xs
xsm
sm
md
lg

ศธ.สั่งจับตาหัวโจกอุเทน-ปทุมวัน ลั่นเกิดเหตุซ้ำซากต้องปิดสถาบัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รมว.ศึกษาธิการ
“จุรินทร์” ลั่น นศ.ตีกัน-ก่อเหตุรุนแรง สภาสถาบันต้องรับผิดชอบ ระบุที่ผ่านมาอยู่บนหอคอยไม่ดูดำดูดีพฤติกรรมเด็ก พร้อมจับตาพฤติกรรมนศ.กลุ่มเสี่ยง ชี้แกะดำมีแค่หลัก 20 คุมความประพฤติ เด็กพ้นสภาพฯ ไม่ให้เข้ารั้วสถาบันฯ ปิดประตูเร็ว เพิ่มกล้องวงจรปิด หวังลดปัญหาบานปลาย ขณะที่ “ชัยวุฒิ” เผยหากพบก่อเหตุซ้ำซากให้ไล่ออกสถานเดียว จี้สภามหาวิทยาลัยส่งรายงานความเคลื่อนไหวทุกสัปดาห์ วอนศิษย์เก่า รุ่นพี่ดีๆ ยื่นมือช่วยแก้ปัญหา รับหากไปต่อไม่ไหว อาจใช้ยาแรงถึงขั้นสั่งปิดสถาบัน


วันนี้ (14 ม.ค.) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวว่า ขณะนี้กำลังรอความคืบหน้าของการก่อเหตุรุนแรงระหว่างสถาบันเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย และสถาบันเทคโนโลยีปทุมวันนั้น ตนได้เร่งรัดกับผู้กำกับ สน.ปทุมวันทุกวัน ซึ่งตามจริงนั้นคงจะมีความคืบหน้า แต่เป็นเรื่องภายใน ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมีข้อมูลพอสมควร หากมีความชัดเจนน่าจะสามารถออกหมายจับได้ ซึ่งถ้ามีความเกี่ยวข้องกับสถาบันใดสถาบันหนึ่ง สถาบันนั้นจะต้องรับผิดชอบ สภามหาวิทยาลัยแห่งนั้นจะต้องตั้งคณะกรรมการสอบผู้บริหาร อย่างน้อยที่สุดจะต้องมีมาตรการอื่นๆ ออกมาให้ผู้บริหารมีส่วนในการรับผิดชอบ ตาม พ.ร.บ.สภามหาวิทยาลัย

“ยอมรับว่าเหตุการณ์รุนแรงเกิดซ้ำซาก ตอนนี้ ศธ.ให้แต่ละสถาบันส่งรายชื่อนักศึกษากลุ่มเสี่ยงไปยังตำรวจนครบาล เพื่อติดตามพฤติกรรม และเฝ้าระวัง ขณะเดียวกันสถาบันจะต้องป้องปรามนักศึกษาของตัวเอง ทั้งนี้ ได้มีการตรวจสอบกลุ่มเสี่ยงช่วยให้เห็นแนวทางแก้ปัญหา ไม่ถึงกับสิ้นหวัง มีแนวโน้มแก้ปัญหาชัดเจน ผลจากการตรวจนักศึกษากลุ่มเสี่ยง มีประมาณ 20 คน ขณะที่นักศึกษามีเป็นพันเป็นหมื่นคน จะเห็นว่าตัวที่สร้างปัญหามีแค่หลักสิบ หากเราติดตามเฝ้าระวัง เจาะจงไปที่ตัวก่อปัญหา การลุกลามจะน้อยลง”

นายจุรินทร์กล่าวด้วยว่า นับจากนี้ไปสถาบันทั้ง 2 แห่งได้มีมาตรการ คือ ใครที่ไม่มีสถานภาพนักศึกษา และเคยก่อเหตุการณ์รุนแรงจะไม่ให้เข้าสถาบัน สถาบันจะไม่เปิดประตูจนดึกดื่น ปล่อยให้เด็กเข้าไปกินเหล้า สร้างปัญหา รวมทั้งการติดตั้งวงจรปิด เชื่อว่ามาตรการที่ตกลงร่วมกันทำให้ปัญหาลดลง เพียงแต่ที่ผ่านมายังไม่ได้ดำเนินการตามข้อตกลงนี้ แต่มาเกิดเหตุการณ์รุนแรงก่อน ต่อไปนี้จะดำเนินการตามที่ตกลงกันไว้

ส่วนกรณีที่มีนักศึกษาปทุมวันก่อเหตุทำร้ายผู้อื่นบริเวณหน้าโตคิวนั้น นายจุรินทร์บอกว่า มหาวิทยาลัยต้องออกมารับผิดชอบ และต่อนี้ไปเมื่อมีเกิดเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น สภาสถาบันต้องมีส่วนรับผิดชอบด้วย เพราะเป็นองค์กรสูงสุด ในอดีตที่ผ่านมาสภาสถาบันไม่เคยลงมาดู มีแค่ระดับรองอธิการบดีลงมาดูแลเท่านั้น นับจากนี้ไปอธิการบดี สภาสถาบันต้องลงมาดูและรับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้นด้วย

ด้าน นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงปัญหาการก่อเหตุทะเลาะวิวาทระหว่างนักศึกษาสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน และนักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะไม่ปล่อยให้นักศึกษาเข้าไปมั่วสุมกันภายในสถาบันหลังเวลา 20.30 น.เหมือนที่ผ่านมาว่า เท่าที่ตนได้รับรายงานในเบื้องทราบว่านักศึกษาที่มักก่อเหตุทะเลาะวิวาทมักจะเป็นนักศึกษากลุ่มเดิมๆ ที่เคยก่อเหตุมาก่อน ดังนั้นจึงได้มีการปรึกษากับผู้บริหารสถานศึกษาแล้วว่าหากนักศึกษาคนไหนก่อเหตุซ้ำซากก็ต้องดำเนินการขั้นเด็ดขาดให้ออกสถานเดียวไม่สมควรที่จะเป็นนักศึกษาอีก และถ้ามีการก่อเหตุในทางคดีอาญาก็ต้องดำเนินการในเรื่องดังกล่าวไปด้วย

อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นตนขอให้อยู่ในดุลยพินิจของผู้บริหารสถาบันว่าจะบริหารจัดการเรื่องนี้อย่างไร ซึ่งการลงโทษเด็กผู้ก่อเหตุก็จะมีตั้งแต่ว่ากล่าวตักเตือน ภาคทัณฑ์ พักการเรียน และให้ออก ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมว่าเคยก่อเหตุมาก่อนหรือไม่ ทั้งนี้ ตนยังได้ขอความร่วมมือกับสภามหาวิทยาลัยให้ช่วยเข้ามาดูแลเรื่องนี้เป็นพิเศษ และให้รายงานให้ตนทราบทุกสัปดาห์ ซึ่งก็ทำให้ทราบความเคลื่อนไหวของอาจารย์บางคนว่ามีพฤติกรรมอย่างไร รวมทั้งได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนผู้ที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมด้วย

“กรณีที่มีผู้เสนอให้มีการย้ายสถาบันใดสถาบันหนึ่งออกไปจากจุดนี้เพื่อจะได้ลดปัญหาความขัดแย้ง โดยเฉพาะอุเทนถวาย ซึ่งหมดสัญญาเช่าที่กับทางจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัยแล้วนั้น ยอมรับว่าการย้ายสถาบันใดสถาบันหนึ่งออกไปจะช่วยลดความตรึงเครียดและอาจลดปัญหาได้ก็จริง แต่การจะให้ไปบอกให้อุเทนถวายออกจากพื้นที่นี้ไปเพราะหมดสัญญาเช่ากับทางจุฬาฯ นั้นคงไม่ใช่หน้าที่ และผมก็ไม่มีสิทธิ์ด้วย” รมช.ศธ.กล่าว

นายชัยวุฒิกล่าวด้วยว่า อยากเรียกร้องให้รุ่นพี่ของทั้ง 2 สถาบันที่เป็นศิษย์เก่ามองเห็นสภาพปัญหา ได้เข้ามาช่วยแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ เพราะที่ผ่านมาต้องยอมรับว่ามีรุ่นพี่ทั้งที่เรียนจบ และเรียนไม่จบจำนวนไม่มากเข้ามาปลูกฝังสร้างสิ่งเลวร้ายให้เกิดขึ้นกับสถาบัน ดังนั้นจึงอยากให้รุ่นพี่ที่ดีประสบความสำเร็จ สังคมให้การยอมรับ และมองเห็นปัญหาซึ่งผมคิดว่ามีเป็นจำนวนมาก อาทิ ร.ต.อ.เกรียงศักดิ์ โลหะชาละ ซึ่งเป็นศิษย์เก่าอุเทนถวาย ได้เข้ามาช่วยแก้ปัญหา เป็นต้น

ส่วนที่มีผู้เสนอให้มีการใช้ยาแรงในการแก้ปัญหาโดยการปิดสถาบันที่ก่อปัญหาไปนั้น ตนคิดว่าต้องดูให้รอบคอบว่าปิดแล้วใครได้ประโยชน์ หรือเสียประโยชน์ เด็กดีที่มีจำนวนมากจะทำอย่างไรกับสิ่งที่เขาต้องเจอเพียงเพราะแค่เด็กไม่ดีบางคนไปสร้างปัญหาไว้ แต่ถ้าถึงจุดหนึ่งไปไม่ไหวแล้ว สุดท้ายก็คงถึงเวลาที่ต้องทำเพื่อรักษาชีวิตคนเอาไว้เช่นกัน

กำลังโหลดความคิดเห็น