“กรณ์” ชี้คนกังวลม็อบแดงทำจับจ่ายซบเซา ซ้ำทัวร์ยกเลิกเพียบ เผยนักลงทุนไทยแดนปลาดิบห่วงเสถียรภาพการเมือง ชี้เศรษฐกิจกำลังฟื้น หากยุบสภาสะดุดแน่ แนะใจเย็นอีกนิดเดี๋ยวก็มีเลือกตั้งใหม่แล้ว - ส.ส.กทม.ประชาธิปัตย์ รับชาวกรุงหวั่นไม่ปลอดภัย จี้แกนนำม็อบจะเคลื่อนทัพไปไหนก็บอกก่อน จวกชอบพูดให้ผู้ชุมนุมเคียดแค้นคนเมือง
วันนี้ (14 มี.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงที่หลายฝ่ายหวั่นจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจว่า เป็นที่น่าสังเกตว่าวันเสาร์และวันอาทิตย์ที่ผ่านมาเงียบเหงามากตลาดการซื้อขายซบเซา ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าประชาชนยังมีความกังวล ไม่กล้าออกมาจับจ่ายใช้สอยตามปกติ ซึ่งส่งผลต่อเศรษฐกิจอีกทั้งส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวเพราะทราบว่ามีการยกเลิกหมายการเดินทางหลายบริษัท
นายกรณ์กล่าวอีกว่า ล่าสุดตนเพิ่งเดินทางกลับจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งนักธุรกิจที่มาลงทุนในไทยต่างวิตกกังวลในเสถียรภาพทางการเมืองของไทย เพราะตลอด 10 กว่าปีที่มีการร่วมลงทุนระหว่างสองประเทศจะขึ้นอยู่กับสถานการณ์ทางการเมืองเพียงอย่างเดียว ซึ่งตนได้ยืนยันว่าแม้จะเป็นรัฐบาลใดมาบริหารประเทศก็ไม่ต้องกังวล เพราะนโยบายและความสัมพันธ์ที่ดีจะไม่เปลี่ยนแปลง
เมื่อถามว่า มีการวิเคราะห์สถานการณ์ทางเศรษฐกิจครั้งนี้จะรุนแรงเหมือนช่วงเดือนเมษายน 52 หรือไม่ นายกรณ์กล่าวว่า ตนยืนยันว่าหากมีการเปลี่ยนแปลงไปทางใดทางหนึ่งในฐานะที่ตนเป็น รมว.คลังที่บริหารด้านเศรษฐกิจ ยอมรับว่าเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย เพราะขณะนี้เศรษฐกิจไทยกำลังฟื้นตัว หากมีการเปลี่ยนแปลงอาจทำให้สะดุดซึ่งจะเป็นที่น่าเสียดาย เช่นอาจกระทบกับเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการประกันราคาข้าว โครงการแก้หนี้นอกระบบ อีกทั้งยังมีโครงการที่เกี่ยวกับการเบิกงบไทยเข้มแข็ง เป็นต้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการเรียกร้องให้ยุบสภา หากมีการยุบสภาจริงจะกระทบเศรษฐกิจอย่างไร นายกรณ์กล่าวว่า ตนตอบได้อย่างเดียวว่า น่าเสียดายแทนประชาชน เพราะระบบการบริหารประเทศได้วางแนวทางให้รัฐบาลบริหารประเทศ 4 ปี ยิ่งใกล้ครบวาระ ยิ่งมีความต่อเนื่องในการบริหาร ซึ่งหากทุกคนใจเย็นอีกสักนิด ให้เวลารัฐบาลได้ทำงานสุดท้ายก็จะมีการเลือกตั้งใหม่อยู่ดี แต่หากมีการเปลี่ยนแปลงด้วยการบังคับขู่เข็น ไม่มีทางที่จะดีต่อสังคมในระยะยาวได้และไม่ก่อให้เกิดประโยชน์
เมื่อถามว่า แนวโน้มของตลาดหุ้นในวันจันทร์นี้จะมีผลเป็นบวกหรือไม่ นายกรณ์กล่าวว่า มั่นใจว่าตัวเลขการซื้อขายจะเบาบางมาก ส่วนบรรยากาศการลงทุนยังไม่ชัดเจน “อย่าว่าแต่นักลงทุนชาวต่างชาติจะมาลงทุนเลย แค่นักลงทุนในประเทศไทยเองก็ยังไม่มั่นใจที่จะลงทุน”
ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ในวันนี้ได้มีการประชุมส.ส.กทม.ของพรรค เพื่อหารือถึงสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดง โดยใช้เวลาประมาณ 1.30 ชม. จากนั้นนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ประธาน ส.ส.กทม. แถลงว่า ส.ส.กทม.ของพรรคได้ติดตามสถานการณ์การชุมนุมรวมทั้งได้รับการสะท้อนปัญหาจากชาวกทม.ถึงการชุมนุมดังกล่าว โดยพบว่า ตั้งวันที่ 12 มี.ค.ที่ผ่านมาประชาชนหรือชาว กทม.รู้สึกวิตกกังวลห่วงใย ไม่สบายใจ รู้สึกไม่มั่นใจต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์ เนื่องจากไม่สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติเหมือนที่ผ่านมา แม้การชุมนุมจะยังไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้น แต่เป็นห่วงว่าในวันที่ 15 มี.ค.ซึ่งเป็นวันทำงานจะเกิดอะไรขึ้น เพราะขณะนี้ข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ชุมนุมหากไม่ได้รับการตอบสนองจะมีการเคลื่อนไหวกดดันไปยังที่ต่างๆ
“ขอรียกร้องต่อกลุ่มผู้ชุมนุมว่า หากจะเคลื่อนไหวไปยังสถานที่ใดก็ขอให้แจ้งเพื่อให้ประชาชนได้รับทราบล่วงหน้าเพื่อจะได้เตรียมรับมือกับปัญหา โดยเฉพาะการจราจร นอกจากนี้ การปราศัยของแกนนำ นปช.ได้ปลุกระดมยั่วยุให้เกิดความเครียดแค้นชิงชังระหว่างกลุ่มผู้ชุมนมกับคน กทม. ทำให้เกิดความเข้าใจผิดและส่งผลกระทบต่อคน กทม. ขอให้คน กทม.มองผู้เข้าร่วมชุมนุมอย่างเข้าใจและเห็นใจ เพราะแม้จะมาจากต่างจังหวัดแต่ก็เป็นคนไทยเหมือนกัน ความคิดเห็นที่แตกต่างกันจะไม่สร้างความแตกแยกนำไปสู่ความขัดแย้งที่รุนแรงขอให้ชาว กทม.และผู้ชุมนุมอดทนและอดกลั้น หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าที่จะรุนแรงไม่ว่ากรณีใดๆ ก็ตาม”