ผอ.ตลาดนัดจตุจักรปัดมีมาเฟียคุมเก็บเงินที่จอดรถจตุจักร แต่รับมีเจ้าหน้าที่แอบยักยอกเงินหลวงเข้ากระเป๋าตัวเองแต่เอาผิดไม่ได้เพราะไม่มีหลักฐาน เผยเตรียมใช้เครื่องจักรแทนคนเก็บเงิน

นายอรุณ ศรีจรูญ ผู้อำนวยการตลาดนัดกรุงเทพมหานคร (จตุจักร) กรุงเทพมหานคร(กทม.) กล่าวถึงกรณีที่สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร ออกมาระบุว่าในพื้นที่ตลาดนัดจตุจักร มีมาเฟียเข้าไปดำเนินการจัดเก็บเงิน โดยเฉพาะจุดจอดรถ ทำให้ตลาดนัดจตุจักรมีรายได้ที่ได้จากค่าจอดรถหายไปประมาณเดือนละ 200,000 บาท ว่า ประเด็นเรื่องมาเฟียจุดจอดรถนั้นตนยืนยันว่าไม่มีแน่นอน และตนไม่เคยใช้ให้ผู้ใดเข้าไปดำเนินการจัดเก็บเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง หรือยักยอกเงินหลวง ส่วนกรณีที่รายได้จากการให้บริการจุดจอดลดลงจากเดิมที่ได้ประมาณเดือนละ 400,000 บาทนั้น ตนยอมรับว่ารายได้ลดลงเพราะหลายปัจจัย อาทิ มีจุดจอดรถในอาคารเปิดให้บริการรอบตลาดนัดจำนวนมาก และการเก็บค่าบริการปัจจุบันยอมรับว่ามีเจ้าหน้าที่บางคนที่มีพฤติกรรมนำเงินค่าบริการเข้ากระเป๋าตัวเอง โดยไม่สามารถตรวจสอบได้ เพราะปัจจุบันเครื่องที่ใช้บันทึกการเข้าออกนั้นชำรุด ซึ่งปัญหาดังกล่าวทางกองอำนวยการได้ใช้วิธีเปลี่ยนเจ้าหน้าที่เก็บเงิน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยบ่อยๆ ส่วนมาตรการจัดเก็บค่าบริการในอนาคตนั้น ตนได้วางแผนไว้ว่าจะใช้เครื่องอิเล็กทรอนิกส์แทนการใช้คน เบื้องต้นเครื่องดังกล่าวอยู่ระหว่างการทดลองใช้ที่ตลาดนัดจตุจักร2 เขตมีนบุรี ซึ่งหากเครื่องมีประสิทธิภาพมาก ทางตลาดนัดจตุจักรก็จะนำมาใช้ต่อไป
นายอรุณ กล่าวอีกว่า สำหรับการตรวจสอบหรือเอาผิดคนเก็บเงินค่าบริการจุดจอดนั้น เบื้องต้นยังถือว่าเป็นเรื่องที่ยาก เพราะไม่มีหลักฐานที่บันทึกไว้สำหรับเอาผิด เพราะปัจจุบันใช้ระบบออกคูปองใบละ 40 บาทให้กับประชาชนที่ใช้บริการ และการควบคุมพฤติกรรมยังถือว่าเป็นเรื่องยาก
นายอรุณ ศรีจรูญ ผู้อำนวยการตลาดนัดกรุงเทพมหานคร (จตุจักร) กรุงเทพมหานคร(กทม.) กล่าวถึงกรณีที่สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร ออกมาระบุว่าในพื้นที่ตลาดนัดจตุจักร มีมาเฟียเข้าไปดำเนินการจัดเก็บเงิน โดยเฉพาะจุดจอดรถ ทำให้ตลาดนัดจตุจักรมีรายได้ที่ได้จากค่าจอดรถหายไปประมาณเดือนละ 200,000 บาท ว่า ประเด็นเรื่องมาเฟียจุดจอดรถนั้นตนยืนยันว่าไม่มีแน่นอน และตนไม่เคยใช้ให้ผู้ใดเข้าไปดำเนินการจัดเก็บเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง หรือยักยอกเงินหลวง ส่วนกรณีที่รายได้จากการให้บริการจุดจอดลดลงจากเดิมที่ได้ประมาณเดือนละ 400,000 บาทนั้น ตนยอมรับว่ารายได้ลดลงเพราะหลายปัจจัย อาทิ มีจุดจอดรถในอาคารเปิดให้บริการรอบตลาดนัดจำนวนมาก และการเก็บค่าบริการปัจจุบันยอมรับว่ามีเจ้าหน้าที่บางคนที่มีพฤติกรรมนำเงินค่าบริการเข้ากระเป๋าตัวเอง โดยไม่สามารถตรวจสอบได้ เพราะปัจจุบันเครื่องที่ใช้บันทึกการเข้าออกนั้นชำรุด ซึ่งปัญหาดังกล่าวทางกองอำนวยการได้ใช้วิธีเปลี่ยนเจ้าหน้าที่เก็บเงิน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยบ่อยๆ ส่วนมาตรการจัดเก็บค่าบริการในอนาคตนั้น ตนได้วางแผนไว้ว่าจะใช้เครื่องอิเล็กทรอนิกส์แทนการใช้คน เบื้องต้นเครื่องดังกล่าวอยู่ระหว่างการทดลองใช้ที่ตลาดนัดจตุจักร2 เขตมีนบุรี ซึ่งหากเครื่องมีประสิทธิภาพมาก ทางตลาดนัดจตุจักรก็จะนำมาใช้ต่อไป
นายอรุณ กล่าวอีกว่า สำหรับการตรวจสอบหรือเอาผิดคนเก็บเงินค่าบริการจุดจอดนั้น เบื้องต้นยังถือว่าเป็นเรื่องที่ยาก เพราะไม่มีหลักฐานที่บันทึกไว้สำหรับเอาผิด เพราะปัจจุบันใช้ระบบออกคูปองใบละ 40 บาทให้กับประชาชนที่ใช้บริการ และการควบคุมพฤติกรรมยังถือว่าเป็นเรื่องยาก