สปสช.เสนอตั้งงบสถานการณ์ฉุกเฉินสำรองไว้เผื่อเกิดโรคระบาด ปีงบประมาณหน้า 200-300 ล้านบาท ชี้ ไม่ใช้หากไม่จำเป็น
นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กล่าวว่า จากการประมาณการตัวเลขผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลในระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้า คาดว่า น่าจะมีประมาณ 75% ของผู้ป่วยทั้งหมด ซึ่งค่ารักษาพยาบาลที่เพิ่มมากขึ้นนั้น กลายเป็นภาระของโรงพยาบาล เนื่องจากค่าเหมาจ่ายรายหัวเป็นการคำนวณตามอัตราการรักษาโรคในภาวะปกติ ไม่มีในส่วนของงบประมาณในสถานการณ์ฉุกเฉิน เช่น โรคระบาด อุบัติเหตุ ซึ่งที่ผ่านมา สปสช.จะเป็นผู้สำรองจ่ายไปก่อน แล้วเสนอของงบกลางจากรัฐบาล แต่การของบกลางไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้น ในปีงบประมาณหน้า มีแนวคิดในการนำข้อเสนอตั้งงบประมาณสถานการณ์ฉุกเฉินพิจารณาในคณะกรรมการบริหารหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ซึ่งอาจสำรองงบประมาณ 200-300 ล้านบาท ซึ่งบางปีอาจไม่มีการนำมาใช้เลยก็ได้ ทั้งนี้ จะต้องมีการคำนวณงบประมาณที่เหมาะสม และเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป
นพ.วินัย กล่าวต่อว่า ส่วนการประชุมหารือกับคลินิกเอกชน และโรงพยาบาลเอกชนที่เข้าร่วมโครงการหน่วยบริการปฐมภูมิใกล้บ้านใกล้ใจกับ สปสช.ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในกรุงเทพฯ ในวันที่ 30 กรกฎาคมนี้ จะเน้นสร้างความเข้าใจร่วมกันในเรื่องของมาตรฐานการรักษาให้เป็นไปตามที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กำหนด รวมถึงการสนับสนุนยาโอเซลทามิเวียร์ ให้กับหน่วยบริการ ซึ่งเป็นไปตามแนวทางที่ สธ.กำหนดเช่นเดียวกัน เช่น ต้องมีการจัดทำระบบการรายงานผู้ป่วยที่รับยาโอเซลทามิเวียร์ มาตรการการควบคุมการใช้ยา และวิธีการเบิกจ่ายยาที่เหมาะสม โดยต้องคำนึงว่า หากคลินิกต้องซื้อยาเองอาจจะทำให้ไม่อยากจ่ายยาให้ผู้ป่วย ขณะเดียวกัน หากให้คลินิกสามารถเบิกยาได้ฟรี อาจทำให้เกิดปัญหาการจ่ายยาพร่ำเพรื่อ และดื้อยาได้
