กรมศิลป์ไฟเขียว กทม.ปรับปรุงภูมิทัศน์สนามหลวงอย่างเป็นทางการ พร้อมขอให้จัดส่งรูปแบบการปรับปรุงให้พิจารณา “ธีระชน” เผยยังส่งหน่วยทหารเข้าปรับปรุงสนามหลวง 1 มี.ค.ไม่ได้ เหตุติดม็อบแดงใช้พื้นที่ชุมนุม 14 มี.ค.นี้
นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ในฐานะประธานคณะกรรมการโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์ สภาพแวดล้อมและปัญหาทางสังคมในพื้นที่สนามหลวงและปริมณฑล เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาตนได้รับหนังสือแจ้งจากทางอธิบดีกรมศิลปากร ลงวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2553 โดยมีใจความระบุว่ากรมศิลปากรขอให้ กทม.พิจารณาดำเนินการปรับปรุงสนามหลวงตามสมควรและไม่ควรมีสิ่งก่อสร้างในสนามหลวง พร้อมขอให้ส่งรายละเอียดรูปแบบการปรับปรุงภูมิทัศน์ฯ ให้กับทางกรมศิลปากรพิจารณาด้วยซึ่งในส่วนนี้ทางสำนักการโยธา (สนย.) กทม.ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบในการปรับปรุงครั้งนี้จะเป็นผู้ดำเนินการซึ่งเท่ากับทางกรมศิลปากรได้อนุญาตให้ กทม.ดำเนินการปรับปรุงสนามหลวงแล้วหลังจากที่ก่อนหน้านี้มีบางประเด็นที่ยังเข้าใจคลาดเคลื่อน อาทิ การสร้างห้องน้ำใต้สนามหลวง ซึ่งหากมีการก่อสร้างจะต้องดำเนินการตาม พ.ร.บ.โบราณสถานอย่างเคร่งครัดเนื่องจากสนามหลวงได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2520 ซึ่งตามแบบที่ตนได้ให้สถาปนิกออกแบบตั้งแต่ครั้งแรกนั้นไม่มีการก่อสร้างอาคารในพื้นที่สนามหลวงแต่อย่างใด
นายธีระชน กล่าวอีกว่า ส่วนการส่งมอบพื้นที่ให้กับหน่วยทหารพัฒนาเข้าปรับปรุงพื้นที่ในวันที่ 1 มีนาคมตามที่กำหนดไว้นั้น คงยังไม่สามารถดำเนินการได้เนื่องจากสถานการณ์บ้านเมืองยังไม่เอื้ออำนวยแม้จะมีการตัดสินคดียึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนากยกรัฐมนตรีไปแล้วก็ตาม แต่เนื่องจากทางกลุ่ม นปช.ประกาศจะใช้พื้นที่สนามหลวงเพื่อจัดการชุมนุมใหญ่ในวันที่ 14 มีนาคมนี้จึงต้องรอดูสถานการณ์ก่อน อย่างไรก็ตาม ตนคิดว่าไม่น่าจะเป็นปัญหาในเรื่องการก่อหนี้ตามระยะเวลาที่รัฐบาลกำหนดซึ่งจะต้องก่อหนี้ภายในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมาแต่ทางกระทรวงการคลังเข้าใจถึงสถานการณ์จึงได้ขยายเวลาการก่อหนี้ที่ได้รับมาจากงบไทยเข้มแข็งสำหรับใช้ในการปรับปรุงสนามหลวงจำนวน 180 ล้านไปถึงวันที่ 8 เมษายน 2553 แล้ว
นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ในฐานะประธานคณะกรรมการโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์ สภาพแวดล้อมและปัญหาทางสังคมในพื้นที่สนามหลวงและปริมณฑล เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาตนได้รับหนังสือแจ้งจากทางอธิบดีกรมศิลปากร ลงวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2553 โดยมีใจความระบุว่ากรมศิลปากรขอให้ กทม.พิจารณาดำเนินการปรับปรุงสนามหลวงตามสมควรและไม่ควรมีสิ่งก่อสร้างในสนามหลวง พร้อมขอให้ส่งรายละเอียดรูปแบบการปรับปรุงภูมิทัศน์ฯ ให้กับทางกรมศิลปากรพิจารณาด้วยซึ่งในส่วนนี้ทางสำนักการโยธา (สนย.) กทม.ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบในการปรับปรุงครั้งนี้จะเป็นผู้ดำเนินการซึ่งเท่ากับทางกรมศิลปากรได้อนุญาตให้ กทม.ดำเนินการปรับปรุงสนามหลวงแล้วหลังจากที่ก่อนหน้านี้มีบางประเด็นที่ยังเข้าใจคลาดเคลื่อน อาทิ การสร้างห้องน้ำใต้สนามหลวง ซึ่งหากมีการก่อสร้างจะต้องดำเนินการตาม พ.ร.บ.โบราณสถานอย่างเคร่งครัดเนื่องจากสนามหลวงได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2520 ซึ่งตามแบบที่ตนได้ให้สถาปนิกออกแบบตั้งแต่ครั้งแรกนั้นไม่มีการก่อสร้างอาคารในพื้นที่สนามหลวงแต่อย่างใด
นายธีระชน กล่าวอีกว่า ส่วนการส่งมอบพื้นที่ให้กับหน่วยทหารพัฒนาเข้าปรับปรุงพื้นที่ในวันที่ 1 มีนาคมตามที่กำหนดไว้นั้น คงยังไม่สามารถดำเนินการได้เนื่องจากสถานการณ์บ้านเมืองยังไม่เอื้ออำนวยแม้จะมีการตัดสินคดียึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนากยกรัฐมนตรีไปแล้วก็ตาม แต่เนื่องจากทางกลุ่ม นปช.ประกาศจะใช้พื้นที่สนามหลวงเพื่อจัดการชุมนุมใหญ่ในวันที่ 14 มีนาคมนี้จึงต้องรอดูสถานการณ์ก่อน อย่างไรก็ตาม ตนคิดว่าไม่น่าจะเป็นปัญหาในเรื่องการก่อหนี้ตามระยะเวลาที่รัฐบาลกำหนดซึ่งจะต้องก่อหนี้ภายในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมาแต่ทางกระทรวงการคลังเข้าใจถึงสถานการณ์จึงได้ขยายเวลาการก่อหนี้ที่ได้รับมาจากงบไทยเข้มแข็งสำหรับใช้ในการปรับปรุงสนามหลวงจำนวน 180 ล้านไปถึงวันที่ 8 เมษายน 2553 แล้ว