วธ. นำเมล็ดแห้งต้นศรีมหาโพธิ์ จากอินเดียมาเพาะครั้งแรกในไทย และครั้งแรกในโลก พร้อมทูลเกล้าฯ ถวายในหลวง เฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา 5 ธ.ค.ต่อด้วยแจกจ่ายวัดทั่วประเทศอย่างน้อยจังหวัดละ 1 ต้น
วันนี้ (24 ม.ค.) ที่กระทรวงวัฒนธรรม ได้มีการแถลงข่าวการรับมอบเมล็ดพันธุ์ต้นศรีมหาโพธิ์ที่เจ้าชายสิทธัตถะ ตรัสรู้ให้แก่ประเทศไทย โดยนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวว่า เดิม วธ.มีแนวคิดที่จะนำต้นศรีมหาโพธิ์จากประเทศอินเดีย มาปลูกที่ประเทศไทย โดยจะขออนุญาตเก็บเนื้อเยื่อนำมาเพาะ แต่จากการประสานงานกับสถานเอกอัครราชทูตอินเดียประจำประเทศไทย และคณะกรรมการบริหารวัดพุทธคยาก็ได้รับคำตอบว่าวัดพุทธคยาและต้นศรีมหาโพธิ์ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก การที่จะเข้าไปเก็บเนื้อเยื่อก็เกรงว่าจะเกิดอันตรายต่อต้นศรีมหาโพธิ์ได้ ดังนั้น การเพาะด้วยเนื้อเยื่อจึงไม่สามารถทำได้ จึงได้มีการประสานงานในระยะที่สอง ว่า จะขอทางวัดพุทธคยารวมทั้งคณะกรรมการวัดพุทธคยา ประเทศอินเดีย เก็บเมล็ดแห้งของต้น นำมาเพาะในประเทศไทย โดยทางคณะกรรมการวัด ก็ไม่ขัดข้อง รวมทั้งยังได้เก็บเมล็ดต้นศรีมหาโพธิ์มาระยะหนึ่งแล้ว และเมื่อวันที่ 16 มกราคม ที่ผ่านมา คณะผู้บริหารระดับสูงของ วธ.ได้เดินทางไปประเทศอินดีย เพื่อขอรับมอบเมล็ดแห้งต้นศรีมหาโพธิ์ นอกจากนี้ ทาง วธ.ก็ได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เพื่อทำการเพาะเมล็ดพันธุ์ และจะนำต้นกล้าขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อพระราชทานแก่วัดต่างๆ ทั่วประเทศ ในวโรกาสเฉลิมฉลองครบรอบ 84 พรรษา
“เมล็ดแห้งที่ได้ครั้งนี้มีจำนวนมากนับไม่ถ้วน และที่สำคัญครั้งนี้ถือได้ว่าเป็นครั้งแรกในประเทศไทย และครั้งแรกในโลกที่มีการเพาะเมล็ดต้นศรีมหาโพธิ์ คาดหวังว่า ในชั้นต้นขอให้ได้ต้นกล้า 84 ต้นก่อน ถ้าต้นกล้าที่เพาะเหลือก็จะนำไปแจกจ่ายตามวัดต่างๆ โดยวัดที่จะได้รับมอบต้นกล้านี้จะมีหลักเกณฑ์ในการคัดเลือก คือ ต้องเป็นวัดที่มีความเข้มแข็ง ประชาชนให้ความร่วมมือในการรักษาดูแล เป็นวัดที่เข้าร่วมกิจกรรมกับวธ.อย่างต่อเนื่อง และนอกจากนี้ ก็จะพยายามกระจายไปทั่วทุกจังหวัดในประเทศไทยอย่างน้อยจะได้จังหวัดละ 1 ต้น” รมว.วธ.กล่าว
ขณะที่ร.ศ.ดร.เอ็จ สโรบล รองคณบดีฝ่ายวิจัย คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตร กล่าวว่า ในฐานะผู้รับมอบเมล็ดต้นศรีมหาโพธิ์ไปเพาะก็ได้มีการพิจารณาดูแล้ว คาดว่า ขั้นตอนในการเพาะไม่มีอะไรซับซ้อนมากนัก โดยดูว่าเมล็ดมีการพักตัวหรือไม่ ถ้ามีจะมีเทคนิคในการทำให้งอก เช่น การใช้ความร้อน การเจาะรูหรือวิธีอื่นๆ หลังจากนั้น ก็จะมีการอนุบาลระยะหนึ่ง ซึ่งการนำเมล็ดไปเพาะและลงปลูกเลยจะใช้เวลาไม่นานนัก แต่ถ้าให้ต้นกล้าเจริญเติบโต และนำไปขยายต่อเป็นเนื้อเยื่อต้องใช้เวลามากกว่าการเพาะ กรณีการเพาะเมล็ด 1 เม็ด จะได้ต้นกล้า 1 ต้น แต่ถ้าเป็นการขยายเนื้อเยื่อจะได้ต้นกล้าเยอะมาก และคาดว่า กระบวนการเพาะเมล็ดพันธุ์จนได้เป็นต้นกล้าจะแล้วเสร็จก่อนเดือนธันวาคมแน่นอน
วันนี้ (24 ม.ค.) ที่กระทรวงวัฒนธรรม ได้มีการแถลงข่าวการรับมอบเมล็ดพันธุ์ต้นศรีมหาโพธิ์ที่เจ้าชายสิทธัตถะ ตรัสรู้ให้แก่ประเทศไทย โดยนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวว่า เดิม วธ.มีแนวคิดที่จะนำต้นศรีมหาโพธิ์จากประเทศอินเดีย มาปลูกที่ประเทศไทย โดยจะขออนุญาตเก็บเนื้อเยื่อนำมาเพาะ แต่จากการประสานงานกับสถานเอกอัครราชทูตอินเดียประจำประเทศไทย และคณะกรรมการบริหารวัดพุทธคยาก็ได้รับคำตอบว่าวัดพุทธคยาและต้นศรีมหาโพธิ์ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก การที่จะเข้าไปเก็บเนื้อเยื่อก็เกรงว่าจะเกิดอันตรายต่อต้นศรีมหาโพธิ์ได้ ดังนั้น การเพาะด้วยเนื้อเยื่อจึงไม่สามารถทำได้ จึงได้มีการประสานงานในระยะที่สอง ว่า จะขอทางวัดพุทธคยารวมทั้งคณะกรรมการวัดพุทธคยา ประเทศอินเดีย เก็บเมล็ดแห้งของต้น นำมาเพาะในประเทศไทย โดยทางคณะกรรมการวัด ก็ไม่ขัดข้อง รวมทั้งยังได้เก็บเมล็ดต้นศรีมหาโพธิ์มาระยะหนึ่งแล้ว และเมื่อวันที่ 16 มกราคม ที่ผ่านมา คณะผู้บริหารระดับสูงของ วธ.ได้เดินทางไปประเทศอินดีย เพื่อขอรับมอบเมล็ดแห้งต้นศรีมหาโพธิ์ นอกจากนี้ ทาง วธ.ก็ได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เพื่อทำการเพาะเมล็ดพันธุ์ และจะนำต้นกล้าขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อพระราชทานแก่วัดต่างๆ ทั่วประเทศ ในวโรกาสเฉลิมฉลองครบรอบ 84 พรรษา
“เมล็ดแห้งที่ได้ครั้งนี้มีจำนวนมากนับไม่ถ้วน และที่สำคัญครั้งนี้ถือได้ว่าเป็นครั้งแรกในประเทศไทย และครั้งแรกในโลกที่มีการเพาะเมล็ดต้นศรีมหาโพธิ์ คาดหวังว่า ในชั้นต้นขอให้ได้ต้นกล้า 84 ต้นก่อน ถ้าต้นกล้าที่เพาะเหลือก็จะนำไปแจกจ่ายตามวัดต่างๆ โดยวัดที่จะได้รับมอบต้นกล้านี้จะมีหลักเกณฑ์ในการคัดเลือก คือ ต้องเป็นวัดที่มีความเข้มแข็ง ประชาชนให้ความร่วมมือในการรักษาดูแล เป็นวัดที่เข้าร่วมกิจกรรมกับวธ.อย่างต่อเนื่อง และนอกจากนี้ ก็จะพยายามกระจายไปทั่วทุกจังหวัดในประเทศไทยอย่างน้อยจะได้จังหวัดละ 1 ต้น” รมว.วธ.กล่าว
ขณะที่ร.ศ.ดร.เอ็จ สโรบล รองคณบดีฝ่ายวิจัย คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตร กล่าวว่า ในฐานะผู้รับมอบเมล็ดต้นศรีมหาโพธิ์ไปเพาะก็ได้มีการพิจารณาดูแล้ว คาดว่า ขั้นตอนในการเพาะไม่มีอะไรซับซ้อนมากนัก โดยดูว่าเมล็ดมีการพักตัวหรือไม่ ถ้ามีจะมีเทคนิคในการทำให้งอก เช่น การใช้ความร้อน การเจาะรูหรือวิธีอื่นๆ หลังจากนั้น ก็จะมีการอนุบาลระยะหนึ่ง ซึ่งการนำเมล็ดไปเพาะและลงปลูกเลยจะใช้เวลาไม่นานนัก แต่ถ้าให้ต้นกล้าเจริญเติบโต และนำไปขยายต่อเป็นเนื้อเยื่อต้องใช้เวลามากกว่าการเพาะ กรณีการเพาะเมล็ด 1 เม็ด จะได้ต้นกล้า 1 ต้น แต่ถ้าเป็นการขยายเนื้อเยื่อจะได้ต้นกล้าเยอะมาก และคาดว่า กระบวนการเพาะเมล็ดพันธุ์จนได้เป็นต้นกล้าจะแล้วเสร็จก่อนเดือนธันวาคมแน่นอน
