อาจกล่าวได้ว่า "อาหาร" เกือบทุกชนิดในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นเนื้อสัตว์ ผัก หรือผลไม้ ไม่ได้รับใช้ "คน" อย่างที่ควรจะเป็นอีกต่อไปแล้ว แต่กลับไปรับใช้ "ตลาด" แทน ไม่แปลกที่อาหารตามห้าง หรือท้องตลาดจะสดใหม่ และอยู่ได้นาน ส่วนหนึ่งคงต้องยอมรับว่า มีสารเคมีช่วยสร้างคุณค่าให้อาหารดูดี มีราคา ซึ่งมีทั้งคนที่รู้ และไม่รู้ หรือรู้แต่ก็ยังมองข้าม
แต่สำหรับคนที่รู้ และตระหนักถึงความไม่ปลอดภัยในธุรกิจอาหาร หลาย ๆ คนเริ่มมองหาทางเลือกไว้เป็นทางรอดเพื่อสุขภาพกันมากขึ้น เพราะเริ่มมองถึงสุขภาพในระยะยาว และหนึ่งในเทรนด์สุขภาพที่ได้รับความสนใจก็คือ การรับประทาน "ผักออร์แกนิค" ซึ่งเป็นกระแสที่กำลังมาแรงในทั่วโลก ไม่เพียงแต่ผักเท่านั้น ยังมีไข่ไก่ออร์แกนิค นมออร์แกนิค เนื้อหมูออร์แกนิค เป็นต้น
นุชา ศิริรัตน์ หรือ จอม พนักงานธนาคาร ในวัย 30 ปลาย ๆ หนึ่งในผู้ให้ความสนใจ และได้เปิดธุรกิจเล็ก ๆ ร่วมกับเพื่อนเกี่ยวกับสลัดผักออร์แกนิค (farm on the table) เล่าให้ฟังว่า การรับประทานอาหารอาหารออร์แกนิค เป็นอีกหนึ่งเทรนด์สุขภาพที่กำลังได้รับความสนใจ โดยเฉพาะผักออร์แกนิคที่กลุ่มผู้บริโภคบางกลุ่ม นิยมรับประทานกันมาก
สำหรับความน่าสนใจของผักออร์แกนิกนั้น ถือเป็นอาหารที่เดินสวนทางกับธุรกิจแบบทุนนิยม โดยเป็นไปในวิถีแบบธรรมชาติ เพราะเป็นอาหารที่ผ่านขั้นตอนการผลิต การเพาะปลูก หรือเลี้ยงดูที่ปราศจากสารพิษ สารตกแต่ง ฮอร์โมน โดยสิ้นเชิง
นอกจากนี้ยังมีการวิจัยเกี่ยวกับการทำฟาร์มแบบปกติและออร์แกนิค พบว่า การเพาะปลูกพืชแบบออร์แกนิคช่วยให้พืชมีสารอาหารจำพวกวิตามินซี ฟอสฟอรัส และแมกนีเซียมมากกว่าการปลูกโดยทั่วไปที่ใช้สารเคมี หรือไม่ได้มีการบริการจัดการการเพาะปลูกแบบออร์แกนิคฟาร์ม
ซึ่งแน่นอนว่า การปลูกผักออร์แกนิค ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ ซึ่งต้องใช้เวลา และความอดทนที่สูงมาก เพราะทุกขั้นตอนไม่ใช้สารเคมี และยาฆ่าแมลงสังเคราะห์เลย เห็นได้จาก "ฟาร์ม ออน เดอะ เทเบิล" ที่คุณจอมกับเพื่อน ๆ ทำอยู่นี้ เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่เกิดขึ้นมารองรับเทรนด์สุขภาพ โดยใช้ความละเอียดอ่อนตั้งแต่การเตรียมดิน การปลูก การเก็บเกี่ยว แต่ที่ยาก และต้องใช้ความละเอียดอ่อนกว่านั้นคือ การถนอมผักที่ส่งตรงมาจากไร่ให้สด และใหม่อยู่ตลอดเวลา
"เราไม่ได้ใช้สารเคมีอะไรเลย ผักของเราจึงอยู่ได้ไม่นาน ทำให้ผักล็อตแรกที่เริ่มส่งขายเสียไปกว่าครึ่ง เนื่องจากเก็บผักไว้ในความชื้นไม่เหมาะสม แต่พอเริ่มเรียนรู้ และรอบคอบขึ้น ธุรกิจก็ค่อย ๆ ลงตัว อย่างตอนนี้เริ่มมีลูกค้าสั่งเข้ามาเรื่อย ๆ และเพื่อความสดของผักสลัด เราจะให้สั่งสินค้าล่วงหน้าอย่างน้อย 3 วัน" คุณจอม และพริมา วิริยวัฒน์ หรือ ชิโกะ เพื่อนอีกคนช่วยกันเสริม
สำหรับ ฟาร์ม ออน เดอะ เทเบิล นั้น มีจุดเริ่มต้นจากที่คุณจอม และเพื่อน ๆ เดินทางไปพักผ่อนบนภูเขาสูงที่อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ และได้มีโอกาสารับประทานสลัดผักสดออร์แกนิคจากไร่ปลอดสารพิษ ซึ่งรู้สึกได้ถึงความสด กรอบที่แตกต่างของผักสลัด ทำให้สิ่งแรกที่นึกถึงคือ อยากให้คนรอบข้างได้รับประทานผักเพื่อสุขภาพบ้าง ก็เลยมาเป็นที่มาของสลัดผักออร์แกนิคฟาร์ม ออน เดอะ เทเบิล
"ทุกวันนี้ ผัก และอาหารมีสารพิษปะปนมามาก ไม่แปลกใจว่าทำไมหลาย ๆ คนจึงมีปัญหาเรื่องสุขภาพเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะโรคต่าง ๆ ที่พบเร็วขึ้น ความน่าเป็นห่วงนี้ เราจึงอยากแบ่งปันความสุข และความห่วงใยในเรื่องสุขภาพจากการนำสลัดผักออร์แกนิคหลากหลายชนิดจากไร่ของเพื่อนที่เป็นเจ้าของฟาร์ม มาส่งต่อเพื่อการมีสุขภาพที่ดีของผู้บริโภค" คุณจอมเผย
อย่างไรก็ดี มีคำถามตามมาถึง "ผักปลอดสารพิษ" กับ "ผักออร์แกนิค" ที่หลาย ๆ คนเข้าใจว่ามีความเหมือนกัน แต่ความจริงแล้ว คุณจอม ให้ความรู้ว่า "ผักออร์แกนิคนั้น ในการปลูกจะไม่ใช้สารเคมีใดๆ ในการเพาะปลูกเลย ไม่ว่าจะเป็นปุ๋ย หรือ ยาฆ่าแมลง โดยจะ ใช้เพียงปุ๋ยอินทรีย์และปุ๋ยหมักบำรุงดิน กำจัดแมลงด้วยสารธรรมชาติที่ผลิตจากพืชสมุนไพร นอกจากนี้ แหล่งเพาะปลูกจะต้องเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วย"
"ส่วน ผักปลอดสารพิษ เช่น ผัก Hydroponics หรือ ผัก Hygienic เป็นผักที่ใช้สารเคมีในการเพาะปลูก อาจจะเป็นปุ๋ย เคมีเพียงอย่างเดียวหรือใช้ร่วมกับยากำจัดศัตรูพืช หรือฮอร์โมนบำรุงพืชต่างๆ แต่สารเคมีที่ใช้นั้นจะมีพิษตกค้างในระยะสั้น โดยต้องหยุดฉีดพ่นก่อนวันเก็บเกี่ยวตามที่กำหนดอย่างเคร่งครัด"
กระนั้น คงต้องยอมรับว่า ผักออร์แกนิคยังมีราคาจำหน่ายที่ค่อนข้างสูงอยู่มาก แต่ถ้ามองในระยะยาวแล้ว คุ้มค่ามาก โดยเฉพาะเรื่องสุขภาพ
"หลายคนมองไม่เห็นประโยชน์ และมองเป็นเรื่องสิ้นเปลือง แต่ถ้าไม่เจอปัญหาสุขภาพกับตัวเองก็คงไม่รู้ ส่วนตัวคิดว่า ลงทุนเพื่อสุขภาพในวันนี้ดีกว่าไปเสียเงินรักษาความเจ็บป่วยของตัวเองในอนาคต ซึ่งมันเสียมากกว่ากันมาก" คุณชิโกะฝาก
ปัจจุบัน ฟาร์ม ออน เดอะ เทเบิล มีผลิตภัณฑ์ให้เลือกสรรมากมาย ส่วนใหญ่จะเป็นชุดผักสลัดเพื่อสุขภาพ ประกอบด้วยผักสลัดหลากหลายชนิด เช่น iceberg , red oak , green oak นอกจากนั้นยังมีชาสมุนไพรสดจากพืช 7 ชนิดมีสรรพคุณทางยาไว้ชงดื่มกันด้วย รวมไปถึงน้ำสลัด homemade ที่ทำขึ้นเองให้เลือกซื้อเพิ่มเติมไม่ว่าจะเป็นน้ำสลัดสมุนไพร มัสตาร์ด low-fat และงาซีอิ๊วญี่ปุ่น
สำหรับคนที่สนใจทำธุรกิจสุขภาพแบบนี้ 2 สิ่งที่คุณจอม และคุณชิโกะบอกว่าจะขาดเสียไม่ได้ก็คือ ความอดทน และความละเอียดอ่อน
"ธุรกิจในลักษณะนี้ ต้องใช้ความอดทน และความตั้งใจในการปลูก ตลอดจนความใส่ใจและต้องรอเวลาให้ผักได้เจริญเติบโต นอกจากนั้น ยังต้องใช้ความละเอียดรอบคอบหลังเก็บผักอีกด้วย เพราะผักออร์แกนิคอยู่ไม่ได้ไม่นานต้องเก็บในอุณหภูมิที่เหมาะสม ถ้าอยากทำจริง ๆ แนะนำให้ค่อย ๆ เริ่ม ค่อย ๆ เรียนรู้และตอบสนองผู้บริโภคให้ได้มากที่สุด"
ท่านใดสนใจ เขียนเข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ farmonthetable@gmail.com หรือโทรเข้ามาที่หมายเลข 08-1642-4582 (ติดต่อคุณจอม) รวมทั้งสามารถแวะเวียนเข้าไปดูความเคลื่อนไหวได้ที่เฟซบุ๊กของ Farm On The Table
ข่าวโดย ASTVผู้จัดการ Lite