“ชินวรณ์” สั่ง รมช.ติดตามกรณีทะเลาะวิวาทยิงกันตายของนักศึกษาเทคโนโลยีทั้ง 2 สถาบัน พร้อมประสานตำรวจใช้กฎหมายเคร่งครัด ไม่ต้องเกรงเสียอนาคต เผยอาจส่งนักศึกษากลุ่มเสี่ยงก่อความรุนแรงเข้ากระบวนการกรมราชทัณฑ์ หรือเข้าโรงเรียนเยาวชนวิวัฒน์ ด้าน “นริศรา” เสนอใช้มาตรการชะลอจัดส่งงบเรียนฟรี 15 ปี ให้สถาบันที่ไม่ดูแลเด็ก
นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวถึงเหตุทะเลาะวิวาทยิงกันเสียชีวิตของนักเรียนนักศึกษาโรงเรียนเทคโนโลยีดุสิตและวิทยาลัยเทคโนโลยีปทุมธานี เมื่อวานนี้ (11 ก.พ.) ว่า ได้มอบหมายให้ นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และองค์กรหลักที่เกี่ยวข้อง เข้าไปติดตามดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ภายใต้กรอบที่จะต้องให้ภาคี 4 ฝ่ายมาร่วมรับผิดชอบ ได้แก่ นักเรียนนักศึกษา ผู้ปกครอง ผู้บริหารสถานศึกษา และคณะกรรมการหรือสภาสถานศึกษา พร้อมประสานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ขอให้ใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดในกรณีลักษณะนี้ จากที่ในอดีตมักไม่ดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด เนื่องจากเกรงว่าเยาวชนจะเสียอนาคต
นายชินวรณ์ กล่าวว่า สำหรับการจัดการกับเด็กกลุ่มเสี่ยงที่มักเป็นต้นเหตุของความรุนแรง อาจจะต้องคิดนอกกรอบ เช่น การส่งเข้าค่ายโรงเรียนเยาวชนวิวัฒน์ หรือการนำเข้าสู่กระบวนการของกรมราชทัณฑ์ ขณะเดียวกันต้องวิจัยกรณีทะเลาะวิวาทเป็นรายกรณี ซึ่งส่วนใหญ่พบว่าเป็นเรื่องส่วนตัวมากกว่าเรื่องสถาบัน และในระยะยาวส่งเสริมภูมิคุ้มกันให้เด็กใช้ปัญญามากกว่าใช้กำลัง ส่วนการจะสั่งปิดสถาบันหรือไม่จะต้องพิจารณาเป็นกรณีไป
ด้าน น.ส.นริศรา ชวาลตันพิพัทธ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการ ศธ.กล่าวว่า กรณีทะเลาะวิวาทดังกล่าวเป็นสถาบันในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ซึ่งตนเห็นว่าแม้จะไม่สามารถกำกับดูแลได้โดยตรงเหมือนสถานศึกษาในสังกัดกระทรวงฯ แต่มีส่วนความผูกพันผ่านทางงบประมาณเรียนฟรี 15 ปีอย่างมีคุณภาพ ที่สถานศึกษาเอกชนได้รับงบประมาณสนับสนุนร้อยละ 70 ซึ่งหากไม่ได้รับความร่วมมือจากผู้บริหารหรือเจ้าของสถานศึกษา อาจจะพิจารณาใช้มาตรการชะลอการจัดส่งงบประมาณเรียนฟรีไปให้สถานศึกษาที่มีปัญหาได้เพราะความรุนแรงที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบอย่างยิ่งต่อโครงสร้างทางการศึกษาในปัจจุบัน
ขณะที่ นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการ ศธ.กล่าวว่า ได้สั่งการให้หน่วยงานที่กำกับดูแลสถาบันที่เกิดเหตุ เร่งสอบสวนทำรายงานข้อเท็จจริงขึ้นมา เพื่อจะพิจารณาดำเนินมาตรการต่างๆ เพื่อแก้ไขปัญหาต่อไป
นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวถึงเหตุทะเลาะวิวาทยิงกันเสียชีวิตของนักเรียนนักศึกษาโรงเรียนเทคโนโลยีดุสิตและวิทยาลัยเทคโนโลยีปทุมธานี เมื่อวานนี้ (11 ก.พ.) ว่า ได้มอบหมายให้ นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และองค์กรหลักที่เกี่ยวข้อง เข้าไปติดตามดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ภายใต้กรอบที่จะต้องให้ภาคี 4 ฝ่ายมาร่วมรับผิดชอบ ได้แก่ นักเรียนนักศึกษา ผู้ปกครอง ผู้บริหารสถานศึกษา และคณะกรรมการหรือสภาสถานศึกษา พร้อมประสานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ขอให้ใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดในกรณีลักษณะนี้ จากที่ในอดีตมักไม่ดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด เนื่องจากเกรงว่าเยาวชนจะเสียอนาคต
นายชินวรณ์ กล่าวว่า สำหรับการจัดการกับเด็กกลุ่มเสี่ยงที่มักเป็นต้นเหตุของความรุนแรง อาจจะต้องคิดนอกกรอบ เช่น การส่งเข้าค่ายโรงเรียนเยาวชนวิวัฒน์ หรือการนำเข้าสู่กระบวนการของกรมราชทัณฑ์ ขณะเดียวกันต้องวิจัยกรณีทะเลาะวิวาทเป็นรายกรณี ซึ่งส่วนใหญ่พบว่าเป็นเรื่องส่วนตัวมากกว่าเรื่องสถาบัน และในระยะยาวส่งเสริมภูมิคุ้มกันให้เด็กใช้ปัญญามากกว่าใช้กำลัง ส่วนการจะสั่งปิดสถาบันหรือไม่จะต้องพิจารณาเป็นกรณีไป
ด้าน น.ส.นริศรา ชวาลตันพิพัทธ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการ ศธ.กล่าวว่า กรณีทะเลาะวิวาทดังกล่าวเป็นสถาบันในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ซึ่งตนเห็นว่าแม้จะไม่สามารถกำกับดูแลได้โดยตรงเหมือนสถานศึกษาในสังกัดกระทรวงฯ แต่มีส่วนความผูกพันผ่านทางงบประมาณเรียนฟรี 15 ปีอย่างมีคุณภาพ ที่สถานศึกษาเอกชนได้รับงบประมาณสนับสนุนร้อยละ 70 ซึ่งหากไม่ได้รับความร่วมมือจากผู้บริหารหรือเจ้าของสถานศึกษา อาจจะพิจารณาใช้มาตรการชะลอการจัดส่งงบประมาณเรียนฟรีไปให้สถานศึกษาที่มีปัญหาได้เพราะความรุนแรงที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบอย่างยิ่งต่อโครงสร้างทางการศึกษาในปัจจุบัน
ขณะที่ นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการ ศธ.กล่าวว่า ได้สั่งการให้หน่วยงานที่กำกับดูแลสถาบันที่เกิดเหตุ เร่งสอบสวนทำรายงานข้อเท็จจริงขึ้นมา เพื่อจะพิจารณาดำเนินมาตรการต่างๆ เพื่อแก้ไขปัญหาต่อไป
