“นริศรา” เผยผลสอบจัดซื้อครุภัณฑ์ SP2 อาชีวะ พบปัญหาการกำหนดราคากลาง การจัดซื้อจัดจ้างของสถานศึกษาหลายแห่งไม่สอดคล้องส่วนกลาง เจอกำหนดสเปกเป็นชุด เกิดการยัดเยียด อีกทั้งกำหนดราคากลางตามท้องตลาด วิทยาลัยต่อรองไม่ได้ ระบุเตรียมส่งผลสอบถึง “พรหมสวัสดิ์” ดูต่อ พร้อมเร่งสรุปโดยเร็ว ปัดตอบล้มประมูล โยนเป็นอำนาจเลขาฯ กอศ.
วันนี้ (17 ก.พ.) น.ส.นริศรา ชวาลตันพิพัทธ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมช.ศธ.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าผลสอบของคณะกรรมการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างครุภัณฑ์ ตามแผนปฏิบัติการไทยเข็มแข็ง หรือ SP2 วงเงิน 5,400 ล้านบาท แบ่งเป็นครุภัณฑ์ 5,330 ล้านบาท สิ่งก่อสร้าง 70 ล้านบาท ของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ตามที่กระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) มีคำสั่งที่ สร.48/2553 สั่งแต่งตั้ง ณ วันที่ 19 ม.ค. 2553 ว่า
ตนได้รับรายงานจากคณะกรรมการตรวจสอบฯ ซึ่งได้ดำเนินการตรวจสอบการจัดซื้อครุภัณฑ์ใน 5 กลุ่มครุภัณฑ์ ได้แก่ กลุ่มอัญมณี, กลุ่มเซรามิคและศิลปกรรม, กลุ่มสัตวศาสตร์, กลุ่มพืชศาสตร์ และกลุ่มงานอิเลคโทรนิคส์
โดยได้มีการสุ่มตรวจจากวิทยาลัยทั่วประเทศกลุ่มละ 4 วิทยาลัย พบว่า การจัดซื้อครุภัณฑ์ของสถานศึกษา ส่วนใหญ่ผู้ชนะการประมูลจะเป็นบริษัทเดียวกัน แต่ราคาในการจัดซื้อแตกต่างกัน บางวิทยาลัยครุภัณฑ์ชุดเดียวกัน บริษัทเดียวกัน แต่ราคาแตกต่างกันเกือบครึ่ง ในขณะเดียวกันยังมีการกำหนดสเปกให้จัดซื้อครุภัณฑ์เป็นชุด ส่งผลให้สถานศึกษาได้ครุภัณฑ์ที่ไม่ตรงกับความต้องการ และมีข้อสังเกตว่าเป็นการเอื้อประโยชน์ต่อบริษัทหนึ่งบริษัทใดหรือไม่
นอกจากนี้ยังพบว่า การกำหนดวงเงินงบประมาณไม่เหมาะสม อาทิ การจัดซื้อเตาเผาในชุดครุภัณฑ์เพื่องานเคลือบของกลุ่มเซรามิคและศิลปกรรม กำหนดวงเงินงบประมาณในการจัดซื้อสูงกว่า 3.5 ล้านบาท ซึ่งสูงเกินไปเมื่อเทียบกับสเปกที่กำหนดไว้ และผู้ชนะประมูลทั่วประเทศเป็นบริษัทเดียวกันที่เสนอราคาต่ำกว่าราคากลางถึง 69%
น.ส.นริศรา กล่าวต่อว่า โดยสรุปคือการดำเนินการจัดซื้อครุภัณฑ์ SP2 ของ สอศ.มีปัญหาในการกำหนดราคากลาง ไม่มีการทำกำหนดราคากลางให้เห็นอย่างชัดเจน กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างของสถานศึกษาหลายแห่งไม่สอดคล้องกับส่วนกลาง และมีการกำหนดสเปกให้จัดซื้อเป็นชุดทำให้เกิดการยัดเยียดครุภัณฑ์ นอกจากนี้ การกำหนดราคากลางเกิดจากการกำหนดด้วยราคาตามท้องตลาด โดยไม่คำนึงถึงประโยชน์ของอาชีวะ ทำให้ไม่สามารถต่อรองราคาได้
“ผลสอบชี้แค่ข้อเท็จจริงที่เห็น ซึ่งผลสุดท้ายก็ต้องรายงานผลสอบกลับไปยังนายพรหมสวัสดิ์ ทิพย์คงคา เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) ที่จะต้องเจาะลึกถึงกระบวนการในเอกสารทั้งหมด แล้วเสนอประเด็นข้อสรุปสิ่งที่เจอว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป โดยอาจเข้าไปสืบข้อเท็จจริงที่ลึกกว่านี้ในกระบวนการทั้งหมด ทั้งนี้จะได้นำผลสอบดังกล่าวเสนอต่อท่านนายกรัฐมนตรี และรมว.ศึกษาธิการด้วย จากนั้นให้ส่งข้อสรุปกลับมาที่ดิฉันโดยเร็วที่สุด” รมช.ศธ.กล่าว
เมื่อถามว่าจะมีการล้มการประมูลจัดซื้อจัดจ้างของ สอศ.ทั้งหมดหรือไม่นั้น น.ส.นริศรา กล่าวว่า ตนตอบแทนไม่ได้เพราะเป็นหน้าที่ของ เลขาธิการ สอศ.ที่จะพิจารณา ตนเป็นเพียงผู้กำกับติดตาม อย่างไรก็ตาม เมื่อผลสอบชี้ชัดออกมาว่ากระบวนการจัดซื้อจัดจ้างส่อไปในทางไม่ชอบมาพากล ก็เป็นความรับผิดชอบของเลขาธิการ กอศ.ต้องไปตรวจสอบกระบวนการรวมทั้งระเบียบการจัดซื้อทั้งหมด โดยต้องคำนึงถึงประโยชน์ที่สถานศึกษาจะได้รับเป็นหลักก่อน ส่วนที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า เลขาธิการ กอศ.เกียร์ว่าง เนื่องจากใกล้เกษียณอายุราชการแล้วนั้น ตนคิดว่าข้าราชการทุกคนต้องตั้งอยู่บนกฎหมายและเกียรติของข้าราชการ หากปล่อยปละละเลยก็มีกระบวนการที่จะตรวจสอบตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป