อย.เผยคาถา 7 ไม่ เตือนใจรับวันวาเลนไทน์ เพื่อหลีกให้พ้นภัยสังคม เตือนคนที่คิดร้ายใช้ยานอนหลับก่อเหตุในทางมิชอบ จะมีโทษหนัก โดยเฉพาะนำไปมอมหญิงหรือผู้ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ โทษหนักกว่าเดิม คือ จำคุก 3 ปี ถึง ตลอดชีวิต และถูกปรับตั้งแต่ 60,000 ถึง 500,000 บาท
นพ.พงศ์พันธ์ วงศ์มณี รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีสาว ลวงหนุ่มไปมอมยาเพื่อหวังรูดทรัพย์โดยใช้ยานอนหลับชนิดรุนแรงป้ายหัวนม เมื่อเหยื่อสัมผัสทำให้หมดสตินั้น ต่อกรณีดังกล่าว ยังคงมีพบบ่อยครั้งที่หนุ่มนักเที่ยวทั้งหลายโดนวางยาโดยไม่รู้ตัว ทำให้เสียทรัพย์มาแล้วหลายราย ซึ่งหากได้รับยาดังกล่าวมากเกินไปอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายได้ โดยยานอนหลับเป็นยาที่ออกฤทธิ์ ต่อระบบประสาทส่วนกลาง มีฤทธิ์ทำให้ง่วงซึม มึนงง และสูญเสียความทรงจำ จะต้องใช้โดยบุคลากร ทางการแพทย์เฉพาะทาง และใช้จำกัดอยู่ในโรงพยาบาลเท่านั้น ไม่อนุญาตให้มีขายตามร้านขายยา หากมีการลักลอบขาย มีโทษจำคุก 5-20 ปี และปรับตั้งแต่ 100,000-400,000 บาท
ทั้งนี้ ยังคงพบว่ามีการนำยานอนหลับไปใช้ในทางมิชอบ โดยมีทั้งหญิงมอมยาชายเพื่อหวังรูดทรัพย์ ส่วนชายมอมยาหญิงเพื่อหวังล่วงละเมิดทางเพศ จึงขอเตือนผู้ที่คิดร้ายที่ใช้ยานอนหลับไปก่อเหตุว่า ผู้ที่กระทำดังกล่าวจะต้องได้รับโทษหนัก คือ จำคุกตั้งแต่ 2-10 ปี และปรับตั้งแต่ 40,000-200,000 บาท โดยเฉพาะถ้าผู้ถูกมอมเป็นหญิงหรือบุคคลที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ จะได้รับโทษหนักขึ้นคือจำคุก 3 ปี ถึงตลอดชีวิต และถูกปรับตั้งแต่ 60,000-500,000 บาท
รองเลขาธิการ อย. กล่าวต่อไปว่า ในช่วงวันวาเลนไทน์ หรือวันแห่งความรัก ซึ่งจะมีการเลี้ยงสังสรรค์โดยการดื่มเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์ และอาจมีการละเมิดทางเพศ จึงขอเตือนหญิงสาวทั้งหลายว่า เมื่อได้รับยานอนหลับหรือยาสลบแล้วจะป้องกันตัวเองได้ยาก ทางที่ดีควรป้องกันตนเองโดยยึดหลัก 7 ไม่ คือ 1.ไม่ไปร่วมงานคนเดียว ควรมีเพื่อนที่ไว้ใจได้ไปด้วย 2.ไม่ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
หากต้องดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ให้ดื่มพอประมาณ เพื่อให้มีสติอยู่ตลอดเวลา 3.ไม่รับเครื่องดื่มจากคนที่เราไม่รู้จักดีหรือไม่สามารถเชื่อใจได้ 4.ไม่ดื่มอย่างรวดเร็ว เพราะหากเครื่องดื่มถูกใส่ยาลงไปจะได้มีเวลาที่จะระวังตัวได้ทัน 5.ไม่ดื่มเครื่องดื่มแก้วเดียวกับผู้อื่น 6.ไม่ดื่มเครื่องดื่มที่อยู่ในภาชนะที่มีปากกว้าง เช่น อ่างใส่พันช์ เพราะง่ายต่อการถูกใส่ยาหรืออาจถูกใส่ยาไปแล้ว และ 7.ไม่ควรละสายตาจากเครื่องดื่มของตน หากต้องเข้าห้องน้ำหรือออกไปเต้นรำ กลับมาแล้วควรเปลี่ยนแก้วใหม่ทันที
“ขอฝากเตือนทั้งชายและหญิงที่ไปร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์หรือไปเที่ยวที่สถานบันเทิงต่างๆ ควรสังเกตภาชนะบรรจุว่าอยู่ในสภาพเรียบร้อย ไม่มีร่องรอยเจาะหรือรอยปิดด้วยเทปหรือผ่านการเปิดฝามาก่อน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือน้ำอัดลม และเมื่อดื่มเครื่องดื่มแล้วพบว่ารสหรือกลิ่นของเครื่องดื่มเปลี่ยนไป ควรหลีกเลี่ยงการดื่มต่อ และเมื่อดื่มแล้วมีอาการแปลกๆ หรือรู้สึกเมาหลังจากดื่มไปได้เพียงเล็กน้อย ให้รีบขอความช่วยเหลือจากเพื่อนที่ไว้ใจ ปฏิเสธความช่วยเหลือจากคนแปลกหน้า เพราะอาจจะเป็นคนที่ลอบวางยาได้” รองเลขาธิการ อย.กล่าว
