xs
xsm
sm
md
lg

สบส.จับตาคลินิกต้องสงสัยทำแท้งเถื่อน 50 แห่ง แฉรีดลูกติดเชื้อนับหมื่น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สบส.เฝ้าระวังการทำแท้งเถื่อนในคลินิก 50 แห่ง แฉพบบางรายเช่าอพาร์ตเมนต์รีดลูกสดๆ มดลูกติดเชื้อนับหมื่นราย

เมื่อวันที่ 24 ม.ค.นพ.สมชัย ภิญโญพรพาณิชย์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กล่าวว่า ช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา สบส.ได้ขยายผลจับกุมคลินิกทำแท้งหลายแห่ง โดยทำต่อเนื่องหลังจากมีการพบซากทารกกว่า 2,000 ศพ ที่วัดไผ่เงิน โดยประสานงานร่วมกับตำรวจนครบาลและสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ในการสืบเพื่อเตรียมการจับกุมคลินิกที่ลักลอบทำแท้ง โดยจะขยายผลการจับกุมไปทั่วประเทศ ล่าสุด พบว่า มีคลินิกประมาณ 50 แห่ง และ รพ.เอกชนชื่อดังอีกประมาณ 1-2 แห่ง ที่เข้าข่ายลักลอบทำแท้งเถื่อน โดยในเขต กทม.มีคลินิกรับทำแท้งกระจายหลายจุด ทั้งย่านฝั่งธนบุรี ดินแดง ห้วยขวาง อนุสาวรีย์ชัย คลองจั่น หน้ามหาวิทยาลัยรามคำแหง รังสิต หนองแขม คลองตัน และบริเวณหน้าสถานศึกษา รวมถึงแหล่งชุมชนใหญ่ใจกลางเมือง ขณะที่ต่างจังหวัดนั้นเท่าที่สืบทราบขณะนี้ พบว่า มีคลินิกรับทำแท้งเถื่อนแฝงตัวอยู่ตามบริเวณย่านที่มีหอพักนักศึกษา โดยเฉพาะหอพักนักศึกษาหญิง และจังหวัดที่มีมหาวิทยาลัย หรือมีสถานศึกษาขนาดใหญ่ เท่าที่ทราบขณะนี้ สบส.กำลังจับตาหลายนคลินิกใน จ.เชียงใหม่ จ.อุบลราชธานี จ.ชลบุรี โดยเฉพาะในเขตเมืองพัทยา จ.ขอนแก่น จ.เชียงราย และ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
ภาพประกอบข่าวจากอินเทอร์เน็ต
นพ. สมชัย กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ลูกค้าที่มาใช้บริการคลินิกทำแท้งส่วนใหญ่ ไม่ใช่กลุ่มที่เป็นหญิงขายบริการเหมือนในอดีต แต่จะมีความหลากหลาย บางส่วนก็เป็นนักศึกษาที่เกิดพลาดพลั้ง และไม่รู้จะจัดการกับปัญหาอย่างไร แต่บางส่วนเป็นนักศึกษาที่แอบแฝงขายบริการทางเพศ และเกิดตั้งครรภ์ จึงจำเป็นต้องไปทำแท้ง สำหรับราคาค่าทำแท้งขณะนี้ ถือว่าค่อนข้างสูง จากการสืบทราบมีราคาตั้งแต่ 6,000-30,000 บาท จากเดิม 3,000-20,000 บาท ซึ่งการกวาดล้างจับกุมเป็นเหตุผลหนึ่ง ที่ทำให้ค่าบริการสูงขึ้น โดยมักอ้างว่าทำยาก และต้องหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ ส่วนราคาจะคิดตามอายุครรภ์ ถ้าอายุครรภ์น้อยจะราคาถูก เพราะทำง่าย ถ้าอายุครรภ์มากก็จะราคาสูง อาจจะต้องมีแพทย์ร่วมทำด้วย สำหรับการรับลูกค้าของคลินิกเหล่านี้ มีทั้งเปิดรับลูกค้าเอง และส่งต่อลูกค้าจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง ถ้าเป็นคลินิกที่ถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนใหญ่จะเปิดรับลูกค้าเอง โดยชั้นล่างจะตรวจคนไข้ทั่วไป แต่ชั้น 2 จัดเป็นห้องสำหรับทำแท้งโดยเฉพาะ วิธีการทำใช้เครื่องดูดและขูดมดลูก

“ขณะนี้ยอมรับว่าทำการจับกุมทำได้ยากขึ้น เพราะสถานที่รับลูกค้า และที่ทำแท้งจะแยกคนละที่ โดยผู้ที่ทำแท้งจะใช้ระบบนัดหมาย ให้คนไข้ไปพบในที่ที่ไม่มีใครรู้ บางเครือข่ายที่รับลูกค้ามาแล้ว จะไปเช่าอพาร์ตเมนต์ โดยเปิดเป็นห้องและใช้เครื่องมือทำแท้งที่อพาร์ตเมนต์” นพ.สมชัย กล่าว

ส่วนกรณียาเม็ดทำแท้ง RU-486 นพ.สมชัย กล่าวว่า พบว่า มีการใช้ทั้งในคลินิกเถื่อนและคลินิกที่ถูกกฎหมาย โดยทางกรมจะมีการแชร์ข้อมูลกับ อย.เช่น เมื่อ สบส.จับกุมคลินิกและพบยาบางตัว ที่เข้าข่ายเป็นยาเถื่อน จะส่งข้อมูลให้ อย.เมื่อ อย.จับยาได้จะแจ้งให้ สบส.ทราบว่า ยาถูกกระจายไปคลินิกแห่งใด หรือโรงพยาบาลเอกชนแห่งใด

นพ.สมชัย กล่วด้วยว่า จากการจ้างชาวบ้านและนักศึกษา ให้เข้าไปล่อซื้อ ด้วยวิธีเข้ารับบริการทำแท้งแล้วสังเกตการณ์ พบว่ากว่า 80% นั้น มีการรับลูกค้าขาจร และทำแท้งในคลินิกเถื่อน ซึ่งคลินิกเถื่อนแบบนี้จะปราศจากมาตรฐานทางการแพทย์ ทั้งปัญหาเรื่องความสะอาด ซึ่งพบว่า บางรายหลังจากรับบริการแล้ว มีอาการตกเลือด บ้างเสียชีวิต บางรายเกิดอาการติดเชื้อ ทำให้ต้องตัดมดลูกตั้งแต่อายุยังน้อย และไม่มีสามารถมีบุตรได้อีกต่อไป โดยคิดว่าน่าจะมีประมาณปีละ 2 หมื่นราย

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในกรณีเรื่องการทำแท้งเสรีนั้น คิดเห็นอย่างไร นพ.สมชัย กล่าวว่า เรื่องนี้คงจะต้องมีการทำประชาพิจารณ์อย่างกว้างขวาง เพราะมีผลกระทบทั้งในส่วนของความรู้สึกของคนและวัฒนธรรมของคนไทย ในความเห็นส่วนตัวแล้ว เห็นว่า ควรจะแก้ที่ต้นเหตุ คือ การสร้างครอบครัวให้มีความเข้มแข็ง และพ่อแม่มีเวลาให้ลูก สังเกตพฤติกรรมลูก และรับฟังปัญหาของลูกดีกว่าปล่อยให้เกิดปัญหาแล้วเด็กต้องตัดสินใจเอง ปัญหาทำแท้งไม่ต่างจากปัญหาพนันบอล หรือยาเสพติดที่ล้วนแล้วแต่เป็นปัญหาที่เกิดปลายทาง กว่าจะเกิดปัญหาเหล่านี้ มักมีปัญหาอื่นมาก่อน การมีกฎหมายทำแท้งเสรี อาจจะทำให้มีการทำแท้งมากขึ้น โดยไม่มีข้อบ่งชี้

ด้านนพ.สัมพันธ์ คมฤทธิ์ เลขาธิการแพทยสภา กล่าวว่า กรณีที่ระบุว่า มีแพทย์ในโรงพยาบาลเอกชนนำยานี้มาใช้ หากเป็นจริงย่อมผิด เนื่องจากเป็นยาไม่ได้ขึ้นทะเบียน แต่ขณะนี้ทางแพทยสภายังไม่ได้รับการร้องเรียนใดๆ หากหน่วยงานไหนพบขอให้ส่งข้อมูลมา แพทยสภาจะดำเนินการตรวจสอบทันที ส่วนที่ อย.ควรมีการนำยานี้ขึ้นทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่นั้น เรื่องนี้ละเอียดอ่อนมาก คาดว่า ต้องมีการหารือรอบด้าน เพราะหากมีการขึ้นทะเบียนถูกกฎหมายเกรงว่าจะยิ่งมีการทำแท้งมากขึ้นหรือไม่ ประเด็นนี้ต้องพิจารณาดีๆ
กำลังโหลดความคิดเห็น