“ธีรพัฒน์” ปิ๋วนั่ง อ.ก.ค.ศ.อาชีวะ “ศศิธารา” ปัดสกัดดาวรุ่ง เดินหน้าดูโทษขาดราชการ-ปลอมเอกสารต่อ

เผยผลเลือกตั้ง อ.ก.ค.ศ.อาชีวะแทนตำแหน่งว่าง “เฉลิมศักดิ์” เข้าวิน “ศศิธารา” ยันผลโปร่งใส ขณะเดียวกัน เตรียมดูโทษ “ธีรพัฒน์” ขาดราชการ อ้างเอกสารช่วยราชการปลอม ต่อหลัง อ.ก.ค.ศ.สั่งทบทวนโทษวินัยร้ายแรง อ้อมแอ้มไม่ได้นับรวมย้อนหลัง 4 ปี พิจารณาตามสำนวน ไม่หวั่นโดนฟ้อง เผยพร้อมเรียกเจ้าตัวจูบปาก สั่งจัดทำเนียบเช็ค ขรก.ช่วยราชการหน่วยงานอื่น ย้ำไม่จ้องเอาผิดคนๆ เดียว

วันนี้ (6 ม.ค.) น.ส.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) เปิดเผยถึงผลการเลือกตั้งคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) อาชีวศึกษา ทดแทนตำแหน่งที่เออลีรีไทร์ 1 ตำแหน่ง ว่า มีข้าราชครูอาชีวะที่มีสิทธิเลือกตั้งทั้งสิ้น 12,000 คน มาลงคะแนน 11,000 คน มีบัตรเสีย 200 ใบ ทั้งนี้ จากผลการลงคะแนนจากผู้สมัครทั้งสิ้น 22 คน พบว่า นายเฉลิมศักดิ์ พงษ์กล่าวขำ ผู้สมัครเบอร์ 13 ได้คะแนนอันดับ 1 จำนวน 2,131 คะแนน รองลงมาคือ ว่าที่ร้อยตรี ชอบ สมบูรณ์เพ็ญ จำนวน 1,300 คะแนน และ นายธีรพัฒน์ คำคูบอน 1,200 คะแนน เพราะฉะนั้นในการประชุม อ.ก.ค.ศ.อาชีวะครั้งหน้า จะได้มีการประกาศแต่งตั้งนายเฉลิมศักดิ์ ทำหน้าที่กรรมการ อ.ก.ค.ศ.อาชีวะต่อไป

น.ส.ศศิธารา กล่าวต่อว่า สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ในประเด็นของ นายธีรพัฒน์ นั้น คงเข้าใจผิด เพราะการลงคะแนนเป็นไปอย่างถูกต้อง โปร่งใส และที่ออกมาบอกว่ามีการกีดกันการลงสมัครนั้นคงไม่ดี ซึ่งผลที่ออกมาก็ชัดเจนอยู่แล้ว

น.ส.ศศิธารา กล่าวอีกว่า สำหรับกรณีการตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงนายธีรพัฒน์นั้น มีอยู่ 2 ประเด็น คือ การขาดราชการเวลานานติดต่อกัน และการใช้เอกสารปลอมมาขออนุญาตหยุดงานนั้น ในประเด็นแรกนั้นต้องดูว่ามีเจตนา และมีภารกิจจริงหรือไม่ ทั้งนี้ไม่ได้มีการนับรวมย้อนหลัง แต่พบว่า นายธีรพัฒน์ ขาดราชการแบบต่อเนื่อง 10-15 วัน โดยไม่มีหลักฐานชัดเจน และพบหลักฐานการยืมตัวช่วยราชการปลอมด้วย ซึ่งถือเป็นการผิดวินัยร้ายแรง อย่างไรก็ตามในการนำข้อสรุปคณะกรรมการสอบสวนฯ เข้าพิจารณาในที่ประชุม อ.ก.ค.ศ.อาชีวะ ที่ประชุมเห็นว่าไม่ใช่วินัยร้ายแรง และยังไม่เชื่อว่าเอกสารปลอมไม่ปลอม ส่วนเรื่องของพยานบุคคลที่มีการอ้างว่าไม่มีการสอบสวนนั้น ก็ต้องทำตามสำนวน ซึ่งคณะกรรมการสอบสวนฯ ก็พร้อมชี้แจง ซึ่งตนจะนำเรื่องนี้กลับมาทบทวนต่อไป ส่วนที่นายธีรพัฒน์จะฟ้องตนนั้นก็ไม่มีปัญหาแต่ต้องดูว่าจะฟ้องประเด็นใด

“จากนี้จะเรียกนายธีรพัฒน์มาทำความเข้าใจ เพื่อแก้ปัญหาด้านการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และไม่ให้เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นอีก ซึ่งดีกว่าการมาลงโทษกัน อย่างไรก็ตาม ต่อจากนี้จะมีการจัดทำทำเนียบข้าราชการอาชีวะที่ต้องไปช่วยราชการหน่วยงานต่างๆ ให้ชัดเจน ว่า ทำนานเท่าไร ที่ไหน หากนานเกินไปก็อาจมีการเสนอเปลี่ยนคนอื่นบ้าง เนื่องจากทำให้อาชีวะเสียบุคลากรจำนวนมาก นอกจากนี้จะดูไปถึงคนอื่นๆ ที่ช่วยราชการให้หน่วยงานต่างๆ ทำให้อาชีวะขาดบุคลากร โดยจะมีการจัดทำทำเนียบคนที่ไปช่วยราชการ ว่า ทำนานเท่าไหร่ ที่ไหน หากนานมากเกินไปจะเสนอเปลี่ยนคนอื่นบ้าง เพื่อป้องกันปัญหานี้ โดยจะดูภาพรวมทั้งหมดไม่ใช่จะมุ่งร้ายแค่คนๆ เดียว” เลขาธิการ กอศ.กล่าว