“เอแบคโพลล์” เผย ช่วง “แดงป่วนเมือง” คนไทยส่วนใหญ่ร้อยละ 81.1 มุ่งสู่ทางธรรม ทำบุญ ปัดคุยเรื่องการเมือง น่าห่วงประชาชนกว่าครึ่งนอนหลับไม่สนิท มีส่วนน้อยแค่ร้อยละ 11.7 ที่ยังอยู่อย่างเป็นสุขในช่วงบรรยากาศการเมืองร้อนระอุ ขณะที่คนร้อยละ 82.7 ขอม็อบแดงอย่าเถื่อน แอบหวั่นวุ่นวายหนักกว่าปีที่แล้ว
วันนี้ (14 มี.ค.) นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยความสุขชุมชน มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยถึงผลการวิจัยเรื่อง “การศึกษาปัจจัยที่มีผลทำให้กลุ่มพลังเงียบมีความสุขในช่วงการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง” จากตัวอย่างประชาชนใน 17 จังหวัด จำนวน 1,877 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 12-13 มี.ค.2553 พบว่า กลุ่มปัจจัยที่มีผลค่อนข้างมากต่อความสุขของคนไทย มีค่าอยู่ที่ 0.60 จากค่าคะแนนเต็ม 1 โดยปัจจัยสำคัญอันดับแรกที่ทำให้คนไทยมีความสุข คือ สภาวะเศรษฐกิจระดับครัวเรือน เรื่องปากท้อง การกินการอยู่ในครอบครัว รองลงมา คือ สุขภาพใจที่ดี ความเป็นธรรมในสังคม ความเป็นมาตรฐานเดียวกัน การนอนหลับได้สนิทเพียงพอ สุขภาพกายที่ดี บรรยากาศความสัมพันธ์ของคนในชุมชน
ผลวิจัยยังพบอีกว่า ในช่วงเวลาที่มีการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงนี้ คนไทยส่วนใหญ่หรือร้อยละ 81.1 กำลังมีความสุขจากการปฏิบัติธรรม มาเป็นอันดับที่ 1 ด้วยการพูด การอธิษฐาน การทำบุญ การอ่านหนังสือธรรมะ อันดับสอง ร้อยละ 74.0 กำลังมีความสุขกับการดูแลเอาใจใส่สุขภาพกายของตนเอง อันดับสาม ร้อยละ 65.1 สุขกับการดูแลสุขภาพใจ ร้อยละ 64.3 มีความสุขต่อการมุ่งรักษาบรรยากาศความสัมพันธ์ที่ดีของคนในชุมชน โดยไม่คุยกันเรื่องการเมือง ช่วยกันแก้ปัญหาชุมชน เป็นต้น ส่วนรองๆ ลงไป คือ ความพอใจต่อหน้าที่การงาน การประกอบอาชีพ และความสุขต่อระบบการศึกษา
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าเป็นห่วง คือ มีประชาชนประมาณครึ่งต่อครึ่งที่กำลังนอนหลับไม่ค่อยสนิท อีกครึ่งหนึ่งนอนได้หลับสนิทเพียงพอ และไม่ถึงครึ่งหรือ ร้อยละ 44.6 ที่มีความสุขต่อสภาวะเศรษฐกิจครัวเรือนขณะนี้ นอกจากนี้มีเพียงร้อยละ 25.1 ที่มีความสุขต่อความเป็นธรรมในสังคม ความเป็นมาตรฐานเดียวกัน และร้อยละ 11.7 เท่านั้นที่มีความสุขต่อบรรยากาศทางการเมืองในขณะนี้ ดังนั้นทุกฝ่ายจะสามารถช่วยทำให้คนส่วนใหญ่ของประเทศมีความสุขเพิ่มมากขึ้นถ้าเคลื่อนไหวทางการเมืองเชิงสร้างสรรค์และอยู่ในความสงบเรียบร้อยตามระบอบประชาธิปไตยที่ไม่ใช้ความรุนแรง
ส่วนความในใจที่อยากบอกกับกลุ่มประชาชนที่กำลังชุมนุมขณะนี้ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 82.7 ขอให้ชุมนุมโดยสันติวิธี ไม่ใช้ความรุนแรง ร้อยละ 80.9 กำลังวิตกกังวลว่าจะวุ่นวาย มากกว่าปีที่แล้ว ร้อยละ 78.5 ขอให้ร่วมมือกับเจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อให้การชุมนุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ร้อยละ 76.1 ขอให้เคารพกฎหมาย และร้อยละ 73.3 ฝากช่วยรณรงค์ให้คนไทยรักกัน ไม่ทำร้ายกัน
วันนี้ (14 มี.ค.) นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยความสุขชุมชน มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยถึงผลการวิจัยเรื่อง “การศึกษาปัจจัยที่มีผลทำให้กลุ่มพลังเงียบมีความสุขในช่วงการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง” จากตัวอย่างประชาชนใน 17 จังหวัด จำนวน 1,877 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 12-13 มี.ค.2553 พบว่า กลุ่มปัจจัยที่มีผลค่อนข้างมากต่อความสุขของคนไทย มีค่าอยู่ที่ 0.60 จากค่าคะแนนเต็ม 1 โดยปัจจัยสำคัญอันดับแรกที่ทำให้คนไทยมีความสุข คือ สภาวะเศรษฐกิจระดับครัวเรือน เรื่องปากท้อง การกินการอยู่ในครอบครัว รองลงมา คือ สุขภาพใจที่ดี ความเป็นธรรมในสังคม ความเป็นมาตรฐานเดียวกัน การนอนหลับได้สนิทเพียงพอ สุขภาพกายที่ดี บรรยากาศความสัมพันธ์ของคนในชุมชน
ผลวิจัยยังพบอีกว่า ในช่วงเวลาที่มีการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงนี้ คนไทยส่วนใหญ่หรือร้อยละ 81.1 กำลังมีความสุขจากการปฏิบัติธรรม มาเป็นอันดับที่ 1 ด้วยการพูด การอธิษฐาน การทำบุญ การอ่านหนังสือธรรมะ อันดับสอง ร้อยละ 74.0 กำลังมีความสุขกับการดูแลเอาใจใส่สุขภาพกายของตนเอง อันดับสาม ร้อยละ 65.1 สุขกับการดูแลสุขภาพใจ ร้อยละ 64.3 มีความสุขต่อการมุ่งรักษาบรรยากาศความสัมพันธ์ที่ดีของคนในชุมชน โดยไม่คุยกันเรื่องการเมือง ช่วยกันแก้ปัญหาชุมชน เป็นต้น ส่วนรองๆ ลงไป คือ ความพอใจต่อหน้าที่การงาน การประกอบอาชีพ และความสุขต่อระบบการศึกษา
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าเป็นห่วง คือ มีประชาชนประมาณครึ่งต่อครึ่งที่กำลังนอนหลับไม่ค่อยสนิท อีกครึ่งหนึ่งนอนได้หลับสนิทเพียงพอ และไม่ถึงครึ่งหรือ ร้อยละ 44.6 ที่มีความสุขต่อสภาวะเศรษฐกิจครัวเรือนขณะนี้ นอกจากนี้มีเพียงร้อยละ 25.1 ที่มีความสุขต่อความเป็นธรรมในสังคม ความเป็นมาตรฐานเดียวกัน และร้อยละ 11.7 เท่านั้นที่มีความสุขต่อบรรยากาศทางการเมืองในขณะนี้ ดังนั้นทุกฝ่ายจะสามารถช่วยทำให้คนส่วนใหญ่ของประเทศมีความสุขเพิ่มมากขึ้นถ้าเคลื่อนไหวทางการเมืองเชิงสร้างสรรค์และอยู่ในความสงบเรียบร้อยตามระบอบประชาธิปไตยที่ไม่ใช้ความรุนแรง
ส่วนความในใจที่อยากบอกกับกลุ่มประชาชนที่กำลังชุมนุมขณะนี้ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 82.7 ขอให้ชุมนุมโดยสันติวิธี ไม่ใช้ความรุนแรง ร้อยละ 80.9 กำลังวิตกกังวลว่าจะวุ่นวาย มากกว่าปีที่แล้ว ร้อยละ 78.5 ขอให้ร่วมมือกับเจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อให้การชุมนุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ร้อยละ 76.1 ขอให้เคารพกฎหมาย และร้อยละ 73.3 ฝากช่วยรณรงค์ให้คนไทยรักกัน ไม่ทำร้ายกัน
