xs
xsm
sm
md
lg

“อภิชาต” จวกดีเอสไอทำสำนวน 258 ล.ปชป.ชุ่ย! คาดฟันธงไม่ทัน ก.พ.นี้ จ่อชงศาล รธน.วินิจฉัย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายอภิชาติ สุขัคคานนท์ ประธานกรรมการการเลือกตั้ง
ประธาน กกต.จ่อโยนคดีเงินบริจาค 258 ล้าน พรรคประชาธิปัตย์ ชงศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย แต่ยอมรับเสร็จไม่ทันเดือนนี้แน่ ซัดกรมสอบสวนคดีพิเศษชุ่ย สอบสวนยังไม่เสร็จแต่ส่งสำนวนมาให้ กกต.พิจาณาเสียแล้ว แถมไม่ฟันธงอะไรทั้งสิ้น คณะทำงานต้องหาหลักฐานให้ชัดแทน วอนเห็นใจกันบ้าง ปัดชี้นำกกต.คนอื่น บอกมีศักดิ์ศรีเท่ากันหมด

วันนี้ (9 ก.พ.) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง เปิดเผยความคืบหน้าในการพิจารณาคดีเงินบริจาค 258 ล้านบาทและเงินกองทุนเพื่อพัฒนาพรรคการเมือง จำนวน 29 ล้านบาทของพรรคประชาธิปัตย์ ที่อาจนำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ว่า ขณะนี้คณะทำงานที่นายทะเบียนพรรคการเมืองได้ตั้งขึ้นได้ประชุมกันอย่างต่อเนื่อง เท่าที่รับราบงานเบื้องต้นภายในเดือน ก.พ.นี้คงไม่สามารถพิจารณาได้แล้วเสร็จ แต่จะเร่งรัดในการดำเนินการให้เร็วที่สุด เนื่องจากเรื่องดังกล่าว ตนดูแล้วคิดว่าเรื่องจะต้องส่งศาลรัฐธรรมนูญ ดังนั้นจะต้องสืบหาพยานหลักฐานเอกสารข้อเท็จจริงให้ชัดเจน ต้องพร้อมที่จะให้ศาลวินิจฉัยได้เลย และขณะนี้มีเอกสารที่เกี่ยวข้องกับเส้นทางการเงินต้องดำเนินการตรวจสอบกับธนาคาร แต่การดำเนินการตามอำนาจของนายทะเบียนพรรคการเมืองนั้น ไม่ทราบว่าจะสอบถามไปยังธนาคารโดยตรงได้หรือไม่ เพราะว่านายทะเบียนไม่มีอำนาจเหมือน กกต.

เมื่อถามว่า แสดงว่าการทำงานของดีเอสไอ และคณะกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวของ กกต.พิจารณาเรื่องดังกล่าวไม่รอบคอบใช่หรือไม่ นายอภิชาตกล่าวว่า ตนอยากให้ดูหนังสือที่ทางดีเอสไอส่งมา ไม่ได้มีอะไรชัดเจนเลยว่า ใครทำผิดอย่างไร ประกอบกับเรื่องการตรวจสอบการทำงานของผู้บริหารของบริษัท ทีพีไอ ที่เกี่ยวกับการยักยอกเงิน ดีเอสก็ยังตรวจสอบไม่เสร็จสิ้น ทั้งที่จริงเรื่องนี้ทางดีเอสไอน่าจะส่งศาลได้แล้ว แต่เรื่องก็เห็นเรื่องเงียบไป และยังไม่ได้สรุปว่ามีการยักยอกเงิน 258 ล้านจริงหรือไม่

“ขอให้เห็นใจนายทะเบียนบ้าง ผมเพิ่งได้รับสำนวนมาดู เพียง 2 เดือนและเมื่อรับมาทำในฐานะนายทะเบียนก็ตั้งใจจะทำให้รอบคอบและเร็วที่สุด ดังนั้น ขอเวลาให้กับนายทะเบียนได้ศึกษาข้อเท็จจริง ยืนยันว่าการดำเนินการของผมจะเป็นมาตรฐานเดียว เมื่อเสร็จแล้วจะทำคำวินิจฉัยออกไป ส่วนคนจะมองว่าผมมี 2 มาตรฐานหรือหลายมาตรฐานก็เป็นเรื่องที่วิจารณ์กันได้ เพราะแม้แต่ศาลเองก็ยังถูกวิพากษ์วิจารณ์กัน ผมไม่ได้โต้แย้ง แต่ผมจะทำให้ดีที่สุด และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย อย่างไรก็ตามการที่ผมลงมติครั้งที่ผ่านมา ไม่ได้เป็นการชี้นำ กกต.คนอื่นเหมือนอย่างที่มีคนพูดกัน เพราะผมไม่ได้เป็นผู้บังคับบัญชา และกกต.มีศักดิ์เท่าเทียมกันหมด” นายอภิชาตกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น