“นริศรา” เผยผลสอบจัดซื้อครุภัณฑ์ SP2 เสร็จแล้ว เตรียมชง สตง.ดูต่อ สั่ง สอศ.ทำหนังสือแจง ครม.ก่อน 31 มี.ค.นี้ หวั่นงบโดนตีตก เสนอ “ชินวรณ์” ขอครู 1,140 อัตรา รองรับจัดตั้งสถาบันการอาชีวศึกษา พร้อมเร่งจัดทำกฎกระทรวงจัดตั้งใหม่ เน้นแบ่งกลุ่มอุตสาหกรรมตามตลาดแรงงาน
วันนี้ (23 มี.ค.) น.ส.นริศรา ชวาลตันพิพัทธ์ รมช.ศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยความคืบหน้าผลการตรวจสอบการจัดซื้อครุภัณฑ์ ตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง หรือ SP2 ของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ว่า ขณะนี้คณะกรรมการตรวจสอบการดำเนินการจัดซื้อครุภัณฑ์ SP2 ได้ตรวจสอบทุกกลุ่มรายการเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว โดยตนได้มอบหมายให้ นพ.สุทธิชัย จันทร์อารักษ์ ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการ ศธ.เสนอผลการตรวจสอบทั้งหมดต่อผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ในวันที่ 24 มี.ค.นี้ ขณะเดียวกัน ตนได้มอบหมายให้ สอศ.ทำหนังสือถึงคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 30 มี.ค.นี้ เพื่อชี้แจงความคืบหน้าการจัดซื้อครุภัณฑ์ รวมถึงชี้แจงว่ารายการใดยังไม่มีการจัดซื้อ เพื่อไม่ให้งบประมาณตกไป เนื่องจากจะเสร็จสิ้นระยะเวลาตามที่ครม.กำหนดในวันที่ 31 มี.ค.นี้แล้ว
น.ส.นริศรา กล่าวถึงผลการประชุมหารือร่วมกับผู้ตรวจราชการ ศธ.เมื่อเร็วๆ นี้ ว่า ตนได้ลงนามเสนอต่อ นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รมว.ศึกษาธิการ เพื่อพิจารณาขอใช้อัตราพนักงานราชการ 1,140 อัตรา เพื่อรองรับการจัดตั้งสถาบันการอาชีวศึกษา และดำเนินการตามมติของคณะกรรมการรัฐมนตรีพัฒนาพื้นที่พิเศษ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (รชต.) ที่ได้ขอบรรจุลูกจ้างชั่วคราวในเขตจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นพนักงานราชการ จำนวน 206 อัตรา นอกจากนี้ ได้เตรียมแผนรองรับการเติบโตของการรับนักเรียนนักศึกษาอาชีวะตามแผนการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่ 2 ที่ต้องการให้สัดส่วนการรับอาชีวะเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 60 จากเดิมร้อยละ 40 ในอีก 5 ปี โดยเมื่อสัดส่วนการรับนักเรียนของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ลดลง สอศ.จะเสนอขอตัดโอนอัตรากำลังของ สพฐ.มายัง สอศ.
น.ส.นริศรา กล่าวด้วยว่า ส่วนความคืบหน้าการจัดตั้งสถาบันการอาชีวศึกษานั้น เนื่องจากการยกร่างกฎหมายจัดตั้งสถาบันการอาชีวศึกษา ที่แบ่งตามพื้นที่เป็น 19 แห่ง ในคราวเดียวกันทั้งหมด ขัดแย้งกับ พ.ร.บ.การอาชีวศึกษา ซึ่งเป็นกฎหมายหลัก หากไม่ปรับแก้ร่างกฎกระทรวงดังกล่าว ทางคณะกรรมการกฤษฎีกาอาจทำความเห็นเสนอไปยังที่ ครม.ขอไม่ให้ผ่านร่างกฎกระทรวง ดังนั้น ขณะนี้จึงอยู่ในขั้นตอนร่างกฎกระทรวงการจัดตั้งสถาบันการอาชีวศึกษาใหม่ ที่จะแบ่งตามกลุ่มอุตสาหกรรมตามความต้องการของตลาดแรงงาน อย่างไรก็ตาม ตนจะนำเรื่องนี้ไปชี้แจงในการประชุมผู้บริหารสถานศึกษาอาชีวศึกษาทั่วประเทศได้รับทราบในวันที่ 25 มี.ค.นี้