ศูนย์ข่าวภูเก็ต - รมว.ศึกษาธิการ เผยสภารัฐมนตรีศึกษาแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ สภาซีเมค ครั้งที่ 44 มีมติเห็นชอบให้ดำเนิน 10 โครงการจัดการทางด้านการศึกษา
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยผลการประชุมสภารัฐมนตรีศึกษาแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือสภาซีเมค ครั้งที่ 44 เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2552 ณ โรงแรมเชอราตันแกรนด์ ลากูน่า จังหวัดภูเก็ตว่า ประเด็นสำคัญจากการประชุมหารือในครั้งนี้คือ การเข้าถึงการศึกษาของผู้ด้อยโอกาส เป็นหัวข้อที่ได้พูดคุยโดยใช้ระยะเวลานาน ซึ่งที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบให้ดำเนินการทั้งหมด 10 โครงการ คือ
1.โครงการที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาพิเศษ หรือในส่วนของผู้พิการ โดยที่ประชุมมอบให้ประเทศมาเลเซียรับเป็นเจ้าภาพ และมีประเทศอื่นๆ เข้าร่วมหลายประเทศ
2.ปัญหาเด็กออกกลางคัน หรือเด็กกลุ่มเสี่ยง โดยมีประเทศฟิลิปปินส์ เป็นเจ้าภาพ และมีไทย มาเลเซีย พม่า เข้าร่วม เป็นต้น
3.โครงการที่เน้นการเข้าถึงการศึกษาของเด็กและสตรีในเขตทุรกันดารและในชนกลุ่มน้อย โดยมีประเทศมาเลเซียรับเป็นเจ้าภาพ โดยมี UNICEF เข้าร่วมด้วย
4.การติดตามผลผู้ที่เข้าไม่ถึงการศึกษา ซึ่งจะต้องค้นหาสาเหตุว่าเกิดจากอะไร และจะแก้ปัญหาได้อย่างไร โดย SEAMEO รับเป็นเจ้าภาพไปพลางก่อน
5.ปัญหาเด็กก่อนวัยเรียนที่มีฐานะยากจน โดยมีประเทศบรูไนดารุสสลามรับเป็นเจ้าภาพ และมีประเทศไทยเข้าร่วมด้วย
6.การสอนแบบคละชั้น โดยมีประเทศลาวรับเป็นเจ้าภาพ และประเทศไทย รวมทั้ง UNICEF เข้าร่วม
7.การพัฒนาศูนย์การเรียนรู้ชุมชน ซึ่งประเทศไทยรับเป็นเจ้าภาพ โดยจะให้ กศน.รับไปดำเนินการเพื่อช่วยเหลือเด็กยากจนและเด็กชายขอบ ซึ่งจะมีหลายประเทศเข้าร่วมด้วย
8.เด็กไร้สัญชาติ ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างสถานศึกษาตามแนวชายแดน มีอินโดนีเซียรับเป็นเจ้าภาพ และมีหลายประเทศเข้าร่วม
9.โครงการแก้ปัญหา HIV ซึ่ง SEAMEO จะรับเป็นเจ้าภาพไปพลางก่อน เพราะยังไม่มีประเทศเจ้าภาพ
10.โครงการเด็กที่อยู่ในพื้นที่ที่มีปัญหา เช่น ในพื้นที่สงคราม พื้นที่ภัยพิบัติ เป็นต้น โดยมีประเทศอินโดนีเซียรับเป็นเจ้าภาพ
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวด้วยว่า สำหรับรายละเอียดการดำเนินการโครงการต่างๆ นั้น ทาง SEAMEO จะดำเนินการให้มีการประชุมหารือเพิ่มเติมในที่ประชุมเจ้าหน้าที่ระดับสูงต่อไปในเดือนพฤศจิกายน 2552 และผลการประชุมทั้งหมดจะรายงานให้ SEAMEO ทราบในการประชุมครั้งหน้าที่ประเทศฟิลิปปินส์ต่อไป
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยผลการประชุมสภารัฐมนตรีศึกษาแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือสภาซีเมค ครั้งที่ 44 เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2552 ณ โรงแรมเชอราตันแกรนด์ ลากูน่า จังหวัดภูเก็ตว่า ประเด็นสำคัญจากการประชุมหารือในครั้งนี้คือ การเข้าถึงการศึกษาของผู้ด้อยโอกาส เป็นหัวข้อที่ได้พูดคุยโดยใช้ระยะเวลานาน ซึ่งที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบให้ดำเนินการทั้งหมด 10 โครงการ คือ
1.โครงการที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาพิเศษ หรือในส่วนของผู้พิการ โดยที่ประชุมมอบให้ประเทศมาเลเซียรับเป็นเจ้าภาพ และมีประเทศอื่นๆ เข้าร่วมหลายประเทศ
2.ปัญหาเด็กออกกลางคัน หรือเด็กกลุ่มเสี่ยง โดยมีประเทศฟิลิปปินส์ เป็นเจ้าภาพ และมีไทย มาเลเซีย พม่า เข้าร่วม เป็นต้น
3.โครงการที่เน้นการเข้าถึงการศึกษาของเด็กและสตรีในเขตทุรกันดารและในชนกลุ่มน้อย โดยมีประเทศมาเลเซียรับเป็นเจ้าภาพ โดยมี UNICEF เข้าร่วมด้วย
4.การติดตามผลผู้ที่เข้าไม่ถึงการศึกษา ซึ่งจะต้องค้นหาสาเหตุว่าเกิดจากอะไร และจะแก้ปัญหาได้อย่างไร โดย SEAMEO รับเป็นเจ้าภาพไปพลางก่อน
5.ปัญหาเด็กก่อนวัยเรียนที่มีฐานะยากจน โดยมีประเทศบรูไนดารุสสลามรับเป็นเจ้าภาพ และมีประเทศไทยเข้าร่วมด้วย
6.การสอนแบบคละชั้น โดยมีประเทศลาวรับเป็นเจ้าภาพ และประเทศไทย รวมทั้ง UNICEF เข้าร่วม
7.การพัฒนาศูนย์การเรียนรู้ชุมชน ซึ่งประเทศไทยรับเป็นเจ้าภาพ โดยจะให้ กศน.รับไปดำเนินการเพื่อช่วยเหลือเด็กยากจนและเด็กชายขอบ ซึ่งจะมีหลายประเทศเข้าร่วมด้วย
8.เด็กไร้สัญชาติ ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างสถานศึกษาตามแนวชายแดน มีอินโดนีเซียรับเป็นเจ้าภาพ และมีหลายประเทศเข้าร่วม
9.โครงการแก้ปัญหา HIV ซึ่ง SEAMEO จะรับเป็นเจ้าภาพไปพลางก่อน เพราะยังไม่มีประเทศเจ้าภาพ
10.โครงการเด็กที่อยู่ในพื้นที่ที่มีปัญหา เช่น ในพื้นที่สงคราม พื้นที่ภัยพิบัติ เป็นต้น โดยมีประเทศอินโดนีเซียรับเป็นเจ้าภาพ
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวด้วยว่า สำหรับรายละเอียดการดำเนินการโครงการต่างๆ นั้น ทาง SEAMEO จะดำเนินการให้มีการประชุมหารือเพิ่มเติมในที่ประชุมเจ้าหน้าที่ระดับสูงต่อไปในเดือนพฤศจิกายน 2552 และผลการประชุมทั้งหมดจะรายงานให้ SEAMEO ทราบในการประชุมครั้งหน้าที่ประเทศฟิลิปปินส์ต่อไป