กทม.ให้เวลาผู้ค้ารอบสนามหลวง 1 เดือนขายของต่อได้หลังเดือนหน้ามีการจัดงานสัปดาห์พระพุทธศาสนา จากนั้นให้ย้ายไปขายชั่วคราวริมคลองหลอด-ปากคลองตลาด ส่วนรถต่างๆ ห้ามเข้าจอด 1 ก.พ. เหมือนเดิม วอนกรมศิลปฯ ใจกว้างยอมรับการปรับปรุงภูมิทัศน์สนามหลวง ขออย่าตั้งแง่ พร้อมได้พื้นที่เลี้ยงนกพิราบเพิ่มที่ปราจีนบุรี-ฉะเชิงเทรา
นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ให้สัมภาษณ์ความคืบหน้าการปรับปรุงภูมิทัศน์ สภาพแวดล้อมและแก้ปัญหาทางสังคมพื้นที่สนามหลวงและปริมณฑลว่า ขณะนี้ นายทวีศักดิ์ เดชเดโช รองปลัดกทม.ได้รายงานการสำรวจจำนวนผู้ค้า หาบเร่แผงลอย บริเวณสนามหลวง และริมคลองหลอด มีจำนวนกว่า 700 ราย ส่วนผู้ค้ารอบพระบรมมหาราชวังมีจำนวน 301 ราย ซึ่งทางกทม.ได้เตรียมจัดพื้นที่ริมคลองหลอดช่วงจากสนามหลวง จนถึงปากคลองตลาด คาดว่าจะสามารถรองรับผู้ค้าได้ทั้งหมด
ทั้งนี้ หลังจากกำหนดพื้นที่การค้าแล้วจะเปิดให้ลงทะเบียนผู้ค้าเพื่อจัดแผงค้าให้ โดยพื้นที่ดังกล่าวจะเป็นการอนุญาตให้ขายชั่วคราวเท่านั้นจนกว่าปรับปรุงสนามหลวงแล้วเสร็จ ในระยะยาวได้มอบให้สำนักงานตลาด กทม.จัดหาพื้นที่ค้าจุดอื่นให้ ส่วนกรณีที่ผู้ค้าไม่เห็นด้วยกับการจัดระเบียบดังกล่าว กทม.ยืนยันว่าหากไม่ให้ความร่วมมือก็ไม่สามารถช่วยเหลือได้ ต้องปฏิบัติตามระเบียบ แต่ทั้งนี้ผู้ค้ายังมีเวลาอีก 1 เดือนที่สามารถขายของได้
เนื่องจากสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ แจ้งว่าต้องการใช้พื้นที่สนามหลวงจัดงานสัปดาห์พระพุทธศาสนา เนื่องในวันมาฆบูชา วันที่ 28 กุมภาพันธ์นี้ ดังนั้น ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ที่ กทม.จะประกาศปิดพื้นที่เฉพาะห้ามรถเข้าจอดเท่านั้น ซึ่งขณะนี้ได้หารือกับ พล.ต.ท.ภาณุ เกิดลาภผล รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ในการจัดระบบรถทัวร์ที่มาส่งนักท่องเที่ยวที่สนามหลวง นอกจากนี้จะมีการทำความสะอาดใหญ่ และการขนย้ายนกพิราบในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ เช่นเดียวกัน
นายธีระชนยังได้กล่าวถึงกรณีที่กรมศิลปากรมีความเห็นควรให้กทม. ชะลอโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์สนามหลวงออกไปก่อนว่า ตนอยากเรียกร้องให้กรมศิลปากรเปิดใจให้กว้างกว่านี้ เพราะปัจจุบันพื้นที่สนามหลวง ไม่ว่าผู้ใหญ่ระดับใดก็มีความต้องการให้ปรับปรุง เพราะไม่ใช่สถานที่พักผ่อนอีกต่อไปแล้ว อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้คณะกรรมการปรับปรุงรอบเกาะรัตนโกสินทร์เคยทำหนังสือแสดงความเห็นในการปรับปรุงว่าอยากให้ทำเป็นสถาปัตยกรรมยุครัตนโกสินทร์ ซึ่งตนไม่แน่ใจว่าอยากให้พื้นที่รอบๆ ไม่มีสิ่งปลูกสร้างอื่นหรือไม่ ถ้าเป็นเช่นนั้นก็ต้องรื้อสิ่งปลูกสร้างออกทั้งหมด
นายธีระชน กล่าวอีกว่า ในเที่ยงคืนของวันที่ 31 ม.ค.นี้ กทม.จะนำรั้วเหล็กเข้าไปล้อมพื้นที่เพื่อห้าม สำหรับการจับนำพิราบนั้น ขณะนี้ได้มีหน่วยงานที่ให้การสนับสนุน จัดหาพื้นที่เพื่อนำไปเลี้ยงเพิ่มเติมคือ จ.ปราจีนบุรี จ.ฉะเชิงเทรา แล้ว