ธีรพัฒน์” ขอ สอศ.- คุรุสภา ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงประเด็นขาดราชการ พร้อมมอบทีมทนายฟ้อง “นริศรา” - “รองเลขาฯ คุรุสภา” ฐานนำข้อมูลไม่ผ่านกระบวนการสอบข้อเท็จจริงมาเปิดเผยจนเสียชื่อเสียง เล็งยื่นศาลรัฐธรรมนูญสอบ รมช.ล้วงลูกข้าราชการ เผยข้าราชการ สอศ.ยื่นหนังสือถึง นายกฯ แฉนักการเมือง “ส.” ข้าราชการประจำ “ล.” เอี่ยวทุจริตจัดซื้อครุภัณฑ์งบ SP2 อาชีวะ
วันนี้ (25 ม.ค.) ที่หอประชุมคุรุสภา นายธีรพัฒน์ คำคูบอน ประธานที่ปรึกษาสหภาพครูแห่งชาติ อุปนายกสมาคมครูอาชีวศึกษาแห่งประเทศไทย เปิดเผยความคืบหน้ากรณี น.ส.นริศรา ชวาลตันพิพัทธ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ออกมาระบุว่าตนในฐานะอาจารย์วิทยาลัยการอาชีพบางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ขาดราชการ พร้อมทำหนังสือถึงสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ขอให้สอบสวนทางวินัย หลังจากที่ตนออกมาให้ข้อมูลเรื่องการกำหนดสเปกครุภัณฑ์ รวมถึงการจัดซื้อจัดจ้างของสถานศึกษาในสังกัด สอศ. ตามโครงการแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง หรือ SP2 ไม่ชอบมาพากลว่า ตนได้มอบหมายให้ทนายความรวบรวมข่าว พร้อมขอให้นายพรหมสวัสดิ์ ทิพย์คงคา เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.)
และนายองค์กร อมรสิรินันท์ เลขาธิการคุรุสภา ตั้งคณะกรรมการสืบหาข้อเท็จจริงในประเด็นการขาดราชการ และประเด็นที่ตนทำหนังสือคุรุสภาปลอมในการเชิญเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการคุรุสภา ว่าตนทำจริงตามข่าวหรือไม่ เพื่อตนจะได้รวบรวมผลสรุปของคณะกรรมการทั้ง 2 ชุด ไปฟ้องแพ่งและอาญาต่อ น.ส.นริศรา และ นายณรงค์ฤทธิ์ มะลิวัลย์ รองเลขาธิการคุรุสภา ในฐานะร่วมแถลงข่าว เพราะถือว่าละเมิดสิทธิส่วนบุคคลที่นำข้อมูลที่ยังไม่เข้าสู่กระบวนการสืบหาข้อเท็จจริงมาเปิดเผย ซึ่งสร้างความเสียหายแก่ตน นอกจากนี้ตนจะยื่นศาลรัฐธรรมนูญ ให้ตรวจสอบการทำงานของ น.ส.นริศรา ที่ใช้อำนาจเหนือบทบาทหน้าที่ในการเข้าแทรกแซงการทำงานของข้าราชการ
นายธีรพัฒน์กล่าวอีกว่า สำหรับความไม่ชอบมาพากลของสเปกครุภัณฑ์ งบฯ SP2 นั้น ล่าสุดตนได้รับข้อมูลว่าข้าราชการประจำใน สอศ. ท่านหนึ่งที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกำหนดสเปกและจัดซื้อครุภัณฑ์ ได้ทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี, รัฐมนตรีว่าการ ศธ., สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.), สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อร้องเรียนเรื่องการทุจริตประพฤติไม่ชอบใน สอศ. พบว่ามี 3 กลุ่มที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ได้แก่ ฝ่ายนักการเมือง ที่มีบุคคลอักษรย่อ “ส.” รวมอยู่ด้วย ฝ่ายข้าราชการประจำใน สอศ. อักษรย่อ “ล.” และฝ่ายคณะกรรมการกำหนดสเปกครุภัณฑ์
ทั้งนี้ ได้มีการแบ่งภารกิจในการประสานกับผู้ขายสินค้า และร่วมกันกำหนดเงินงบประมาณให้แก่สถานศึกษา หากสถานศึกษาใดยอมรับเงื่อนไขก็จะได้รับการจัดสรรงบประมาณ ตั้งแต่ 30-99 ล้านบาท ส่วนสถานศึกษาที่ไม่ยอมรับเงื่อนไข จะได้รับงบฯ จัดสรรเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
นอกจากนี้ในเอกสารยังระบุถึงรายการครุภัณฑ์ที่จัดซื้อไม่สอดคล้องกับการเรียนการสอนและมีราคาสูงเกินจริง จำนวน 69 รายการ อาทิ ปต. 04/2553 ครุภัณฑ์ห้องปฏิบัติการเครื่องมืดวัดและควบคุม ราคา 45 ล้านบาท ขณะที่ราคาจริงตามท้องตลาด 12.6 ล้านบาท, ปต.01/2553 ครุภัณฑ์ห้องปฏิบัติการระบบเฉพาะหน่วยปิโตรเคมี ราคา 30 ล้านบาท ราคาจริง 8.4 ล้านบาท, ครุภัณฑ์ศูนย์ฝึกอบรมปิโตรเคมี ราคา 27.55 ล้านบาท ราคาจริง 7.71 ล้านบาท เป็นต้น
“ที่ผ่านมายังไม่ได้กล่าวหาใคร เพียงแต่พูดถึงความไม่ชอบมาพากล แต่ก็มีคนร้อนตัวออกมาเล่นงานผม ทั้งที่จริงแล้วมีอะไรที่มากกว่านี้ แต่พูดไม่ได้ เพราะจะมีอันตราย ซึ่งการที่ผมออกมาพูดก็เพื่อต้องการปกป้องงบประมาณที่อาจต้องเสียไปโดยเปล่าประโยชน์ แทนที่จะไปถึงนักเรียน” นายธีรพัฒน์กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสอบถามไปที่นายองค์กร อมรสิรินันท์ เลขาธิการคุรุสภา ก็ได้รับการแจ้งว่า ขณะนี้ตนได้สั่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงกรณีการลาราชการของนายธีรพัฒน์แล้ว