กกต.ศธ. เตรียมลงพื้นที่ จ.อุบลฯ หาหลักฐานเพิ่มทุจริตเลือกตั้งผู้แทนคุรุสภา ด้านผู้แทนครู ที่ไม่รับรอง 22 เขต ตรวจสอบเสร็จแล้ว 6 เขตเตรียมชงบอร์ด ก.ค.ศ. เลือกใหม่ 2 เขต ให้ยุติเรื่อง 3 เชต ส่วนอีก 1 เขตเตรียมโดนฟันวินัย "เลขาฯ ก.ค.ศ." ระบุผู้ถูกรับรองเดินหน้าสรรหาผู้ทรงคุณวุฒิได้ทันที
วันนี้(3 ก.พ.) นายสุขุม เฉลยทรัพย์ ประธานคณะกรรมการติดตามดูแลการสรรหาและการเลือกตั้งคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) คณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา(อ.ก.ค.ศ.) เขตพื้นที่การศึกษา และ อ.ก.ค.ศ.ส่วนราชการ กระทรวงศึกษาธิการ หรือ กกต. ศธ. เปิดเผยผลการประชุม กกต.ศธ.เมื่อเร็วๆนี้ ว่า ที่ประชุมได้นำมติของบอร์ด ก.ค.ศ.เมื่อวันที่ 29 ม.ค.ที่ผ่านมา ที่มีมติแต่งตั้งผู้แทนคุรุสภาใน อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ 167 เขต และยังไม่ได้รับการแต่งตั้ง 8 เขตมาพิจารณา ซึ่งเห็นว่าในจำนวน 8 เขต มีกลุ่มล้างมลทิน 4 เขต ที่ผู้สมัครได้ถูกลงโทษทางวินัย แต่ได้รับการล้างมลทินไปแล้ว ซึ่งต้องมีการเสนอให้บอร์ด ก.ค.ศ.พิจารณาเป็นรายกรณีว่าแม้จะได้รับการล้างมลทินแล้วแต่ความผิดจากการกระทำยังมีอยู่ จะเข้าข่ายขาดคุณสมบัติที่ระบุว่าผู้สมัครจะต้องไม่มีปัญหาจริยธรรม จรรยาบรรณที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อศักดิ์ศรีในการเป็นผู้แทน อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่หรือไม่ ส่วนกลุ่มถูกร้องเรียนเรียกรับผลประโยชน์ ดำเนินการไม่สุจริต และไม่เป็นไปตามกฎหมาย ใน 5 เขต 5 กรณี เนื่องจากผู้สมัคร 1 รายติดอยู่ทั้ง 2 กลุ่ม ที่ประชุม กกต.ศธ. มีมติว่า แม้จะมีมูล มีหลักฐาน แต่เพื่อความรอบคอบ จึงมอบให้ตนลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี ทั้ง 5 เขต เพื่อไปตรวจสอบด้วยตนเอง ในวันที่ 9 ก.พ.นี้
นายสุขุม กล่าวต่อว่า สำหรับผู้แทนครูและผู้บริหารใน อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ ที่ ก.ค.ศ.ได้รับรองไปแล้ว 153 เขตและยังไม่ได้รับการรับรอง 22 เขต ที่ประชุม กกต.ศธ.ตรวจสอบเสร็จแล้ว 6 เขต ในจำนวนนี้มี 2 เขตพื้นที่ที่ต้องเสนอ ก.ค.ศ.ให้พิจารณาเลือกตั้งใหม่ มี 1 เขต ต้องเสนอให้ ก.ค.ศ.พิจารณาว่าโทษทางวินัยที่ได้ล้างมลทินแล้วแต่การกระทำที่ผ่านมาจะเข้าข่ายขาดคุณสมบัติหรือไม่ ส่วนอีก 3 เขตพื้นที่ที่ประชุม กกต.ศธ.ให้ยุติเรื่อง เนื่องจากไม่มีมูล และบางกรณีพบหลักฐานชัดเจน ส่วนอีก 16 เขตที่เหลือ กกต.ศธ.จะพิจารณาให้แล้วเสร็จในวันที่ 12 ก.พ.ก่อนนำเสนอบอร์ด ก.ค.ศ.ในวันที่ 15 ก.พ.นี้ เพื่อดูว่ามีเขตพื้นที่ใดได้รับการรับรองเพิ่มเติม เขตพื้นที่ใดต้องเลือกตั้งใหม่หรือคัดเลือกใหม่
นายประเสริฐ งานพันธุ์ เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา(ก.ค.ศ.) เปิดเผยผลการประชุม ก.ค.ศ.เมื่อเร็วๆ นี้ว่า ที่ประชุมมีมติให้กรรมการในคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา(อ.ก.ค.ศ.)เขตพื้นที่การศึกษา จำนวน 11 คน จาก 2 เขตพื้นที่ พ้นจากตำแหน่งกรรมการ ดังนี้
อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาสุรินทร์ เขต 1 จำนวน 1 ราย เนื่องจากถูกดำเนินคดีทางวินัย โดยการปลดออกจากราชการ เนื่องจากเกี่ยวข้องกับการทุจริตในการสอบคัดเลือก และ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษากาฬสินธุ์ เขต 3 จำนวน 10 ราย เนื่องจากพิจารณาเงินเดือนไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์การเลื่อนเงินเดือน ซึ่งถือว่าบกพร่องต่อการปฏิบัติหน้าที่ โดยกรรมการที่เป็นข้าราชการจะต้องถูกดำเนินการทางวินัยด้วย ทั้งนี้ให้มีผลทันทีเพื่อไม่ให้เกิดผลเสียหาย
อย่างไรก็ตามในส่วนของการปฏิบัติหน้าของ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ที่มีกรรมการไม่ครบนั้นยังสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ โดยไม่ต้องตั้งกรรมการขึ้นมาทดแทน เพราะขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการสรรหา อ.ก.ค.ศ.ชุดใหม่ นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้เห็นชอบผู้แทนก.ค.ศ.ในอ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ และ อ.ก.ค.ศ.ส่วนราชการ รวม 180 ราย
นายประเสริฐ กล่าวต่อว่า สำหรับเขตพื้นที่ที่ผู้แทนคุรุสภา และผู้แทนครู ได้รับการรับรองไปแล้ว จากนี้สามารถดำเนินการสรรหาผู้ทรงคุณวุฒิในส่วนที่เหลือเพื่อให้ครบองค์ประชุม อ.ก.ค.ศ. ตามที่หลักเกณฑ์กำหนด โดยแต่ละเขตต้องสรรหาผู้ทรงคุณวุฒิ 4 ด้านๆ ละ 2 คน รวม 8 คน และสำนักงานคณะกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) ต้องสรรหามาจำนวนเท่ากัน รวมทั้งสิ้น 16 คนต่อ 1 เขต เพื่อนำเสนอคณะกรรมการกลั่นกรองที่ ก.ค.ศ.แต่งตั้ง เพื่อดำเนินการคัดเลือกให้เหลือ 8 คน และนำเสนอบอร์ด ก.ค.ศ.คัดเลือกเหลือด้านละ 1 คน รวม 4 คน
ด้าน แหล่งข่าวจาก ก.ค.ศ. กล่าวว่า ในส่วนของผู้แทนคุรุสภาใน อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ไม่ได้รับการรับรอง 8 เขตนั้น เนื่องจากโดนลงโทษทางวินัย 4 ราย และเข้าข่ายเรียกรับผลประโยชน์ 5 ราย
โดยในจำนวนนี้มี 1 คนที่โดนทั้ง 2 กรณี คือ อุบลราชธานี เขต 4 ส่วนผู้แทนครูและผู้บริหาร ที่ยังไม่ได้รับการรับรอง 22 เขต ซึ่งยังตรวจสอบไม่เสร็จนั้น ค่อนข้างชัดเจนแล้วว่ามี 2 เขตพื้นที่ต้องเลือกตั้งใหม่ คือ นครสวรรค์ เขต 1 ซึ่งผู้สมัครแจกร่ม ไดอารี่ และจตุคามฯ ในช่วงปีใหม่โดยติดหมายเลขของผู้สมัครที่ร่มด้วย และ เพชรบุรี เขต 2 ซึ่งกรรมการการเลือกตั้งในเขตพื้นที่ฯ ไม่ได้แจ้งเปลี่ยนหมายเลขของผู้สมัครใหม่ หลังจากตรวจสอบคุณสมบัติแล้วมีการเปลี่ยนแปลงหมายเลขของผู้สมัคร ส่งผลให้คะแนนคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง โดยผู้สมัครที่แพ้ มีคะแนนน้อยกว่าแค่ 2 คะแนน ขณะที่มีบัตรเสียซึ่งเลือกหมายเลขเดิมของผู้สมัครที่แพ้ถึง 24 ใบ จากบัตรเสียทั้งหมด 46 ใบ
วันนี้(3 ก.พ.) นายสุขุม เฉลยทรัพย์ ประธานคณะกรรมการติดตามดูแลการสรรหาและการเลือกตั้งคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) คณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา(อ.ก.ค.ศ.) เขตพื้นที่การศึกษา และ อ.ก.ค.ศ.ส่วนราชการ กระทรวงศึกษาธิการ หรือ กกต. ศธ. เปิดเผยผลการประชุม กกต.ศธ.เมื่อเร็วๆนี้ ว่า ที่ประชุมได้นำมติของบอร์ด ก.ค.ศ.เมื่อวันที่ 29 ม.ค.ที่ผ่านมา ที่มีมติแต่งตั้งผู้แทนคุรุสภาใน อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ 167 เขต และยังไม่ได้รับการแต่งตั้ง 8 เขตมาพิจารณา ซึ่งเห็นว่าในจำนวน 8 เขต มีกลุ่มล้างมลทิน 4 เขต ที่ผู้สมัครได้ถูกลงโทษทางวินัย แต่ได้รับการล้างมลทินไปแล้ว ซึ่งต้องมีการเสนอให้บอร์ด ก.ค.ศ.พิจารณาเป็นรายกรณีว่าแม้จะได้รับการล้างมลทินแล้วแต่ความผิดจากการกระทำยังมีอยู่ จะเข้าข่ายขาดคุณสมบัติที่ระบุว่าผู้สมัครจะต้องไม่มีปัญหาจริยธรรม จรรยาบรรณที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อศักดิ์ศรีในการเป็นผู้แทน อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่หรือไม่ ส่วนกลุ่มถูกร้องเรียนเรียกรับผลประโยชน์ ดำเนินการไม่สุจริต และไม่เป็นไปตามกฎหมาย ใน 5 เขต 5 กรณี เนื่องจากผู้สมัคร 1 รายติดอยู่ทั้ง 2 กลุ่ม ที่ประชุม กกต.ศธ. มีมติว่า แม้จะมีมูล มีหลักฐาน แต่เพื่อความรอบคอบ จึงมอบให้ตนลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี ทั้ง 5 เขต เพื่อไปตรวจสอบด้วยตนเอง ในวันที่ 9 ก.พ.นี้
นายสุขุม กล่าวต่อว่า สำหรับผู้แทนครูและผู้บริหารใน อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ ที่ ก.ค.ศ.ได้รับรองไปแล้ว 153 เขตและยังไม่ได้รับการรับรอง 22 เขต ที่ประชุม กกต.ศธ.ตรวจสอบเสร็จแล้ว 6 เขต ในจำนวนนี้มี 2 เขตพื้นที่ที่ต้องเสนอ ก.ค.ศ.ให้พิจารณาเลือกตั้งใหม่ มี 1 เขต ต้องเสนอให้ ก.ค.ศ.พิจารณาว่าโทษทางวินัยที่ได้ล้างมลทินแล้วแต่การกระทำที่ผ่านมาจะเข้าข่ายขาดคุณสมบัติหรือไม่ ส่วนอีก 3 เขตพื้นที่ที่ประชุม กกต.ศธ.ให้ยุติเรื่อง เนื่องจากไม่มีมูล และบางกรณีพบหลักฐานชัดเจน ส่วนอีก 16 เขตที่เหลือ กกต.ศธ.จะพิจารณาให้แล้วเสร็จในวันที่ 12 ก.พ.ก่อนนำเสนอบอร์ด ก.ค.ศ.ในวันที่ 15 ก.พ.นี้ เพื่อดูว่ามีเขตพื้นที่ใดได้รับการรับรองเพิ่มเติม เขตพื้นที่ใดต้องเลือกตั้งใหม่หรือคัดเลือกใหม่
นายประเสริฐ งานพันธุ์ เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา(ก.ค.ศ.) เปิดเผยผลการประชุม ก.ค.ศ.เมื่อเร็วๆ นี้ว่า ที่ประชุมมีมติให้กรรมการในคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา(อ.ก.ค.ศ.)เขตพื้นที่การศึกษา จำนวน 11 คน จาก 2 เขตพื้นที่ พ้นจากตำแหน่งกรรมการ ดังนี้
อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาสุรินทร์ เขต 1 จำนวน 1 ราย เนื่องจากถูกดำเนินคดีทางวินัย โดยการปลดออกจากราชการ เนื่องจากเกี่ยวข้องกับการทุจริตในการสอบคัดเลือก และ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษากาฬสินธุ์ เขต 3 จำนวน 10 ราย เนื่องจากพิจารณาเงินเดือนไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์การเลื่อนเงินเดือน ซึ่งถือว่าบกพร่องต่อการปฏิบัติหน้าที่ โดยกรรมการที่เป็นข้าราชการจะต้องถูกดำเนินการทางวินัยด้วย ทั้งนี้ให้มีผลทันทีเพื่อไม่ให้เกิดผลเสียหาย
อย่างไรก็ตามในส่วนของการปฏิบัติหน้าของ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ที่มีกรรมการไม่ครบนั้นยังสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ โดยไม่ต้องตั้งกรรมการขึ้นมาทดแทน เพราะขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการสรรหา อ.ก.ค.ศ.ชุดใหม่ นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้เห็นชอบผู้แทนก.ค.ศ.ในอ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ และ อ.ก.ค.ศ.ส่วนราชการ รวม 180 ราย
นายประเสริฐ กล่าวต่อว่า สำหรับเขตพื้นที่ที่ผู้แทนคุรุสภา และผู้แทนครู ได้รับการรับรองไปแล้ว จากนี้สามารถดำเนินการสรรหาผู้ทรงคุณวุฒิในส่วนที่เหลือเพื่อให้ครบองค์ประชุม อ.ก.ค.ศ. ตามที่หลักเกณฑ์กำหนด โดยแต่ละเขตต้องสรรหาผู้ทรงคุณวุฒิ 4 ด้านๆ ละ 2 คน รวม 8 คน และสำนักงานคณะกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) ต้องสรรหามาจำนวนเท่ากัน รวมทั้งสิ้น 16 คนต่อ 1 เขต เพื่อนำเสนอคณะกรรมการกลั่นกรองที่ ก.ค.ศ.แต่งตั้ง เพื่อดำเนินการคัดเลือกให้เหลือ 8 คน และนำเสนอบอร์ด ก.ค.ศ.คัดเลือกเหลือด้านละ 1 คน รวม 4 คน
ด้าน แหล่งข่าวจาก ก.ค.ศ. กล่าวว่า ในส่วนของผู้แทนคุรุสภาใน อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ไม่ได้รับการรับรอง 8 เขตนั้น เนื่องจากโดนลงโทษทางวินัย 4 ราย และเข้าข่ายเรียกรับผลประโยชน์ 5 ราย
โดยในจำนวนนี้มี 1 คนที่โดนทั้ง 2 กรณี คือ อุบลราชธานี เขต 4 ส่วนผู้แทนครูและผู้บริหาร ที่ยังไม่ได้รับการรับรอง 22 เขต ซึ่งยังตรวจสอบไม่เสร็จนั้น ค่อนข้างชัดเจนแล้วว่ามี 2 เขตพื้นที่ต้องเลือกตั้งใหม่ คือ นครสวรรค์ เขต 1 ซึ่งผู้สมัครแจกร่ม ไดอารี่ และจตุคามฯ ในช่วงปีใหม่โดยติดหมายเลขของผู้สมัครที่ร่มด้วย และ เพชรบุรี เขต 2 ซึ่งกรรมการการเลือกตั้งในเขตพื้นที่ฯ ไม่ได้แจ้งเปลี่ยนหมายเลขของผู้สมัครใหม่ หลังจากตรวจสอบคุณสมบัติแล้วมีการเปลี่ยนแปลงหมายเลขของผู้สมัคร ส่งผลให้คะแนนคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง โดยผู้สมัครที่แพ้ มีคะแนนน้อยกว่าแค่ 2 คะแนน ขณะที่มีบัตรเสียซึ่งเลือกหมายเลขเดิมของผู้สมัครที่แพ้ถึง 24 ใบ จากบัตรเสียทั้งหมด 46 ใบ