับดูแลไม่ให้นักเรียนกระทำการใดๆ ในลักษณะที่เป็นการยั่งยุทุกรูปแบบ 7.ให้ 2 สถาบันจัดครู อาจารย์ ตรวจค้นอาวุธ และสิ่งที่สามารถใช้เป็นอาวุธได้ก่อนเข้าเรียน เลิกเรียน และระหว่างการเดินทางของนักเรียน 8.ให้ 2 สถาบันควบคุมกำกับดูแล ความประพฤติของนักเรียนทุกคนอย่างใกล้ชิด พร้อมแสวงหาการข่าวจากครู นักเรียน และผู้ปกครองของสถาบันอื่นอย่างต่อเนื่อง กรณีทางสถาบันทราบข่าวความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับพฤติการณ์ของนักเรียนที่จะก่อเหตุให้ทางสถาบัน รีบโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เป็นหัวหน้าหน่วยทราบโดยด่วน เพื่อแก้ปัญหาได้ทันที

9.ให้ 2 สถาบันไม่ปกปิดข้อมูลใดๆ ในการกระทำความผิดของนักเรียนและจะต้องลงโทษทางผู้ปกครองนักเรียนผู้กระทำผิดตามาตรฐาน และระเบียบแบบแผนของทางสถาบันตลอดจนตามกฎหมายบ้านเมืองทุกกรณี 10.กรณีเมื่อมีเหตุนักเรียนทะเลาะวิวาท ผู้บริหารโรงเรียนทั้ง 2 สถาบันตามที่ลงสัตยาบันไว้นี้ควรจะต้องร่วมประชุมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยตนเองทุกครั้ง และ 11.หากทั้ง 2 สถาบันไม่ปฎิบัติตามสัตยาบันที่ให้ไว้ในฉบับนี้ ทางสถาบันยินดีที่จะให้ สช.มีคำสั่งลงโทษทางปกครองแก่สถาบันที่มีการฝ่าฝืนสัตยาบันได้ตามแต่จะเห็นควร

“จากการพิจารณาแผนดังกล่าวแล้วพบว่าทุกฝ่ายจะร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการเฝ้าระวัง และรับรองว่าจะป้องกันไม่ให้เกิดปัญหานี้อีก ดังนั้น สช.จึงอนุญาตให้สถาบันทั้ง 2 แห่งเปิดเรียนได้ตามปกติตั้งแต่วันที่ 31 ม.ค.นี้ เป็นต้นไป” นายชาญวิทย์ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น