กทม.เตรียมพร้อมด้านความปลอดภัยรับช่วงปีใหม่ แสตนบายรถดับเพลิงในย่านบันเทิงคับคั่งที่คาดว่าคนกรุงจะไปเคานต์ดาวน์เช่นอาร์ซีเอ ราชประสงค์ สั่งทุกสถานบันเทิงตรวจสอบทางหนีไฟ ห้ามวางสิ่งของกีดขวาง
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานอันเชิญพระพุทธนวราชบพิตร จากศาลาว่าการ กทม. ขึ้นรถบุปผาชาติ เคลื่อนขบวนไปประดิษฐานบนมณฑป ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง เพื่อให้ประชาชนได้สักการะบูชาในช่วงเทศกาลปีใหม่ ระหว่างวันที่ 30 ธันวาคม - 1 มกราคม 2553 พร้อมกล่าวเชิญชวนประชาชนที่ไม่ได้เดินทางออกต่างจังหวัด ให้มาเที่ยวงานนับถอยหลังเที่ยงคืนที่ท้องสนามหลวง ซึ่งจะมีการแสดงจากกรมศิลปากรและดนตรีลูกทุ่ง การออกร้านจาก 50 สำนักงานเขต และมีการจับสลากชิงรางวัลรถจักรยาน จำนวน 53 คัน รวมทั้งจะมีพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 180 รูป เนื่องในวันขึ้นปีใหม่ นอกจากนี้ ได้จัดรถราง 4 คัน พาประชาชนร่วมกิจกรรมไหว้พระ 9 วัด เพื่อความเป็นสิริมงคลด้วย
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครยังเปิดเผยว่า นอกจากการเตรียมพร้อมป้องกันเหตุไม่สงบที่อาจเกิดขึ้นในช่วงปีใหม่ ตามที่ กอ.รมน.ได้ประสานให้มีการเฝ้าระวังแล้ว กทม.ยังจะจัดรถดับเพลิงไปจอดไว้ในย่านสถานบันเทิงคับคั่ง อาทิ อาร์ซีเอ และพื้นที่จัดงานเคานต์ดาวน์ที่ราชประสงค์ เพื่อป้องกันเหตุเพลิงไหม้ พร้อมขอความร่วมมือไปสถานประกอบการและสถานบันเทิงทุกแห่ง ให้จำกัดจำนวนลูกค้า 1 คนต่อ 1 ตารางเมตร และอย่านำสิ่งของโดยเฉพาะแอลกอฮอล์ไปกักตุน หรือกีดขวางทางหนีไฟ
ส่วนการเตรียมพร้อมรับการเดินทางของประชาชนในช่วงปีใหม่ตามจังหวัดต่างๆ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน เรียกประชุมด่วนทั้งนายอำเภอ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดและหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ เตรียมพร้อมป้องกันอุบัติเหตุในช่วงปีใหม่ ภายใต้ปฏิบัติการ “ลำพูนเขตห้ามตาย” พร้อมกำชับเป็นพิเศษถึงเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบด้านต่างๆ ให้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัด ห้ามลา ห้ามขาด
ส่วนที่จังหวัดสงขลา นอกจากบรรยากาศการเดินทางที่คึกคักตามสถานีขนส่งและรถไฟแล้ว รถบัสโดยสารระหว่างประเทศ สายสิงคโปร์-ปีนัง-หาดใหญ่ ก็มีผู้ใช้บริการเต็มเช่นกัน มีทั้งคนไทยที่เข้าไปทำงานอยู่ในประเทศมาเลเซียและสิงคโปร์ และแรงงานไทยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จนต้องนำรถตู้เข้ามาเสริมเพื่อให้เพียงพอกับจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น
ชาวบ้านในตำบลโนนสำราญ อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ นิมนต์พระภิกษุมาประกอบพิธีปัดรังควานและทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับผู้เสียชีวิตที่บริเวณโค้ง 100 ศพ ซึ่งเป็นจุดที่อันตรายที่สุดและยังเป็นถนนสายเดียวที่ออกจากหมู่บ้าน เฉพาะเดือนที่ผ่านมามีผู้ประสบอุบัติเหตุ ขับรถชนกันตายไปแล้ว 10 ศพ
ด้านศูนย์อำนวยการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2553 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แถลงสถิติอุบัติเหตุทางถนนวันแรกของการรณรงค์ วันที่ 29 ธันวาคม 2552 เกิดอุบัติเหตุทางถนนรวม 448 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 40 ราย บาดเจ็บ 496 ราย สาเหตุหลักเกิดจากเมาแล้วขับและขับรถเร็วเกินกำหนด โดยจังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ จันทบุรี พิษณุโลก จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ เพชรบูรณ์ ลำปาง และสมุทรสาคร ส่วนจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ลำปาง จันทบุรี เชียงใหม่ และเพชรบูรณ์
นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย คาดว่าประชาชนจะเริ่มทยอยเดินทางกลับสู่ภูมิลำเนาในช่วงบ่าย ส่งผลให้ถนนสายหลักทุกสายมีปริมาณรถหนาแน่น จึงได้กำชับให้จังหวัดที่มีเส้นทางสายหลักผ่านไปยังจังหวัดใกล้เคียงประสานหน่วยงานในพื้นที่วางแผนจราจรเพื่ออำนวยความสะดวกในการระบายรถ รวมถึงการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ และเข้มงวดใช้มาตรการ 3 ม. 2 ข. 1 ร. อย่างจริงจัง