“จุรินทร์” เตรียมกระจายงบ 7.3 หมื่นล้านบาทถึงโรงเรียนภายในมกราคมนี้ เป็นค่าเล่าเรียน ชุดนักเรียน อุปกรณ์การเรียน พร้อมปรับวิธีการสละสิทธิ์ให้สะดวก นำเงินไปช่วยโรงเรียนด้อยโอกาส
วันนี้(7 ม.ค.) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวภายหลังการประชุม 5 องค์กรหลัก ว่า ขณะนี้ได้เตรียมดำเนินการตามโครงการเรียนฟรี 15 ปี อย่างมีคุณภาพ ในปีการศึกษา 2553 โดยมีการจัดสรรงบประมาณระดับชั้นอนุบาลจนถึง ม.6 และ ปวช. ทั้งในส่วนของโรงเรียนสังกัดรัฐบาล สังกัดเอกชน และ กศน จำนวน.73,576 ล้านบาท โดยจำนวนนี้แยกเป็น ค่าเล่าเรียน จำนวน 49,896 ล้านบาท และเป็นเงินอุดหนุน 4 รายการ ได้แก่ ตำราเรียน ชุดนักเรียน อุปกรณ์การเรียน และกิจกรรมคุณภาพผู้เรียน จำนวน 23,680 ล้านบาท
สำหรับปีนี้ ตนมั่นใจว่าทุกอย่างราบรื่น เรียบร้อยกว่าปีที่ผ่านมา เพราะมีประสบการณ์มาแล้ว 1 ปี สำหรับปีนี้มีเวลาเตรียมการ วันที่ 15 -31 มกราคม จะโอนเงินไปให้สถานศึกษาทุกแห่งทั่วประเทศ เพื่อดำเนินการในการจัดซื้อตำราเรียน เฉพาะในส่วนที่จำเป็นและเป็นไปตามกฎ กติกา หมายถึงการจัดซื้อตำราเรียนตามหลักสูตรใหม่ จะเริ่มใช้ในปี 2553 จะให้ซื้อเฉพาะในช่วง ป.1-ป.6 วิชาสังคมศาสตร์ และ ม.1 กับ ม4 วิชาสังคม ส่วนวิชาอื่นๆ ซื้อเฉพาะปีแรกของช่วงชั้น
ส่วนการจัดซื้อชุดนักเรียน อุปกรณ์การเรียน ยังใช้แนวทางเดิม คือโรงเรียนจะต้องมอบเป็นเงินสดให้กับผู้ปกครอง เพื่อนำไปจัดซื้อด้วยตนเอง ส่วนการซื้อหนังสือเรียนและมอบเงินให้แก่ผู้ปกครองนั้น สามารถดำเนินการได้ทันที ภายหลังทีได้รับการจัดสรรงบประมาณจากส่วนกลาง อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จก่อนเปิดภาคเรียน
“ปี 2553 จะเป็นปีแรกของการใช้หลักสูตรใหม่ และเป็นปีแรกของการใช้ระบบการเรียนการสอนแบบใหม่ โดยมุ่งเน้นแบบคิดวิเคราะห์มากกว่าท่องจำ และจะสอนเนื้อหาที่ไม่ซ้ำซ้อน เพราะได้มีการตัดเนื้อหาที่ซ้ำซ้อนไปแล้ว ร้อยละ 30 ทาง สพฐ.ได้ยืนยันว่าต้นฉบับเสร็จแล้ว มั่นใจว่าจะส่งให้สำนักพิมพ์ และองค์การค้า ดำเนินการจัดพิมพ์ได้ทันเวลาที่กำหนด”
รมว.ศธ. กล่าวถึงปัญหาโครงการเรียนฟรี 15 ปีว่า พบปัญหา 2ข้อ ที่ต้องนำมาปรับปรุงในปีนี้ พบปัญหาในการดำเนินการของโรงเรียนสังกัดกระทรวงอื่นๆ ที่แนวปฏิบัติไม่สอดคล้องกับกระทรวงศึกษาธิการ เช่น การจัดซื้อชุดนักเรียน อุปกรณ์การเรียน มีบางโรงเรียนบางแห่ง ยังใช้วิธีซื้อชุดนักเรียนแจก ไม่ได้มอบเงินสดให้ผู้ปกครองไปดำเนินการ สำหรับปีนี้จะต้องปฏิบัติตาม ศธ. เพราะคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบเรื่องดังกล่าวไว้เรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตาม เพื่อทำความเข้าใจตรงกัน ศธ.จะประชุมชี้แจงทำความเข้าใจกับโรงเรียนในสังกัดกระทรวงอื่นอีกครั้ง โดยมอบให้ผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษา (ผอ.สพท.) ประสานงานกับสถานศึกษา ทุกสังกัด
สำหรับการสละสิทธิ์ เพื่อนำเงินที่สละสิทธิ์ไปช่วยโรงเรียนด้อยโอกาสของ สพฐ.ทั่วประเทศ ปีที่ผ่านมา ขั้นตอนขบวนการยังสับสน เพราะติดขัดกฎระเบียบอยู่หลายข้อ ทำให้การสละสิทธิ์ยุ่งยาก จนทำให้การสละสิทธิ์ลดลงไป 1 เท่าตัว ส่วนปีนี้ได้มีการปรับปรุงแก้ไขแล้ว ทำให้การสละสิทธิ์สะดวก สามารถสละสิทธิ์ได้ทั้งชุดนักเรียนและอุปกรณ์การเรียน ไม่ต้องแยกส่วน พร้อมกันนี้ยังสามารถสละสิทธิ์ได้ตั้งแต่ 1 ปี ถึง 6 ปี ภายในเอกสารชิ้นเดียว
