xs
xsm
sm
md
lg

รพ.เอกชนแห่ถอนตัวบัตรทองอีก 4 แห่ง คาดกระทบประชาชนราว 2 แสนคน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


สปสช.เผยรพ.เอกชน 4 แห่ง ถอนตัวออกจากโครงการบัตรทอง เหตุขาดทุน กระทบประชาชนราว 2 แสน เล็งหาหน่วยบริการใหม่รองรับ เมษายน 53 เรียบร้อยไม่มีปัญหา ระบุมีรพ.เอกชน 1 รายขอเข้าร่วม ยันไม่ต้องกังวล

นพ.สุรเดช วลีอิทธิกุล ผู้อำนวยการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) สาขาเขต 13 กรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า ปลายปี 2552 ที่ผ่านมามีโรงพยาบาลเอกชน 4 แห่งได้แสดงความจำนงของถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิกโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ประกอบด้วย 1.โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ประชาชื่น มีจำนวนประชาชนที่ได้รับผลกระทบประมาณ 74,395 คน 2.โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ บางแค ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ 53,740 คน 3.โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ สุขาภิบาล 3 จำนวน 41,004 คน และ4.โรงพยาบาลศรีวิชัย 2 อีกจำนวน 30,130 คน รวมทั้งสิ้นจะมีประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการถอนตัวครั้งนี้ประมาณ 199,269 คน

“การงดรับบริการครั้งนี้ ไม่ใช่งดรับผู้ป่วยทั้งหมด เนื่องจากโรงพยาบาลเกษมราษฏร์ งดรับเฉพาะผู้ป่วยที่ถือบัตรปฐมภูมิในโรงพยาบาล หรือผู้ป่วยที่มีสิทธิรักษาที่โรงพยาบาลโดยตรง แต่จะยังเป็นหน่วยบริการรับส่งต่อจากปฐมภูมินอกโรงพยาบาล ซึ่งขณะนี้มีประมาณ 200,000 คน ส่วนโรงพยาบาลศรีวิชัย ขอออกจากโครงการทั้งผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยใน สำหรับสาเหตุการถอนตัวมาจากโรงพยาบาลล้วนไม่สามารถแบกรับภาระงานที่มากขึ้น รวมถึงภาระการขาดทุน ซึ่งเรื่องนี้เกิดขึ้นได้ ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะปัจจุบันย่อมมีทั้งโรงพยาบาลที่ถอนตัวและเข้าร่วมใหม่ จึงไม่อยากให้กังวล”นพ.สุรเดช กล่าว

นพ.สุรเดช กล่าวต่อว่า ขณะนี้ สปสช. ได้จัดหาหน่วยบริการใหม่รองรับผู้ป่วยทั้งหมดแล้วตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา แต่หากประชาชนไม่สะดวกสามารถเลือกหน่วยบริการใกล้บ้านตามระบบได้ ทั้งนี้ การเลือกหน่วยบริการใกล้บ้านด้วยตนเองนั้น สปสช. ยังได้ประชุมร่วมกับผู้นำชุมชนเพื่อแจ้งว่า หากชุมชนใดต้องการย้ายหน่วยบริการ ทาง สปสช. จะจัดเจ้าหน้าที่ลงไปดำเนินการปรับเปลี่ยนให้ทันที ล่าสุดมีโรงพยาบาลเอกชน 1 แห่ง คือ โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ แสดงความจำนงขอเข้าร่วมโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ซึ่งจะเป็นอีกหน่วยบริการให้ประชาชนได้เลือกอีกแห่งหนึ่ง

“ทั้งหมดจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในเดือนเมษายน 2553 เพื่อความสะดวกของผู้ป่วยที่ต้องส่งต่อนั้น ทาง สปสช. ได้ขอให้หน่วยบริการเดิมทำประวัติผู้ป่วย เพื่อมอบให้หน่วยบริการใหม่นำไปใช้เป็นข้อมูลในการรักษาด้วย” นพ.สุรเดช กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น