xs
xsm
sm
md
lg

กลต.ไล่บี้บิ๊กSECC ยืดเวลาอายัดทรัพย์ต่อ หวั่นสมพงษ์-สุริยายักย้าย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ก.ล.ต. งัดไม้เด็ดเหนี่ยวรั้งเวลาอายัดทรัพย์สินแก๊งค์ทุจริต SECC รวม 4 ราย โดยถูกกล่าวโทษเพิ่มเติม กรณีทุจริตใน SECC และ SECC Holding ทั้ง "สมพงษ์ วิทยารักษ์สรรค์" "สุริยา ลาภวิสุทธิสิน" "นิภาพร คมกล้า" และ "สมชาย ศรีพยัคฆ์" อีก 180 วัน ด้วยเหตุอันควรเชื่อว่าผู้กระทำความผิด จะยักย้ายหรือจำหน่ายทรัพย์สินของตนหลังครบกำหนดเวลาอายัดทรัพย์สินเดิม

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) มีคำสั่งอายัดทรัพย์สินของนายสมพงษ์ วิทยารักษ์สรรค์ นายสุริยา ลาภวิสุทธิสิน นางสาวนิภาพร คมกล้า และนายสมชาย ศรีพยัคฆ์ ที่ถูกกล่าวโทษเพิ่มเติมวานนี้ (17ธ.ค.) กรณีทุจริตในบริษัท เอส.อี.ซี. ออโต้เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) (SECC) และบริษัทย่อยรายบริษัท เอสอีซี โฮลดิ้ง จำกัด (SECC Holdin”) เป็นเวลา 180 วัน

สืบเนื่องจากสำนักงาน ก.ล.ต. ได้กล่าวโทษนายสมพงษ์ นางสาวนิภาพร และผู้ที่เกี่ยวข้อง กรณีทุจริตต่อทรัพย์สินของ SECC พร้อมทั้งมีคำสั่งอายัดทรัพย์สินของบุคคลดังกล่าวเป็นเวลา 180 วัน และศาลอาญาได้มีคำสั่งให้ขยายระยะเวลาอายัดทรัพย์สินของผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมดในคดีออกไปอีก 180 วัน ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 3 มกราคม 2553

ส่วนกรณีนายสุริยา สำนักงาน ก.ล.ต. ได้กล่าวโทษนายสุริยา และผู้ที่เกี่ยวข้อง กรณียักยอกทรัพย์สินของบริษัท ปิคนิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (PICNI)พร้อมทั้งมีคำสั่งอายัดทรัพย์สินของบุคคลดังกล่าวเป็นเวลา 180 วัน และศาลอาญาได้มีคำสั่งให้ขยายระยะเวลาอายัดทรัพย์สินของผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมดในคดีออกไปอีก 180 วัน ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 7 มีนาคม 2553

หลังจากนั้น สำนักงาน ก.ล.ต. ได้กล่าวโทษนายสมพงษ์ นายสุริยา นางสาวนิภาพร และนายสมชาย เพิ่มเติม ในฐานะตัวการที่กระทำการทุจริตหรือผู้สนับสนุนการทุจริตใน SECC และ SECC Holding ในอีก 5 ประเด็น ได้แก่ การยักยอกเงินผ่านการให้กู้ยืมของ SECC Holding การยักยอกเงินฝากของ SECC Holding การยักยอกเงินจากบัญชีจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนของ SECC การยักยอกชุดจดทะเบียนรถยนต์ และการตบแต่งบัญชีรายได้ค่าขายรถยนต์ของ SECC

ทั้งนี้ เนื่องจากคำสั่งอายัดทรัพย์สินเดิมของนายสมพงษ์ นางสาวนิภาพร และนายสุริยา ใกล้จะครบอายุ ประกอบกับการกระทำความผิดของบุคคลทั้ง 3 รายดังกล่าว มีลักษณะอันอาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประโยชน์ของประชาชน จึงมีเหตุอันควรเชื่อว่าผู้กระทำความผิดทั้ง 3 ราย จะยักย้ายหรือจำหน่ายทรัพย์สินของตนหลังครบกำหนดเวลาอายัดทรัพย์สินเดิม ส่วนกรณีนายสมชาย มีพฤติกรรมหลบหนี และการกระทำความผิดของนายสมชายเป็นความผิดที่กระทบต่อประโยชน์ของประชาชน จึงมีเหตุอันควรเชื่อว่านายสมชายจะยักย้ายหรือจำหน่ายทรัพย์สิน

ดังนั้น สำนักงาน ก.ล.ต. ด้วยความเห็นชอบของคณะกรรมการ ก.ล.ต. จึงมีคำสั่งให้อายัดทรัพย์สินของบุคคลทั้ง 4 รายดังกล่าว เป็นเวลา 180 วัน โดยกรณีนายสมพงษ์ และนางสาวนิภาพร ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 4 มกราคม 2553 กรณีนายสุริยา ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม 2553 และกรณีนายสมชาย ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม 2552 เป็นต้นไป

ก่อนหน้านี้ นายประสงค์ วินัยแพทย์ รองเลขาธิการก.ล.ต.ระบุว่า ก.ล.ต.อยากให้ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)ยื่นฟ้องคดีSECC และ PICNI โดยเร็ว ก่อนที่จะครบระยะเวลาอายัดทรัพย์ เนื่องจากที่ผ่านมา ก.ล.ต.ได้ขอให้มีการขยายเวลาอายัดทรัพย์ของทั้ง 2 บริษัทมาแล้วจำนวน 2 ครั้งแล้ว ทำให้ไม่สามารถที่จะขยายเวลาอายัดทรัพย์ได้อีก ซึ่งทั้ง 2 บริษัทจะครบกำหนดอายัดทรัพย์ในเดือนมกราคม และมีนาคมตามลำดับ โดยหากดีเอสไอยื่นฟ้องไม่ทันนั้น จะต้องมีการคืนทรัพย์ที่อายัดไว้กลับคืน ซึ่งที่ผ่านมา ก.ล.ต.ได้มีการทำหนังสือถึงดีเอสไอ เป็นระยะๆ ในการขอให้เร่งดำเนินการส่งฟ้อง จากที่ผ่านมา ก.ล.ต.ได้มีการส่งข้อมูลเกี่ยวกับคดีของทั้ง 2 บริษัทให้ครบถ้วนแล้ว แต่หากดีเอสไอมีการส่งฟ้องได้ทันกำหนดเวลาจะทำให้สามารถอายัดทรัพย์ได้ต่อไปจนกว่าคดีจะสิ้นสุด
กำลังโหลดความคิดเห็น