“ศศิธารา” ขอวิทยาลัยยืดหยุ่น กรณีนักเรียนไม่ได้รับใบ ร.บ.สมัครเรียนอาชีวะ เช็กหลักฐานจากหนังสือรับรองโรงเรียนเก่าแทนได้ เตรียมประสาน สพฐ.ติดตามต่อ พร้อมสั่งตั้งทีมตรวจความเรียบร้อย จัดซื้อ รับงานครุภัณฑ์งบ SP2
น.ส.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) กล่าวในการประชุมสัมมนาผู้บริหารสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ที่จ.เชียงใหม่ ว่า ตนได้มอบหมายให้ศึกษานิเทศก์ อาชีวศึกษาจังหวัด และผู้บริหารวิทยาลัยในสังกัดแต่ละพื้นที่เข้าไปทำงานร่วมกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเพื่อเตรียมการเปิดรับนักเรียนในปีการศึกษา 2554 โดยจะมีการจัดปฐมนิเทศแนะนำการศึกษาสายอาชีพในโรงเรียนมัธยมศึกษา และร่วมกันออกข้อสอบเพื่อใช้ในการสอบคัดเลือกนักเรียนเข้าเรียนสายอาชีพไปพร้อมๆ กับโรงเรียนสายสามัญ อย่างไรก็ดี ตามที่ นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รมว.กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) มีนโยบายให้รับนักเรียนสายสามัญได้เพียงครั้งเดียวนั้น ในส่วนของอาชีวะจะเปิดรับ 2 ครั้ง และมีโควตาให้กับเด็กที่มีความสามารถและอยากจะเข้าเรียนในสายอาชีพด้วย ซึ่งในปีนี้อยากให้ผู้บริหารแต่ละวิทยาลัยยืดหยุ่นในเรื่องหลักฐานที่เด็กจะนำมาใช้ในการสมัคร และมอบตัวเข้าเรียน โดยในกรณีที่เด็กยังไม่ได้รับใบ ร.บ.จากโรงเรียนเก่ามาก็อาจจะอนุญาตให้ใช้เอกสารใบแทนที่เป็นหนังสือรับรองจากทางโรงเรียนเก่ามาก่อนได้
“หากเด็กไม่มีเอกสาร หลักฐานใดๆ เลยก็ให้สอบถามในรายละเอียด เพราะถ้าโรงเรียนออกใบ ร.บ.ให้ไม่ได้อย่างน้อยก็ควรจะออกใบแทนให้เด็กก่อน แต่ถ้าไม่ออกให้ก็ให้จดชื่อโรงเรียนมาให้ เพื่อที่จะได้ประสานกับทางสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ให้ช่วยติดตามให้ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า ในปีนี้หากผู้บริหารวิทยาลัยทุกคนปฏิบัติตามแนวทางการรับนักเรียนที่กำหนดขึ้นนี้ เชื่อว่า จะสามารถเพิ่มจำนวนเด็กที่จะเข้ามาเรียนสายอาชีพได้อย่างแน่นอน” เลขาธิการ กอศ.กล่าว
น.ส.ศศิธารา กล่าวด้วยว่า กรณีที่มีข่าวปรากฏทางสื่อมวลชนบางฉบับยกให้เรื่องปัญหาการจัดซื้อครุภัณฑ์อาชีวศึกษาด้วยเงินงบประมาณ SP2 เป็นข่าวเด่นในรอบปี 2553 นั้น แม้ว่าเรื่องนี้จะทำให้เกิดภาพลักษณ์ในเชิงลบกับ สอศ.แต่ตนอยากให้มองเรื่องนี้ในเชิงบวก เพราะอย่างน้อยก็มีคนที่ให้ความสนใจงานอาชีวศึกษา อย่างไรก็ตาม ในการจัดซื้อจัดจ้างครุภัณฑ์ดังกล่าวมีความคืบหน้าไปมาก โดยในรอบที่ 1 ที่ใช้งบในการจัดซื้อประมาณ 1,000 ล้านบาทนั้น หลายแห่งจัดซื้อจัดจ้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการส่งมอบสินค้า ดังนั้น ตนจึงขอให้แต่ละวิทยาลัยมีการตรวจรับสินค้าให้ละเอียดรอบคอบและเป็นไปตามที่กำหนดในเงื่อนไขสัญญา นอกจากนี้ เพื่อให้เกิดความเรียบร้อยตนก็จะมีคำสั่งแต่งตั้งให้ นายประเสริฐ บุญเรือง รองเลขาธิการ กอศ.และผู้บริหารระดับสูงของ สอศ.ลงไปติดตามดูแลตรวจสอบการจัดซื้อครุภัณฑ์ในวิทยาลัยต่างๆ ด้วย
น.ส.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) กล่าวในการประชุมสัมมนาผู้บริหารสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ที่จ.เชียงใหม่ ว่า ตนได้มอบหมายให้ศึกษานิเทศก์ อาชีวศึกษาจังหวัด และผู้บริหารวิทยาลัยในสังกัดแต่ละพื้นที่เข้าไปทำงานร่วมกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเพื่อเตรียมการเปิดรับนักเรียนในปีการศึกษา 2554 โดยจะมีการจัดปฐมนิเทศแนะนำการศึกษาสายอาชีพในโรงเรียนมัธยมศึกษา และร่วมกันออกข้อสอบเพื่อใช้ในการสอบคัดเลือกนักเรียนเข้าเรียนสายอาชีพไปพร้อมๆ กับโรงเรียนสายสามัญ อย่างไรก็ดี ตามที่ นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รมว.กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) มีนโยบายให้รับนักเรียนสายสามัญได้เพียงครั้งเดียวนั้น ในส่วนของอาชีวะจะเปิดรับ 2 ครั้ง และมีโควตาให้กับเด็กที่มีความสามารถและอยากจะเข้าเรียนในสายอาชีพด้วย ซึ่งในปีนี้อยากให้ผู้บริหารแต่ละวิทยาลัยยืดหยุ่นในเรื่องหลักฐานที่เด็กจะนำมาใช้ในการสมัคร และมอบตัวเข้าเรียน โดยในกรณีที่เด็กยังไม่ได้รับใบ ร.บ.จากโรงเรียนเก่ามาก็อาจจะอนุญาตให้ใช้เอกสารใบแทนที่เป็นหนังสือรับรองจากทางโรงเรียนเก่ามาก่อนได้
“หากเด็กไม่มีเอกสาร หลักฐานใดๆ เลยก็ให้สอบถามในรายละเอียด เพราะถ้าโรงเรียนออกใบ ร.บ.ให้ไม่ได้อย่างน้อยก็ควรจะออกใบแทนให้เด็กก่อน แต่ถ้าไม่ออกให้ก็ให้จดชื่อโรงเรียนมาให้ เพื่อที่จะได้ประสานกับทางสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ให้ช่วยติดตามให้ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า ในปีนี้หากผู้บริหารวิทยาลัยทุกคนปฏิบัติตามแนวทางการรับนักเรียนที่กำหนดขึ้นนี้ เชื่อว่า จะสามารถเพิ่มจำนวนเด็กที่จะเข้ามาเรียนสายอาชีพได้อย่างแน่นอน” เลขาธิการ กอศ.กล่าว
น.ส.ศศิธารา กล่าวด้วยว่า กรณีที่มีข่าวปรากฏทางสื่อมวลชนบางฉบับยกให้เรื่องปัญหาการจัดซื้อครุภัณฑ์อาชีวศึกษาด้วยเงินงบประมาณ SP2 เป็นข่าวเด่นในรอบปี 2553 นั้น แม้ว่าเรื่องนี้จะทำให้เกิดภาพลักษณ์ในเชิงลบกับ สอศ.แต่ตนอยากให้มองเรื่องนี้ในเชิงบวก เพราะอย่างน้อยก็มีคนที่ให้ความสนใจงานอาชีวศึกษา อย่างไรก็ตาม ในการจัดซื้อจัดจ้างครุภัณฑ์ดังกล่าวมีความคืบหน้าไปมาก โดยในรอบที่ 1 ที่ใช้งบในการจัดซื้อประมาณ 1,000 ล้านบาทนั้น หลายแห่งจัดซื้อจัดจ้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการส่งมอบสินค้า ดังนั้น ตนจึงขอให้แต่ละวิทยาลัยมีการตรวจรับสินค้าให้ละเอียดรอบคอบและเป็นไปตามที่กำหนดในเงื่อนไขสัญญา นอกจากนี้ เพื่อให้เกิดความเรียบร้อยตนก็จะมีคำสั่งแต่งตั้งให้ นายประเสริฐ บุญเรือง รองเลขาธิการ กอศ.และผู้บริหารระดับสูงของ สอศ.ลงไปติดตามดูแลตรวจสอบการจัดซื้อครุภัณฑ์ในวิทยาลัยต่างๆ ด้วย
