เตรียมยื่นญัตติขอแก้ข้อบัญญัติการเบิกจ่ายค่าอาหาร และนม เด็กก่อนวัยเรียนในสังกัดต่อสภา กทม.17 มี.ค.นี้แก้ปัญหาเด็กได้รับอาหาร และนมไม่ต่อเนื่อง และไม่ขัดต่อ พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก เร่งใช้ทันปีการศึกษา 53
![ต่อม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร](https://mpics.mgronline.com/pics/Images/553000003213701.JPEG)
วันนี้ (3 มี.ค.) ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.) นางประทีป อึ้งทรงธรรม ฮาตะ ประธานมูลนิธิดวงประทีป พร้อมด้วยคณะครู นักเรียนจากศูนย์เด็กเล็ก และศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียน สังกัด กทม.เขตคลองเตย เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. กรณีการงดเบิกจ่ายค่าอาหารกลางวัน อาหารเสริม (นม) และการเรียกคืนเงินที่ได้จ่ายไปแล้ว สำหรับเด็กที่มีอายุเกิน 6 ปีบริบูรณ์ ที่ยังไม่สามารถเข้าเรียนต่อในระดับประถมศึกษาได้ แต่ยังอยู่ในความดูแลของศูนย์เด็กเล็ก และศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียน ซึ่งคณะครูและผู้ปกครองเห็นว่า ข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่องค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการสนับสนุนการพัฒนาชุมชน พ.ศ.2536 ระบุว่าการใช้สิทธิเบิกจ่ายค่าอาหารสำหรับเด็กก่อนวัยเรียน เด็กจะต้องมีอายุตั้งแต่ 2 ปีไม่เกิน 6 ปี ขัดแย้งกับ พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 มาตรา 22 ที่ระบุว่า “การปฏิบัติต่อเด็กไม่ว่ากรณีใด ให้คำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของเด็กเป็นสำคัญ และไม่ให้มีการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรม”
โดย ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ได้มอบหมายให้สำนักงานกฎหมาย กทม.เร่งหาแนวทางแก้ปัญหาให้สามารถเบิกจ่ายค่าอาหาร และนมได้ตามปกติ รวมถึงไม่ต้องคืนเงินส่วนที่จ่ายไปแล้วสำหรับเด็กอายุเกิน 6 ปีบริบูรณ์แต่ไม่เกิน 7 ปี โดยไม่ขัดกับข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร
นอกจากนี้ ในการประชุมสภากรุงเทพมหานครวันที่ 17 มี.ค.นี้ จะมีการยื่นญัตติแก้ไขข้อบัญญัติกรุงเทพมหานครในรายละเอียดเกี่ยวกับการกำหนดอายุของเด็กที่ได้รับสิทธิ์ว่าจะขยายเป็น 2-7 ปี หรือจนกว่าเด็กจะเข้าเรียนต่อในระดับประถมศึกษา เพื่อให้ได้ข้อสรุปโดยเร็วและทันกับการเปิดภาคเรียนปีการศึกษา 2553 ต่อไป
วันนี้ (3 มี.ค.) ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.) นางประทีป อึ้งทรงธรรม ฮาตะ ประธานมูลนิธิดวงประทีป พร้อมด้วยคณะครู นักเรียนจากศูนย์เด็กเล็ก และศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียน สังกัด กทม.เขตคลองเตย เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. กรณีการงดเบิกจ่ายค่าอาหารกลางวัน อาหารเสริม (นม) และการเรียกคืนเงินที่ได้จ่ายไปแล้ว สำหรับเด็กที่มีอายุเกิน 6 ปีบริบูรณ์ ที่ยังไม่สามารถเข้าเรียนต่อในระดับประถมศึกษาได้ แต่ยังอยู่ในความดูแลของศูนย์เด็กเล็ก และศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียน ซึ่งคณะครูและผู้ปกครองเห็นว่า ข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่องค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการสนับสนุนการพัฒนาชุมชน พ.ศ.2536 ระบุว่าการใช้สิทธิเบิกจ่ายค่าอาหารสำหรับเด็กก่อนวัยเรียน เด็กจะต้องมีอายุตั้งแต่ 2 ปีไม่เกิน 6 ปี ขัดแย้งกับ พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 มาตรา 22 ที่ระบุว่า “การปฏิบัติต่อเด็กไม่ว่ากรณีใด ให้คำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของเด็กเป็นสำคัญ และไม่ให้มีการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรม”
โดย ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ได้มอบหมายให้สำนักงานกฎหมาย กทม.เร่งหาแนวทางแก้ปัญหาให้สามารถเบิกจ่ายค่าอาหาร และนมได้ตามปกติ รวมถึงไม่ต้องคืนเงินส่วนที่จ่ายไปแล้วสำหรับเด็กอายุเกิน 6 ปีบริบูรณ์แต่ไม่เกิน 7 ปี โดยไม่ขัดกับข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร
นอกจากนี้ ในการประชุมสภากรุงเทพมหานครวันที่ 17 มี.ค.นี้ จะมีการยื่นญัตติแก้ไขข้อบัญญัติกรุงเทพมหานครในรายละเอียดเกี่ยวกับการกำหนดอายุของเด็กที่ได้รับสิทธิ์ว่าจะขยายเป็น 2-7 ปี หรือจนกว่าเด็กจะเข้าเรียนต่อในระดับประถมศึกษา เพื่อให้ได้ข้อสรุปโดยเร็วและทันกับการเปิดภาคเรียนปีการศึกษา 2553 ต่อไป