สธ.ส่งทีมจิตแพทย์ นักจิตวิทยา ร่วมดูแลจิตใจหญิงสาวถูกแม่ล่ามโซ่ ที่อยุธยา พร้อมประเมินสภาพจิตใจแม่วางแผนเยียวยา แนะการล่ามโซ่ หรือใช้ความรุนแรงห้ามลูกเที่ยว ไม่ใช่ทางแก้ปัญหาที่ถูกต้อง ชี้ พ่อ แม่ ควรพูดคุยกับลูกอย่างน้อยวันละ 10 นาที หรือคุยในวงอาหาร จะช่วยให้พ่อ แม่ ลูก มีโอกาสใกล้ชิดพูดคุยกัน ถามไถ่ทุกข์สุข และแก้ไขปัญหา
จากกรณีที่พบหญิงอายุ 51 ปี ขาพิการทั้ง 2 ข้าง มีอาชีพขายลอตเตอรี่ กักขังล่ามโซ่ลูกสาวอายุ 21 ปี ข้างรถจักรยานยนต์ที่บ้านเช่าหมู่ 1 ตำบลหอรัตนชัย อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตั้งแต่ต้นเดือนมกราคม 2554 เนื่องจากคิดมาก กลัวจะไม่มีใครเลี้ยงและกลัวลูกสาวลูกสาวหนีเที่ยว
วันนี้ (24 ม.ค.)นางพรรณสิริ กุลนาถศิริ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีดังกล่าว ว่า ในส่วนสภาพจิตใจของแม่ลูกรายนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้ส่งจิตแพทย์ นักจิตวิทยาจากกรมสุขภาพจิต เข้าไปร่วมดูแลร่วมกับทีมสุขภาพจิตของจังหวัดอยุธยาแล้ว โดยในส่วนของแม่นั้น เจ้าหน้าที่จะประเมินว่ามีปัญหาทางด้านสุขภาพจิตหรือไม่ หากพบมีปัญหาจะทำการรักษาเยียวยา ซึ่งจะต้องรอให้แม่คลายความวิตกกังวลมากกว่านี้ก่อน
นางพรรณสิริ กล่าวต่อว่า การแก้ปัญหาเด็กหนีเที่ยวนั้นไม่จำเป็นที่จะต้องล่ามโซ่ หรือใช้ความรุนแรงในการห้ามเสมอไป มิหนำซ้ำจะเพิ่มแรงกดดันให้กับเด็ก ทำให้แก้ปัญหาได้ยากขึ้น ทางออกของเรื่องนี้ครอบครัวจะเป็นส่วนสำคัญ โดยเฉพาะพ่อแม่ควรจัดเวลาพูดคุยกับลูกให้เหมือนเป็นเพื่อนลูกอย่างน้อยวันละ 10 นาที หรืออาจจะใช้ช่วงเวลาที่รับประทานอาหาร พร้อมกับพูดคุยเพื่อให้เกิดความสัมพันธ์อันดีในครอบครัว ช่วยกันแก้ไขปัญหา อย่าให้เด็กรู้สึกว่าถูกบีบคั้นจากพ่อแม่มากเกินไป จนทำให้บ้านไม่น่าอยู่และต้องออกไปเที่ยวข้างนอกแทน
ทั้งนี้ หากพ่อแม่ไม่มั่นใจในการให้คำปรึกษาแก่ลูก หรือมีลูกที่ชอบเที่ยวเตร่นอกบ้าน สามารถขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญได้ที่สายด่วนสุขภาพจิต 1323 ที่เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง หรือสามารถพาลูกเข้ามารับคำปรึกษาที่สถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ ศูนย์สุขภาพจิต หรือโรงพยาบาลสุขภาพจิตทั่วประเทศ
จากกรณีที่พบหญิงอายุ 51 ปี ขาพิการทั้ง 2 ข้าง มีอาชีพขายลอตเตอรี่ กักขังล่ามโซ่ลูกสาวอายุ 21 ปี ข้างรถจักรยานยนต์ที่บ้านเช่าหมู่ 1 ตำบลหอรัตนชัย อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตั้งแต่ต้นเดือนมกราคม 2554 เนื่องจากคิดมาก กลัวจะไม่มีใครเลี้ยงและกลัวลูกสาวลูกสาวหนีเที่ยว
วันนี้ (24 ม.ค.)นางพรรณสิริ กุลนาถศิริ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีดังกล่าว ว่า ในส่วนสภาพจิตใจของแม่ลูกรายนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้ส่งจิตแพทย์ นักจิตวิทยาจากกรมสุขภาพจิต เข้าไปร่วมดูแลร่วมกับทีมสุขภาพจิตของจังหวัดอยุธยาแล้ว โดยในส่วนของแม่นั้น เจ้าหน้าที่จะประเมินว่ามีปัญหาทางด้านสุขภาพจิตหรือไม่ หากพบมีปัญหาจะทำการรักษาเยียวยา ซึ่งจะต้องรอให้แม่คลายความวิตกกังวลมากกว่านี้ก่อน
นางพรรณสิริ กล่าวต่อว่า การแก้ปัญหาเด็กหนีเที่ยวนั้นไม่จำเป็นที่จะต้องล่ามโซ่ หรือใช้ความรุนแรงในการห้ามเสมอไป มิหนำซ้ำจะเพิ่มแรงกดดันให้กับเด็ก ทำให้แก้ปัญหาได้ยากขึ้น ทางออกของเรื่องนี้ครอบครัวจะเป็นส่วนสำคัญ โดยเฉพาะพ่อแม่ควรจัดเวลาพูดคุยกับลูกให้เหมือนเป็นเพื่อนลูกอย่างน้อยวันละ 10 นาที หรืออาจจะใช้ช่วงเวลาที่รับประทานอาหาร พร้อมกับพูดคุยเพื่อให้เกิดความสัมพันธ์อันดีในครอบครัว ช่วยกันแก้ไขปัญหา อย่าให้เด็กรู้สึกว่าถูกบีบคั้นจากพ่อแม่มากเกินไป จนทำให้บ้านไม่น่าอยู่และต้องออกไปเที่ยวข้างนอกแทน
ทั้งนี้ หากพ่อแม่ไม่มั่นใจในการให้คำปรึกษาแก่ลูก หรือมีลูกที่ชอบเที่ยวเตร่นอกบ้าน สามารถขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญได้ที่สายด่วนสุขภาพจิต 1323 ที่เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง หรือสามารถพาลูกเข้ามารับคำปรึกษาที่สถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ ศูนย์สุขภาพจิต หรือโรงพยาบาลสุขภาพจิตทั่วประเทศ
