xs
xsm
sm
md
lg

รมว.สธ.ยันครุภัณฑ์ไร้ปัญหาจัดซื้อ เผย จชต.น่าห่วงจัดจ้างไม่ได้ตามกำหนด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“จุรินทร์” เผยโครงการไทยเข้มแข็ง สธ. ครุภัณฑ์ไร้ปัญหา จัดซื้อจัดจ้างได้หมด 2,663 ล้านบาท สิ่งก่อสร้างผ่านฉลุยแค่ 43.5% พื้นที่ 5 จชต.น่าห่วงจัดจ้างไม่ได้ตามราคาที่สำนักงบฯกำหนด สั่งรองปลัดสธ.เร่งหารือหาทางออก
 

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการไทยเข้มแข็งของสธ.ในส่วนของ พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อพี้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจว่า วงเงินที่ สธ.ได้รับการจัดสรรทั้งสิ้น 11,508 ล้านบาท แบ่งเป็นสิ่งก่อสร้าง 8,110 ล้านบาท และครุภัณฑ์ 2,663 ล้านบาท โดยในส่วนของครุภัณฑ์ดำเนินการได้ตามที่สำนักงบประมาณให้ความเห็นชอบได้ทั้งหมด สำหรับสิ่งก่อสร้างมีการลงนามในสัญญาจัดซื้อจัดจ้างแล้วมูลค่า 3,286 ล้านบาท คิดเป็น 43.5% ที่เหลือยังอยู่ระหว่างการต่อรองราคาเพื่อให้ได้ในราคาตามที่สำนักงบประมาณกำหนด

รมว.สธ.กล่าวอีกว่า ส่วนที่ยังเป็นปัญหาและต้องเร่งแก้ไขมากที่สุด คือ การจัดจ้างสิ่งก่อสร้างในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีการดำเนินการประมูลอิเล็กทรอนิกส์แล้ว แต่ยังไม่สามารถหาผู้จัดจ้างได้เนื่องจากไม่สามารถรับดำเนินการตามราคาที่สำนักงบประมาณกำหนดได้ เพราะเป็นพื้นที่พิเศษและมีความเสี่ยงสูงมากกว่าพื้นที่อื่นๆ จึงยังคงเหลือรายการที่ไม่สามารถจัดจ้างได้ 19 รายการ ซึ่งตนได้มอบนโยบายให้ดำเนินการต่อตามขั้นตอนตามระเบียบพัสดุของสำนักนายกรัฐมนตรี

“ปรากฏว่า ในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้ดำเนินการตามระเบียบสำนักนายกฯอีก 2 ครั้ง ยังไม่สามารถจัดจ้างได้ ก็ต้องเจรจาต่อรองราคาใหม่จนกว่าจะได้ราคาตามที่สำนักงบประมาณกำหนดหรือจนสิ้นสุดกระบวนการตามระเบียบพัสดุของสำนักนายกรัฐมนตรี ขณะนี้กระบวนการยังไม่สิ้นสุด แต่เกือบที่จะสิ้นสุดแล้ว จึงมอบหมายให้นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ รองปลัดสธ.ดำเนินการหารือกับสำนักงบประมาณเพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นต่อไป” นายจุรินทร์ กล่าว

นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ รองปลัด สธ.กล่าวว่า สำหรับพื้นที่ 5 จังหวัดไม่ใช่ปัญหา โดยขณะนี้อยู่ระหว่างหารือ และคาดว่า จะแล้วเสร็จได้ แต่ยังมีอีกประปรายที่กระจายตามจังหวัดต่างๆ เหลืออีกร้อยละ 3 จากทั้งหมดที่มีการดำเนินการจัดจ้างแล้วร้อยละ 97 อย่างไรก็ตาม การดำเนินการต่างๆ คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้กำหนดให้ดำเนินการแล้วเสร็จภายในกรอบเวลาวันที่ 14 มกราคม 2554 แต่หากไม่ทันจริงๆและมีเหตุผลเพียงพอก็อาจต้องขอขยายเวลาเพิ่ม ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับรัฐมนตรี สธ.จะเห็นชอบอย่างไรว่าควรจะขอขยายเวลาเพิ่มอีกหรือไม่
กำลังโหลดความคิดเห็น