“จุรินทร์” เผยทหารเหยื่อ M-79 ทั้ง 2 นายปลอดภัยแล้ว ประกาศยกระดับเตรียมความพร้อมด้านพยาบาลขั้นสูงสุด ชี้มีสัญญาณส่อรุนแรง เตือน “ม็อบแดง” เจาะเลือดระวังติดเอดส์-ไวรัสตับอักเสบ เผยนำเลือดเทราดลงพื้นหากเท้ามีบาดแผลไปเหยียบก็เสี่ยงติดเชื้อเช่นกัน ระบุแยกยากเลือดสัตว์-เลือดคน
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.สาธารณสุข กล่าวภายหลังการประชุมศูนย์ปฏิบัติการทางด้านการแพทย์และสาธารณสุขระดับชาติว่า ได้รับรายงานจาก รพ.พระมงกุฎเกล้าฯ แล้วว่า ทหาร 2 นายที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุคนร้ายลอบใช้อาวุธสงครามชนิดเอ็ม 79 เข้าไปยังกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ (ร.1 พัน 1 รอ.) ถนนวิภาวดีรังสิต เขตดินแดง กทม.ขณะนี้เข้ารับการรักษาตัวอยู่ที่ รพ.พระมงกุฎเกล้าฯ อยู่ในขั้นตอนการเอกซเรย์รักษา โดยอาการของทั้งคู่ปลอดภัยแล้ว ส่วนรายละเอียดต่างๆ รพ.พระมงกุฎเกล้าฯ จะเป็นผู้แถลงต่อไป
รมว.สาธารณสุข กล่าวอีกว่า ขณะนี้ทางศูนย์ได้ยกระดับเตรียมพร้อมด้านการแพทย์และสาธารณสุขขั้นสูงสุด เนื่องจากการประเมินสถานการณ์พบว่ามีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้น จึงต้องเตรียมความพร้อมทางด้านการแพทย์เพิ่มขึ้นด้วย ขณะนี้ได้ประสานให้กับทุกโรงพยาบาลในเขต กทม.และใกล้เคียงเตรียมพร้อมทั้งหมดแล้ว
“ในส่วนของผู้ชุมนุมได้รับรายงานว่า มีหลายคนที่เป็นลมเนื่องจากอยู่กลางแดดนานๆ ทำให้เสียเหงื่อ อาจทำให้ช็อกหมดสติได้ นอกจากนี้ จากที่กลุ่มผู้ชุมนุมระบุว่าจะมีการเจาะเลือดจำนวน 1 ล้านซีซี ผมไม่มีความเห็นทางการเมือง หากเป็นความเห็นทางการแพทย์นั้น ผู้เชี่ยวชาญให้คำแนะนำว่ามีความเป็นห่วงเรื่องการติดเชื้อ โดยเฉพาะเอดส์ และไวรัสตับอักเสบ ซึ่งสามารถติดได้ง่าย รวมทั้งจะต้องมีความระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากบุคลากรที่จะทำการเจาะเลือดควรจะมีความรู้ และมีอุปกรณ์เครื่องมือที่มั่นใจ ว่าจะไม่ทำให้เกิดการติดเชื้อได้”
นายจุรินทร์กล่าาวอีกว่า หากวิเคราะห์ทางการเมือง การนำเลือดมาเทเป็นการบ่งชี้อีกตัวหนึ่งที่อนุมานได้ว่าสถานการณ์จะรุนแรงขึ้น ดังนั้น หากจะดำเนินการเรื่องใดก็ตามควรทำด้วยความระวังระมัดการกระทำที่จะนำไปสู่ความรุนแรง
ด้าน นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัด สธ.กล่าวว่า โดยปกติการให้หรือบริจาคเลือดควรอยู่ในห้องที่สะอาด มีเครื่องมือครบพร้อม แต่หากมีความจำเป็นก็สามารถเจาะเลือดในภาคสนามได้ แต่ก็ต้องทำด้วยความระมัดระวัง และในส่วนสุขภาพผู้ชุมนุมก็อาจจะได้รับอันตรายด้วย เนื่องจากอากาศค่อนข้างร้อนยิ่งถ้ามีการเจาะเลือดก็อาจจะทำให้ผู้ให้เลือดช็อกได้ ซึ่งตามแนวปฏิบัติการบริจาคโลหิต ผู้บริจาคต้องพักผ่อนอย่างเพียงพอ และดูแลสุขภาพ ซึ่งหากนำเลือดไปเทราดบนพื้น ผู้ที่มีบาดแผลที่เท้าไปเหนียบก็อาจจะทำให้ติดเชื้อเอดส์ และไวรัสตับอักเสบได้เช่นกัน แต่หากไม่มีบาดแผล เชื้อโรคที่มีอยู่ในโลหิตก็จะตายภายใน 1 วัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะสามารถแยกออกหรือไม่ระหว่างเลือดสัตว์หรือเลือดคน นพ.ไพจิตร์ กล่าวว่า แยกได้ลำบากต้องนำไปตรวจในห้องปฏิบัติการจึงจะทราบ
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.สาธารณสุข กล่าวภายหลังการประชุมศูนย์ปฏิบัติการทางด้านการแพทย์และสาธารณสุขระดับชาติว่า ได้รับรายงานจาก รพ.พระมงกุฎเกล้าฯ แล้วว่า ทหาร 2 นายที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุคนร้ายลอบใช้อาวุธสงครามชนิดเอ็ม 79 เข้าไปยังกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ (ร.1 พัน 1 รอ.) ถนนวิภาวดีรังสิต เขตดินแดง กทม.ขณะนี้เข้ารับการรักษาตัวอยู่ที่ รพ.พระมงกุฎเกล้าฯ อยู่ในขั้นตอนการเอกซเรย์รักษา โดยอาการของทั้งคู่ปลอดภัยแล้ว ส่วนรายละเอียดต่างๆ รพ.พระมงกุฎเกล้าฯ จะเป็นผู้แถลงต่อไป
รมว.สาธารณสุข กล่าวอีกว่า ขณะนี้ทางศูนย์ได้ยกระดับเตรียมพร้อมด้านการแพทย์และสาธารณสุขขั้นสูงสุด เนื่องจากการประเมินสถานการณ์พบว่ามีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้น จึงต้องเตรียมความพร้อมทางด้านการแพทย์เพิ่มขึ้นด้วย ขณะนี้ได้ประสานให้กับทุกโรงพยาบาลในเขต กทม.และใกล้เคียงเตรียมพร้อมทั้งหมดแล้ว
“ในส่วนของผู้ชุมนุมได้รับรายงานว่า มีหลายคนที่เป็นลมเนื่องจากอยู่กลางแดดนานๆ ทำให้เสียเหงื่อ อาจทำให้ช็อกหมดสติได้ นอกจากนี้ จากที่กลุ่มผู้ชุมนุมระบุว่าจะมีการเจาะเลือดจำนวน 1 ล้านซีซี ผมไม่มีความเห็นทางการเมือง หากเป็นความเห็นทางการแพทย์นั้น ผู้เชี่ยวชาญให้คำแนะนำว่ามีความเป็นห่วงเรื่องการติดเชื้อ โดยเฉพาะเอดส์ และไวรัสตับอักเสบ ซึ่งสามารถติดได้ง่าย รวมทั้งจะต้องมีความระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากบุคลากรที่จะทำการเจาะเลือดควรจะมีความรู้ และมีอุปกรณ์เครื่องมือที่มั่นใจ ว่าจะไม่ทำให้เกิดการติดเชื้อได้”
นายจุรินทร์กล่าาวอีกว่า หากวิเคราะห์ทางการเมือง การนำเลือดมาเทเป็นการบ่งชี้อีกตัวหนึ่งที่อนุมานได้ว่าสถานการณ์จะรุนแรงขึ้น ดังนั้น หากจะดำเนินการเรื่องใดก็ตามควรทำด้วยความระวังระมัดการกระทำที่จะนำไปสู่ความรุนแรง
ด้าน นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัด สธ.กล่าวว่า โดยปกติการให้หรือบริจาคเลือดควรอยู่ในห้องที่สะอาด มีเครื่องมือครบพร้อม แต่หากมีความจำเป็นก็สามารถเจาะเลือดในภาคสนามได้ แต่ก็ต้องทำด้วยความระมัดระวัง และในส่วนสุขภาพผู้ชุมนุมก็อาจจะได้รับอันตรายด้วย เนื่องจากอากาศค่อนข้างร้อนยิ่งถ้ามีการเจาะเลือดก็อาจจะทำให้ผู้ให้เลือดช็อกได้ ซึ่งตามแนวปฏิบัติการบริจาคโลหิต ผู้บริจาคต้องพักผ่อนอย่างเพียงพอ และดูแลสุขภาพ ซึ่งหากนำเลือดไปเทราดบนพื้น ผู้ที่มีบาดแผลที่เท้าไปเหนียบก็อาจจะทำให้ติดเชื้อเอดส์ และไวรัสตับอักเสบได้เช่นกัน แต่หากไม่มีบาดแผล เชื้อโรคที่มีอยู่ในโลหิตก็จะตายภายใน 1 วัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะสามารถแยกออกหรือไม่ระหว่างเลือดสัตว์หรือเลือดคน นพ.ไพจิตร์ กล่าวว่า แยกได้ลำบากต้องนำไปตรวจในห้องปฏิบัติการจึงจะทราบ
