xs
xsm
sm
md
lg

บอร์ด สกสค.ไฟเขียวแผนฟื้นฟูองค์การค้าฯ กู้ออมสิน 1.5 พันล.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายชินภัทร ภูมิรัตน
“ชินภัทร” เผยบอร์ด สกสค.เห็นชอบแผนฟื้นฟูองค์การค้าฯ วงเงิน 2,000 ล. เตรียมยืมเงิน ช.พ.ค.500 ล.ฝากออมสินเพื่อกู้ได้ 3 เท่า จำนวน 1,500 ล. ดำเนินโครงการเพิ่มศักยภาพร้านศึกษาภัณฑ์ ปรับอัตราบุคลากร พัฒนาระบบไอที เพิ่มขีดความสามารถการพิมพ์ พร้อมสร้างภาพลักษณ์องค์กร ย้ำไร้ปัญหาจ่ายเงินเดือนพนักงาน เล็งรายงานรัฐบาลรับทราบปัญหาเพื่อยื่นมือช่วย


วันนี้ (11 ก.พ.) นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ในฐานะรักษาการผู้อำนวยการองค์การค้าของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) เปิดเผยภายหลังการประชุมบอร์ด สกสค.ว่า วันนี้เป็นการประชุมนัดพิเศษเพื่อพิจารณาวาระสำคัญเรื่องการขอรับการสนับสนุนสินเชื่อจากธนาคาออมสิน เพื่อดำเนินแผนฟื้นฟูองค์การค้าฯ ปี 2553-2557 เนื่องจาก บอร์ด สกสค.มีมติให้ความเห็นชอบการฟื้นฟูองค์การค้าฯ ในวงเงิน 2,000 ล้านบาท ซึ่งที่ผ่านมาองค์การค้าฯ ได้มีการติดต่อหาแหล่งเงินกู้หลายแห่ง รวมถึงธนาคารออมสิน และได้มีการตกลงในหลักการกับธนาคารออมสินว่าจะใช้วิธีการฝากเงินเพื่อให้สามารถกู้เงินได้ 3 เท่าของเงินที่ฝาก โดยในการเจรจาจะต้องนำเสนอเอกสารการเงิน งบฯ กำไรขาดทุน รวมถึงแผนการใช้หนี้และแผนฟื้นฟูองค์การค้าฯ เป็นต้น มาพิจารณา

นายชินภัทรกล่าวต่อว่า จากการประสานงานดังกล่าวทางธนาคารออมสินยินดีให้องค์การค้าฯ ดำเนินการตามข้อตกลงได้ โดยได้เลือกโครงการในแผนฟื้นฟูมาดำเนินการ 5 โครงการหลักคือ 1. การเพิ่มศักยภาพของร้านศึกษาภัณฑ์พาณิชย์ ที่มีอยู่ 9 สาขา ให้มีสินค้าอุปกรณ์ การเรียนการสอน จำหน่ายอย่างครบถ้วน 2.การปรับอัตรากำลังบุคลากรให้อยู่ในจำนวนที่เหมาะสม โดยนำเงินที่ได้จากการกู้มาทำโครงการเออร์ลีรีไทร์ 3.การพัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อจัดระบบการบริหารงาน 4.การเพิ่มศักยภาพการพิมพ์ และ 5.การประชาสัมพันธ์สร้างภาพพจน์ที่ดี และการมีส่วนร่วมของสังคม ทั้งนี้ที่ประชุมจึงมีมติให้ สกสค.นำเงินไปฝากกับธนาคารออมสิน 500 ล้านบาท โดยใช้เงินฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา(ชพค.) เพื่อที่จะได้กู้ได้ 3 เท่า เป็นจำนวน 1,500 ล้านบาท แต่ทั้งนี้ สกสค.จะต้องทำแผนการใช้หนี้ ชพค.ที่ค้างอยู่กว่า 300 ล้านบาท เสนอไปด้วย

“สำหรับปัญหาเงินเดือนพนักงานองค์การค้าฯ นั้นจากการติดตามสถานการณ์การเงินในเดือน ก.พ.นี้ องค์การค้าฯ สามารถติดตามหนี้ได้พอสมควร และในเดือนมี.ค.ก็จะเริ่มมีคำสั่งซื้อสินค้าเข้ามา ทำให้จะมีเงินหมุนบรรจบกันพอดี คิดว่าไม่น่ามีปัญหาเรื่องการจ่ายเงินเดือนพนักงาน แต่ก็เป็นเพียงการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเท่านั้น ส่วนในระยะยาวจะต้องเร่งเรื่องการทำแผนฟื้นฟู รวมถึงขอให้รัฐบาลรับทราบภาระขององค์การค้าฯ ในการทำหน้าที่สนับสนุนด้านราคาของแบบเรียนที่เหมาะสม และตรึงราคาให้ไม่แบบเรียนมีราคาสูงเกินไป ซึ่งส่งผลให้องค์การค้าฯ ขาดทุนสะสมมา 7-8 ปีแล้ว ทั้งนี้ที่ต้องแจ้งให้รัฐบาลรับทราบปัญหา เพราะเมื่อถึงเวลาที่องค์การค้าฯ ประสบภาวะวิกฤติ รัฐบาลจะได้เข้ามาดูแลได้“ นายชินภัทรกล่าว

กำลังโหลดความคิดเห็น