xs
xsm
sm
md
lg

สธ.ฮึ่มเชือด “สิงห์” แน่ ชี้มีร้องเรียน 15 ราย และผิดตามสื่ออีกนับ 100!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ภาพประกอบจากอินเทอร์เนต
สธ.รวบรวมข้อมูลส่งให้ตำรวจเอาผิด “สิงห์” แน่ ชี้ บ.สิงห์ผิด 4 มาตรา พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มีผู้ร้องเรียน 15 กรณี ตรวจสอบพบทำผิดในสื่อต่างๆ 100 กรณี ด้านมูลนิธิเพื่อนหญิงฉะยับ ชุ่ยทำการตลาดล้าหลัง ใช้เพศหญิงเป็นเหยื่อแต่งหวิว อนาจาร ขายเนื้อหนัง สร้างความเสื่อมทรามทางสังคม วอนทำการตลาดสร้างสรรค์เพื่อสังคม เคารพกฎหมายอย่างเคร่งครัด

นพ.สมาน ฟูตระกูล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กล่าวว่า ขณะนี้สธ.อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูล ประเด็นความผิดที่ชัดเจนส่งให้กับเจาหน้าที่ตำรวจในวันที่ 21 ธันวาคมนี้ เบื้องต้นบริษัท สิงห์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด กระทำความผิดตามที่ได้รับร้องเรียนทางโทรศัพท์ 15 กรณี และมีการตรวจสอบพบว่ามีความผิดใน 4 มาตรา ตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 ได้แก่ มาตรา 27, 30, 31 และ 32 ในสื่อต่างๆ ทั้งสื่อสิ่งพิมพ์ อินเทอร์เน็ต ประมาณ 100 กรณี

นพ.สมาน กล่าวต่อว่า สำหรับมาตรา 27 บริษัทสิงห์ฯ มีการจัดลานเบียร์ ในห้ามขายทั้งสถานที่ราชการ และสวนสาธารณะ มาตรา 30 ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยวิธีการ หรือในลักษณะ แจก แถม ให้ หรือแลกเปลี่ยนกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือสินค้าอื่น หรือการให้บริการอย่างอื่นแล้วแต่กรณีเพื่อจูงใจสาธารณชนให้บริโภค ทั้งโดยตรงและอ้อม มีการจำหน่ายจ่ายแจก หรือแม้แต่การขายปฏิทินลีโอ 2010 มาตรา 31 ห้ามมิให้ผู้ใดบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสถานที่หรือบริเวณที่กฎหมายห้ามไว้ เช่น วัด สถานที่ราชการ สวนสาธารณเป็นต้น และ 4.มาตรา 32 ห้ามโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือแสดงชื่อหรือเครื่องหมายของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อันเป็นการอวดอ้างสรรพคุณหรือจูงใจให้ดื่ม ทั้งทางตรงและอ้อม ยกเว้นการโฆษณาที่ให้ข้อมูลข่าวสารและความรู้เชิงสร้างสรรค์สังคม

นพ.สมาน กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ โดยภาพรวม สธ.คงต้องกล่าวโทษดำเนินคดีกับบริษัท สิงห์ ส่วนผู้ที่สนับสนุนหรือร่วมกระทำความผิด ไม่ว่าจะเป็นบริษัทที่รับจ้างทำปฏิทิน นางแบบ พนักงาน หรือผู้ที่นำปฏิทินไปแจก ทั้งหมดตามหลักการถือว่ามีความผิด แต่เป็นหน้าที่ของเจ้าพนักงานสืบสวนที่จะเป็นผู้รวบรวมการกระทำผิดทั้งหมด และชี้ว่าใครเข้าข่ายต้องรับผิดชอบต่อการกระทำผิดที่เกิดขึ้นบ้าง ซึ่งพิจารณาไปตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ว่าเป็นการกระทำที่จงใจท้าทายกฎหมายหรือไม่ได้เจตนา ซึ่งกระบวนการต่างๆ เป็นไปตามกฎหมายอยู่แล้ว

“ความผิดที่เกิดขึ้นไม่ใช่แค่เรื่องปฏิทินอย่างเดียว แต่มีหลายเรื่องต่างกรรมต่างวาระกัน ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด แต่จะรวบรวมเพื่อดำเนินคดีพร้อมกันทั้งหมดเป็นเป็นกรณีไป รวมทั้งบริษัทอื่นที่กระทำผิดในทำนองเดียวกันก็จะดำเนินการส่งเรื่องดำเนินคดีด้วยเช่นกัน เพื่อป้องกันข้อครหาในการเลือกปฏิบัติ” นพ.สมานกล่าว

ด้าน นายคำรณ ชูเดชา ผู้ประสานงานเครือข่ายต้านภัยแอลกอฮอล์ กล่าวถึงกรณีที่ น.ส.จิตตภัสร์ ภิรมย์ภักดี ข้าราชการการเมืองประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้นำปฏิทินเบียร์ลีโอมาแจกให้กับบรรดาข้าราชการและเจ้าหน้าที่ประจำทำเนียบรัฐบาล รวมถึงสื่อมวลชน ที่บริเวณหลังตึกไทยคู่ฟ้า ตึกที่ทำงานของนายกรัฐมนตรี เป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง เพราะปฏิทินลีโอฯ เป็นสิ่งผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะมีเจตนาหรือไม่ก็ตาม อยากให้บริษัท สิงห์ฯ มีความรับผิดชอบต่อสังคมบ้าง ไม่เช่นนั้นจะเท่ากับเป็นการส่งสัญญาณให้กับเจ้าหน้าที่ ประชาชน ร้านค้า เข้าใจว่า สามารถแจกปฏิทินได้ไม่ผิดอะไร

“ในวันที่ 23 ธ.ค.จะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ ที่มีพล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เพื่อพิจารณานำมาตรการทางกฎหมายใหม่ๆ มาใช้ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทั้งเหล้าปั่น การจัดโซนนิ่ง และการติดฉลากภาพคำเตือนบนบรรจุภัณฑ์ ดังนั้น ไม่อยากให้สิ่งที่เกิดขึ้นซึ่งท้าทายกฎหมายเป็นการตอกย้ำว่า การบังคับใช้กฎหมายของภาครัฐไม่มีประสิทธิภาพ กฎหมายลูกอื่นๆ ที่ออกตามมาก็นำมาบังคับใช้จริงไม่ได้” นายคำรณกล่าว

นายคำรณกล่าวอีกว่า ทั้งนี้ เครือข่ายองค์กรต้านภัยเหล้าฯ และเครือข่ายเยาวชน ได้หารือกันเตรียมที่จะเดินทางเข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมและกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ให้มีท่าทีที่ชัดเจนเกี่ยวกับปฏิทินวาบหวิวของลีโอฯ โดยเฉพาะขณะที่หลายฝ่ายร่วมกันรณรงค์กระเช้าปลอดเหล้าแต่บริษัท สิงห์ กับให้ปฏิทินวาบหวิวเป็นของขวัญปีใหม่ จึงควรที่จะรณรงค์ปฏิเสธที่จะรับของขวัญที่เป็นอบายมุข และสร้างค่านิยมผิดๆ ให้กับสังคม

นายจะเด็จ เชาวน์วิไล ผู้จัดการมูลนิธิเพื่อนหญิง กล่าวถึงกรณีที่บริษัท สิงห์ คอร์ปอเรชั่น สนับสนุนเงินทุนจัดทำปฏิทินวาบหวิวแจกประชาชน ว่า การที่บริษัทสิงห์ คอร์ปอเรชั่น เป็นผู้สนับสนุนการทำปฏิทินวาบหวิวเพื่อแจก หรือจำหน่ายให้กับประชาชนทั่วไป นอกจากจะเป็นการฝ่าฝืนไม่เคารพกฎหมาย พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2552 มาตรา 32 ที่ห้ามโฆษณาอย่างชัดเจนแล้ว ยังเป็นการทำปฏิทินวาบหวิว อนาจาร โดยการใช้นางแบบผู้หญิง 6 คน ไม่สวมเสื้อผ้ามาเพนต์สีตามร่างกาย เป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม กระแสสังคมรับไม่ได้อีกด้วย โดยนางแบบทั้ง 6 คน รวมถึง ลูกเกด เมทินี กิ่งโพยม ชาร์พเพิร์ล ที่เป็นผู้จัดทำปฏิทิน ถือว่าเป็นเหยื่อในการโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยี่ห้อนี้อีกด้วย

“ที่แย่ที่สุดคือ กรณี น.ส.จิตภัสร์ ภิรมย์ภักดี นำปฏิทินวาบหวิวไปแจกให้ข้าราชการ นักการเมืองที่ทำเนียบรัฐบาล ถือเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ไม่ควรเกิดขึ้นอย่างยิ่ง ทำให้เสื่อมเสียอย่างมาก แม้จะแสดงสปิริตด้วยการลาออกจากตำแหน่งทางการเมือง เพื่อขอโทษต่อนายกรัฐมนตรีแล้วก็ตาม แต่ น.ส.จิตตภัสร์ ก็ควรจะขอโทษประชาชนด้วยเช่นกัน” นายจะเด็จ กล่าว

นายจะเด็จ กล่าวต่อว่า ปรากฏการณ์ต่อต้านปฏิทินดังกล่าวที่เกิดขึ้น ถือว่าเป็นกระแสสังคมที่แรงมาก บริษัทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อื่นๆ โดยเฉพาะบริษัท สิงห์ฯ ควรถอดบทเรียนเรื่องนี้ ไม่ควรทำกิจกรรมทางการตลาดที่เป็นเรื่องผิดศีลธรรม สร้างความเสื่อมทรามให้กับสังคมอีก เพราะหากยังดื้อทำอีก กระแสสังคมจะต่อต้านและดำเนินการลงโทษทางกฎหมายอย่างแน่นอน

นายจะเด็จกล่าวอีกว่า ภาคประชาชนได้ติดตามพฤติกรรมของบริษัทเหล้า เบียร์ มาตลอด ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้น สะท้อนให้เห็นว่า บริษัท สิงห์ฯ ยังใช้การตลาดแบบเก่า ล่าสมัยมากที่ใช้ผู้หญิงเป็นวัตถุทางเพศ ขายเนื้อหนังมังสา ก่อให้เกิดปัญหาสังคมและนำไปสู่ความรุนแรงทางเพศในที่สุด ซึ่งบริษัท สิงห์ฯ ควรเปลี่ยนวิธีคิดกิจกรรมสื่อสารทางการตลาดเสียใหม่ ควรมีความคิดสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ให้กับสังคมได้แล้ว ซึ่งขณะนี้มีธุรกิจหลายประเภทที่หันมาทำการตลาดกิจกรรมเพื่อสังคม (CSR) พัฒนาสังคมไทยให้ดีขึ้น ที่สำคัญที่สุดคือขอเรียกร้องให้บริษัทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกยี่ห้อ โดยเฉพาะบริษัท สิงห์ฯ ควรปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างเคร่งครัดด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น