ไทยไม่งงรู้มาตลอดว่ากัมพูชายื่นแผนจัดการ “พระวิหาร” ให้ยูเนสโกตั้งแต่ 28 ม.ค. แจงต้องส่งก่อน 1 ก.พ.53 อยู่แล้ว วธ.ชี้ยังไม่มีผลว่าไทยจะคัดค้านไม่สำเร็จ เร่งเดินหน้ารวมข้อมูลส่งยูเนสโกตีคู่กับแผนเขมร
นายธีระ สลักเพชร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวว่า จากกรณีที่โฆษกสำนักงานสภารัฐมนตรีกัมพูชา ออกแถลงการณ์ตอบโต้นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่องกัมพูชาได้ส่งรายงานฉบับสุดท้ายว่าด้วยแผนการจัดการมรดกโลกต่อ คณะกรรมการมรดกโลกชุดใหญ่ขององค์การศึกษา วัฒนธรรม และวิทยาศาสตร์แห่งสหประชาชาติ หรือยูเนสโก ไปแล้วตั้งแต่ 28 ม.ค.ที่ผ่านมานั้น ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อประเทศไทย และไทยก็รู้มาตลอดว่ากัมพูชาได้ส่งแผนการจัดการไปแล้ว เนื่องจากยูเนสโกได้กำหนดว่าต้องส่งแผนดังกล่าวภายในวันที่ 1 ก.พ. ดังนั้นจึงเป็นเรื่องปกติที่กัมพูชาออกมาแถลงข่าว
นายธีระกล่าวอีกว่า สำหรับการยื่นคัดค้านการขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารเป็นมรดกโลกของไทยนั้น ในส่วนคณะอนุกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก ด้านวัฒนธรรมได้เร่งรวบรวมข้อมูลทางด้านวัฒนธรรม เพื่อพิจารณาสรุปแผนการดำเนินงานด้านวัฒนธรรมของไทย จากนั้นจะนำข้อมูลดังกล่าวหารือ ในที่ประชุมคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลกของไทย 3 ฝ่าย ก่อนที่จัดทำข้อสรุปเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อจัดทำเอกสารคัดค้านการขึ้นทะเบียนของกัมพูชาควบคู่ไปกับการเสนอแผนบริหารจัดการพื้นที่ของทางการกัมพูชา โดยจะยื่นชี้แจงไปยังยูเนสโกต่อไป
ขณะนี้ที่ประชุมอนุกรรมการฯ 3 ด้าน ประกอบด้วย ด้านวัฒนธรรม ที่มีผมประธานดูแลกรณีที่ทางการกัมพูชาเสนอให้เขาพระวิหารเป็นมรดกทางด้านวัฒนธรรม ด้านชายแดน ซึ่งมีนายก ษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เป็นประธาน ดูแลปัญหาพื้นที่ทับซ้อนระหว่างกัน และด้านสิ่งแวดล้อมซึ่งมีนายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เป็นประธานดูแลในประเด็นพื้นที่อุทยาน ทุกฝ่ายได้มีการเตรียมการหารือกันเป็นการภายใน เพื่อจะได้นำข้อมูลเข้าประชุมร่วมกับคณะกรรมการชุดใหญ่ ซึ่งยังไม่ได้กำหนดวันที่แน่ชัด และเมื่อได้ข้อสรุปแล้วจะจัดทำข้อสรุปเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อจัดทำเอกสารคัดค้านการขึ้นทะเบียนของกัมพูชาควบคู่ไปกับการเสนอแผนบริหารจัดการพื้นที่ของทางการกัมพูชา โดยจะยื่นชี้แจงไปยังคณะกรรมการมรดกโลกชุดใหญ่ยูเนสโกต่อไป
“ส่วนในแถลงการณ์ที่ระบุว่ายูเนสโกและคณะกรรมการมรดกโลกไม่มีบทบาทจะพิจารณาเกี่ยวกับชายแดน เพราะอยู่ในความดูแลของคณะกรรมการปักปันเขตแดนร่วมระหว่างไทยและกัมพูชาที่ได้จัดตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2543 และบันทึกความเข้าใจในปีนั้นก็ได้ยอมรับแผนที่ที่จัดทำขึ้นในปี ค.ศ.1907 แล้วนั้น เป็นเรื่องที่อนุกรรมการด้านชายแดนดูแล ไม่เกี่ยวกับงานวัฒนธรรม” รมว.วัฒนธรรม กล่าว
นายธีระ สลักเพชร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวว่า จากกรณีที่โฆษกสำนักงานสภารัฐมนตรีกัมพูชา ออกแถลงการณ์ตอบโต้นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่องกัมพูชาได้ส่งรายงานฉบับสุดท้ายว่าด้วยแผนการจัดการมรดกโลกต่อ คณะกรรมการมรดกโลกชุดใหญ่ขององค์การศึกษา วัฒนธรรม และวิทยาศาสตร์แห่งสหประชาชาติ หรือยูเนสโก ไปแล้วตั้งแต่ 28 ม.ค.ที่ผ่านมานั้น ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อประเทศไทย และไทยก็รู้มาตลอดว่ากัมพูชาได้ส่งแผนการจัดการไปแล้ว เนื่องจากยูเนสโกได้กำหนดว่าต้องส่งแผนดังกล่าวภายในวันที่ 1 ก.พ. ดังนั้นจึงเป็นเรื่องปกติที่กัมพูชาออกมาแถลงข่าว
นายธีระกล่าวอีกว่า สำหรับการยื่นคัดค้านการขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารเป็นมรดกโลกของไทยนั้น ในส่วนคณะอนุกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก ด้านวัฒนธรรมได้เร่งรวบรวมข้อมูลทางด้านวัฒนธรรม เพื่อพิจารณาสรุปแผนการดำเนินงานด้านวัฒนธรรมของไทย จากนั้นจะนำข้อมูลดังกล่าวหารือ ในที่ประชุมคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลกของไทย 3 ฝ่าย ก่อนที่จัดทำข้อสรุปเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อจัดทำเอกสารคัดค้านการขึ้นทะเบียนของกัมพูชาควบคู่ไปกับการเสนอแผนบริหารจัดการพื้นที่ของทางการกัมพูชา โดยจะยื่นชี้แจงไปยังยูเนสโกต่อไป
ขณะนี้ที่ประชุมอนุกรรมการฯ 3 ด้าน ประกอบด้วย ด้านวัฒนธรรม ที่มีผมประธานดูแลกรณีที่ทางการกัมพูชาเสนอให้เขาพระวิหารเป็นมรดกทางด้านวัฒนธรรม ด้านชายแดน ซึ่งมีนายก ษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เป็นประธาน ดูแลปัญหาพื้นที่ทับซ้อนระหว่างกัน และด้านสิ่งแวดล้อมซึ่งมีนายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เป็นประธานดูแลในประเด็นพื้นที่อุทยาน ทุกฝ่ายได้มีการเตรียมการหารือกันเป็นการภายใน เพื่อจะได้นำข้อมูลเข้าประชุมร่วมกับคณะกรรมการชุดใหญ่ ซึ่งยังไม่ได้กำหนดวันที่แน่ชัด และเมื่อได้ข้อสรุปแล้วจะจัดทำข้อสรุปเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อจัดทำเอกสารคัดค้านการขึ้นทะเบียนของกัมพูชาควบคู่ไปกับการเสนอแผนบริหารจัดการพื้นที่ของทางการกัมพูชา โดยจะยื่นชี้แจงไปยังคณะกรรมการมรดกโลกชุดใหญ่ยูเนสโกต่อไป
“ส่วนในแถลงการณ์ที่ระบุว่ายูเนสโกและคณะกรรมการมรดกโลกไม่มีบทบาทจะพิจารณาเกี่ยวกับชายแดน เพราะอยู่ในความดูแลของคณะกรรมการปักปันเขตแดนร่วมระหว่างไทยและกัมพูชาที่ได้จัดตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2543 และบันทึกความเข้าใจในปีนั้นก็ได้ยอมรับแผนที่ที่จัดทำขึ้นในปี ค.ศ.1907 แล้วนั้น เป็นเรื่องที่อนุกรรมการด้านชายแดนดูแล ไม่เกี่ยวกับงานวัฒนธรรม” รมว.วัฒนธรรม กล่าว