ประทินชี้สังคมตัดสินได้ “ประศาสตร์” ตัวตายตัวแทน “มานิต” เหมาะสมหรือไม่ ขนาดเป็นเลขา รมช.ไม่มีหน้าที่ยังยุ่ง ภาคประชาชนเห็นพ้องไม่ควรให้คนใกล้ชิด "มานิต" ขึ้นแท่น
พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ รองประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงโครงการไทยเข้มแข็งของกระทรวงสาธารณสุข ที่มี นพ.บรรลุ ศิริพานิช เป็นประธาน กล่าวว่า คงไม่สามารถตัดสินได้ว่านายประศาสตร์ ทองปากน้ำ อดีตผู้ช่วยเลขานุการ รมว.สธ. เหมาะสมรับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข แทนนายมานิต นพอมรบดี อดีต รมช.สธ. หรือไม่ แต่การทำงานในอดีตที่ผ่านก็ชัดเจนว่า นายประศาสตร์ ซึ่งขณะนั้นเป็นเลขานุการฯ นายมานิต มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการไทยเข้มแข็ง โดยเป็นผู้รับเรื่องที่ขอเพิ่มเติมในการสร้างอาคารโรงพยาบาลราชบุรี จาก 5 ชั้นเป็น 10 จากนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดราชบุรี ที่เสนอถึงปลัดสธ.ซึ่งเป็นสายงานปกติ แต่หนังสือกลับผ่านมาทางนายประศาสตร์ ซึ่งเป็นเลขานุการฯ ทั้งๆ ที่ไม่มีหน้าที่ ดังนั้น คงต้องขอให้สังคมช่วยกันพิจารณาว่าเหมาะสมหรือไม่ แต่หากนายประศาสตร์ มาเป็นรมช.สธ.จริง ก็เหมือนเป็นตัวตายตัวแทน ของนายมานิต ที่คณะกรรมการณฯ ชี้มูลว่า เกี่ยวข้องกับการทุจริตโครงการไทยเข้มแข็ง
น.ส.สารี อ๋องสมหวัง ผู้จัดการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวว่า โดยมารยาทพรรคภูมิใจไทย ไม่ควรส่งคนที่มีความใกล้ชิด กับนายมานิต ให้เข้ามาดำรงตำแหน่งในกระทรวงอีก ส่วนตัวแล้วไม่ได้รังเกียจ หรือไม่ชอบ ผู้ที่ถูกเสนอชื่อมาดำรงตำแหน่งแทนแต่อย่างใด เพราะไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัว หรือติดตามผลงานแต่อย่างใด แต่โดยบรรทัดฐานทางการเมืองแล้ว การเข้ามาทำงานแทนในสภาวะที่ยังมีเรื่องที่ต้องสอบสวนอยู่อาจจะทำให้เกิดปัญหาในกระบวนการสอบสวน เรื่องการปกปิดข้อมูลหรือการสอบสวนได้ ซึ่งไม่เป็นผลดีกับพรรค และนายมานิตแต่อย่างใด ซึ่งจำเป็นที่ต้องเปิดทางให้มีกระบวนการตรวจสอบที่ถูกต้อง โปร่งใส และจัดการสะสางเรื่องที่ยังค้างคาอยู่เพื่อพิสูจน์ให้ได้ว่าผิดหรือไม่ผิด
"เชื่อว่าพรรคภูมิใจไทย คงไม่ขาดแคลนคนที่จะมาดำรงตำแหน่งนี้ คงสามารถหาคนดีมีความสามารถได้ แต่ไม่มีความจำเป็นต้องใช้คนที่เคยทำงาน มีความใกล้ชิดคนที่ยังมีข้อครหาอยู่มาทำงานแทน ซึ่งแม้จะเป็นตำแหน่งรัฐมนตรีช่วย ก็ถือว่ามีความสำคัญ เพราะต้องดูแลกรม กองต่างๆ ลำพังรัฐมนตรีว่าการคนเดียวคงไม่สามารถดูแลได้ทั้งหมดอย่างแน่นอน ซึ่งผู้ที่จะมาทำงานในกระทรวงสาธารณสุข ไม่จำเป็นต้องเป็นหมอ แต่ต้องเป็นผู้ที่ให้ความสำคัญกับการปฏิรูประบบสาธารณสุข เห็นความสำคัญของการมีส่วนร่วมของประชาชนด้วย"น.ส.สารี กล่าว
ด้านนายไพศาล บางชวด นายกสมาคมวิชาชีพสาธารณสุข กล่าวว่า ไม่อยากระบุหรือเจาะจงว่าใครควรมาดำรงตำแหน่ง รมช.สธ.แต่อยากให้การสรรหา การแต่งตั้งบุคคลใดๆก็ตาม ไม่ควรให้ผู้ที่ใกล้ชิด เคยมีส่วนเกี่ยวข้อง หรือเคยทำงานกับนายมานิต ไม่ว่าตำแหน่งใดก็ตาม ทั้งทางตรงและทางอ้อม กลับมาทำงานในตำแหน่งเดิมที่นายมานิต เคยอยู่ เพราะยังมีข้อมูล มีเอกสารที่อยู่ระหว่างการสอบสวน ซึ่งการที่มีคนใกล้ชิดผู้ที่เคยถูกครหามาทำงานแทน คงไม่สามารถวางใจได้ ซึ่งอยากเรียกร้อง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในเรื่องของการแสดงความรับผิดชอบในผลการสอบสวนที่เกิดขึ้นด้วย เมื่อมีนักการเมืองแสดงความรับผิดชอบแล้ว ก็อยากให้ข้าราชการที่ถูกสอบสวนว่ามีส่วนเกี่ยวข้องได้แสดงความรับผิดชอบด้วยเช่นกัน
"การที่นายกฯยังคงให้โควตาการนั่งตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการฯ ให้มาจากพรรคภูมิใจไทยนั้น คงไม่สามารถปฏิเสธหรือตั้งข้อรังเกียจได้ เพราะถือเป็นหนึ่งในพรรคร่วมรัฐบาลที่มีสิทธิ์ในการเข้ามาบริหารงานเช่นกัน แต่การเลือกคนจากพรรคมาทำงานต่อ ก็ต้องเลือกบุคคลที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆต่อนายมานิต และต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในกระทรวงเช่นกัน ซึ่งอยากฝากภารกิจงานให้ผู้ที่จะเข้ามาทำงานแทนว่า อยากให้มีการส่งเสริมศักยภาพของกระทรวงในภาพรวม ซึ่งงานสาธารณสุขนั้นมีหลายมิติ โดยยังมีเรื่องที่คั่งค้างอยู่ เช่น พ.ร.บ.วิชาชีพ ที่จะทำให้เกิดการพัฒนาบุคคลากร หรือ พ.ร.บ.ส่งเสริมสุขภาพ ที่จะทำให้เกิดการพัฒนางาน ซึ่งควรมีการทำงานต่อเนื่องเพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุด"นายไพศาลกล่าว
