ถกประชุมผู้บริหาร สธ.นัดแรก “จุรินทร์” ร่วมนั่งแก้ปัญหามาบตาพุด ดัน สธ.มีส่วนร่วมมากขึ้น เข้าเป็นหนึ่งในคณะกรรมการ 4 ฝ่ายคณะกรรมการชุด “อานันท์” พร้อมเร่งผู้ตรวจฯ ควบคุมดูแลหวัด 2009 ระลอก 2 ใกล้ชิด รณรงค์ 5 กลุ่มเสี่ยงฉีดวัคซีนเพิ่ม ขณะที่ รมว.สธ.พร้อม รมช.สธ.เป็นพรีเซ็นเตอร์ฉีดวัคซีนสร้างความมั่นใจ ยืนยันวัคซีนปลอดภัย
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารกระทรวงสาธารณสุขว่าที่ประชุมได้หารือเรื่อง 1.การแก้ปัญหาในพื้นที่มาบตาพุดและ ซึ่งตามที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้กำชับให้ทุกฝ่ายเร่งดำเนินการตามรัฐธรรมนูญมาตรา 67 วรรคสอง ในพื้นที่มาบตาพุด ที่ซื่งในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) จะเข้าไปร่วมมีบทบาทใน 3 ส่วน คือ 1.การเข้าร่วมเป็นหนึ่งในคณะกรรมการแก้ไขปัญหาการปฏิบัติตามมาตรา 67 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย หรือ คณะกรรมการ 4 ฝ่าย ที่มีนายอานันท์ ปันยารชุน เป็นประธาน 2.การดูแลผลกระทบจากสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะประสานความร่วมมือไปยังกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ในอนาคตหากโรงงานส่งแผนการดำเนินงานให้จะต้องมีผู้แทนจาก สธ.เป็นหนึ่งในคณะกรรมการเพื่อพิจารณาว่าจะผ่านหรือไม่
นายจุรินทร์กล่าวต่อว่า 3.งานด้านสุขภาพอนามัย ทั้งในส่วนของการส่งเสริม รักษา และป้องกัน จะมีกรมต่างๆ ใน สธ.เข้ามามีส่วนร่วมและมีบทบาทการทำงานในเชิงรุกมากขึ้น โดยจะเร่งตั้งศูนย์อาชีวเวชศาสตร์ และศูนย์เวชศาสตร์สิ่งแวดล้อม ทำหน้าที่ดูแลผู้ป่วยขึ้น ซึ่งจะต้องมีการผลิตแพทย์ด้านเวชศาสตร์สิ่งแวดล้อมเพิ่มขึ้น ส่วนด้านอาชีวเวชศสาตร์มีบุคลกรอยู่แล้วส่วนหนึ่ง นอกจากนี้จะมีการตั้งคณะกรรมการรับผิดชอบงานเรื่องสุขภาพอนามัยของคนในพื้นที่ และมอบหมายให้โรงพยาบาลในพื้นที่มีการพัฒนามาตรฐานการให้ความรู้ประชาชนในพื้นที่ด้วยอีกส่วน
นายจุรินทร์กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้มีการหารือสถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่ ชนิด เอ เอช 1 เอ็น 1 โดยมีการติดตามการระบาดระลอก 2 ซึ่งมีแนวโน้มกระจายไปสู่ชนบทมากขึ้น โดยเร่งรัดให้ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขทุกเขตกำกับดูแลให้ทุกจังหวัดดำเนินการเฝ้าระวังดูแลควบคุมโรคอย่างใกล้ชิด ซึ่งผู้ที่มีบทบาทสำคัญ คือผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดรวมถึงสาธารณสุขจังหวัด ดังนั้นจึงได้ทำหนังสือถึงรัฐมนตรีทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงมหาดไทยในการร่วมทำงานอย่างบูรณาการ รวมถึงการเร่งรณรงค์ให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยง 5 กลุ่ม เข้ารับบริการฉีดวัคซีนป้องกันโรค ระหว่างเดือนมกราคม-มีนาคม เนื่องจากการฉีดวัคซีนไม่เป็นไปตามเป้า เพราะมีผู้เข้ารับบริการฉีดวัคซีนเพียง 40,000 กว่าราย จาก 2 ล้านรายเท่านั้น
“มาตรการในการรณรงค์คงต้องเร่งรัดให้อาสาสมัครประจำหมู่บ้าน (อสม.) เข้าถึงทุกครัวเรืองที่มีกลุ่มเสี่ยงแล้วทำความเข้าใจ และรับวัคซีนที่โรงพยาบาล รวมถึงเพิ่มช่องร้านขายยาเป็นช่องทางใหม่ในการเป็นด่านคัดกรองผู้ป่วย โดยแนะนำให้ไปพบแพทย์ ซึ่ง สธ.มีประสบการณ์ในการระบาดระลอกแรกมาแล้ว ซึ่งในส่วนของการรณณรงค์มอบมาบให้ นพ.ศิริวัฒน์ ทิพย์ธราดล รองปลัด สธ.เป็นผู้รับผิดชอบกำหนดทิศทางการณรงค์ และเร่งรัดให้องค์การเภสัชกรรมพัฒนาวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 2009 ชนิดเชื้อเป็นเพื่อนำมาใช้เพื่อลดค่าใช้จ่ายในอนาคต”นายจุรินทร์กล่าว
วันเดียวกัน นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.สาธารณสุข พร้อมนางพรรณสิริ กุลนารถศิริ รมช.สาธารณสุข ได้เดินทางไปสถาบันบำราศนราดูร เพื่อฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ในการเป็นพรีเซ็นเตอร์รณรงค์การฉีดวัคซีน แสดงให้เห็นว่า วัคซีนมีความปลอดภัย โดยนายจุรินทร์ กล่าวภายหลังว่า ฉีดวัคซีนไข้ป้องกันหวัดใหญ่ 2009 แล้ว หลังจากเฝ้าดูอาการข้างเคียงไม่พบมีปัญหาผิดปกติแต่อย่างใด จึงยืนยันว่าวัคซีนมีความปลอดภัย ส่วนผู้เกิดอาการข้างเคียงหลังฉีดวัคซีนจำนวน 4 รายนั้น พบว่า 2 รายไม่เกี่ยวข้องกับการฉีดวัคซีน ส่วนอีก 2 ราย ที่เกิดภาวะหายใจติดขัด ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า เป็นอาการเกิดขึ้นได้เหมือนการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลทั่วไป ส่วนอีกรายเป็นหญิงที่คลอดบุตรแล้วบุตรเสียชีวิต กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบทางพยาธิวิทยา คาดว่าจะทราบผลในสัปดาห์หน้า แต่ผลการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ามารดามีภาวะครรภ์เป็นพิษขณะตั้งครรภ์
