“สมพงษ์” เผยแปลกใจแต่รับได้ “ชินภัทร” นั่งเลขาฯ กพฐ. ชี้มีความรู้ ความสามารถ แนะ “จุรินทร์” เคลียร์ “สมเกียรติ-สเน่ห์” เชื่อเสียความรู้สึก ลูกหม้อแท้ๆ แต่ไม่ได้นั่ง ด้านสหภาพครูฯ-สมาพันธ์ครูฯ ประสานเสียงยกว่าที่เลขาฯ กพฐ. คนใหม่สางปัญหาได้ดี ทั้งเรื่องคุณภาพ นร.-ร.ร. วิทยฐานะ และปัญหาแยกประถม มัธยม ส่วน “เฉลียว” นั่งปลัด ศธ.ทดแทนกันได้ ฝากขอบคุณ รมว.ศธ.โยกย้ายได้ดี ครูมีขวัญกำลังใจขึ้นเยอะ
วันนี้ (10 พ.ย.) รศ.สมพงษ์ จิตรระดับ คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงกรณีการโยกย้ายข้าราชการระดับ 11 ของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ว่า ส่วนตัวแล้วรู้สึกแปลกใจ และคิดว่าคนในสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เองคงแปลกใจเช่นกัน เพราะความจริงแล้วตัวเต็งตำแหน่งเลขาธิการ กพฐ.ที่พูดกันมาตลอดเป็นลูกหม้อของ สพฐ. นั่นคือ ดร.สมเกียรติ ชอบผล และ นายสเน่ห์ ขาวโต รองเลขาฯ กพฐ. ที่เชื่อว่าจะสามารถประสานการทำงานต่อไปได้ ตรงนี้อาจสร้างความผิดหวังให้แก่ข้าราชการใน สพฐ.พอสมควร อย่างไรก็ตาม ดร.ชินภัทร ภูมิรัตน ว่าที่เลขาธิการ กพฐ.ก็เป็นคนที่กลุ่มนักวิชาการรับได้ ไม่มีปัญหาอะไร ซึ่งคุณสมบัติในภาพรวมเป็นผู้ที่มีความรู้ ความสามารถ
“อ.สมเกียรติ เองคงเสียความรู้สึกกับโผโยกย้ายที่ออกมาในครั้งนี้อย่างมาก เพราะที่ผ่านมาก็ได้แสดงบทบาท วิสัยทัศน์ พร้อมทั้งทำงานหลายๆ อย่างที่ตอบสนองต่อนโยบายทางของ ศธ. และส่วนการเมืองได้เป็นอย่างดี ซึ่งคงต้องผิดหวังอย่างมากสำหรับการโยกย้ายเที่ยวนี้ ตรงนี้ รมว.ศธ.ต้องทำความเข้าใจกับทั้ง อ.สมเกียรติ และ อ.สเน่ห์ เพื่อการทำงานที่ดีต่อไปข้างหน้าเช่นกัน แต่สิ่งที่ต้องยอมรับคือใน สพฐ. การเมืองเข้ามามีบทบาทค่อนข้างมาก ดังนั้นเมื่อ ดร.ชินภัทร มีโอกาสได้ลงไปดูแล หากมองในแง่ของงานเชื่อว่ามีความท้าทายอย่างมาก ซึ่งต้องมีการปรึกษาวางแผน ประสานการทำงานกับรองเลขาฯ กพฐ. ให้ชัดเจน ลำพัง ดร.ชินภัทร คนเดียวคงทำงานลำบาก นอกจากนี้ สพฐ.ยังเป็นหน่วยงานใหญ่ ดูแลการศึกษาส่วนใหญ่ของประเทศ และรัฐก็ทุ่มงบ SP2 ลงมาเป็นจำนวนมหาศาล ซึ่งก็ต้องบริหารด้วยความรอบคอบ โปร่งใส ซึ่ง ดร.ชินภัทร ต้องมีภาวะผู้นำ กล้าตัดสินใจ เพื่องานจะได้ออกมามีคุณภาพไม่น้อยไปกว่าที่คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาฯ กพฐ.คนก่อน ทำไว้ ซึ่งถือเป็นความท้าทายที่สุด” รศ.สมพงษ์ กล่าว
รศ.สมพงษ์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของตำแหน่งอื่นๆ นั้น ในการปรับเปลี่ยนต้องเปลี่ยนเพื่อเป็นไปเพื่อให้มีการทำงานที่ดีขึ้น ซึ่งเรื่องนี้เป็นความรับผิดชอบของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.ศธ.ที่ต้องรับผิดชอบโดยตรง ซึ่งตนรู้สึกว่าเป็นเพียงการปรับเปลี่ยนเล็กๆ ที่ไม่ได้สนับสนุนเรื่องการปฏิรูปรอบสองมากนัก ทั้งนี้หากจะให้การปฏิรูปฯ เดินหน้าได้ดียิ่งขึ้นควรมีการปรับใหญ่ ที่มุ่งเนื้องานให้เต็มที่กว่านี้ สำหรับการโยกย้ายในฝั่งของสำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา (สอศ.) นั้น เมื่อเปลี่ยนแล้วเกรงว่านโยบายต่างๆ ที่ดำเนินการมากว่า 2-3 ปี อาจจะสะดุดได้ เพราะเมื่อเปลี่ยนหัวใหม่นโยบายก็อาจเปลี่ยนอีก อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เป็นห่วงคือ สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) ที่ถือเป็นจุดที่สำคัญในการผลักดันนโยบายต่างๆ ไปตามทิศทางของ ศธ. ซึ่งเหมือนว่าผู้ใหญ่ยังไม่ค่อยให้ความสำคัญ
ด้าน นายเพิ่ม หลวงแก้ว ประธานสหภาพครูแห่งชาติ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ที่สหภาพฯ เตรียมออกมาเคลื่อนไหวหากในการ ดร.ชินภัทร โดนย้ายนั้น เมื่อโผโยกย้ายออกมาล่าสุดก็พบว่าการที่ ดร.ชินภัทร ย้ายจากปลัด ศธ. มานั่ง เลขาฯ กพฐ. ทางสหภาพฯ ก็ไม่รู้ว่าจะเคลื่อนไหวไปทำไม เพราะตำแหน่งตรงนี้ถือว่าเป็นประโยชน์ต่อการศึกษาอย่างมาก และถือว่ามีความเหมาะสมเพราะ ดร.ชินภัทร เองก็เคยดูแลงานใน สพฐ.มาก่อน ซึ่งคิดว่าคงมองปัญหาที่ต้องเร่งแก้ไขใน สพฐ.ออกว่าจะทำอย่างไร ไม่ว่าจะเป็น 1. ปัญหาด้านคุณภาพของนักเรียน โรงเรียนขนาดเล็ก 2.ในฐานะที่ก่อนหน้านี้ ดร.ชินภัทร ในฐานะปลัด ศธ. อยู่ในตำแหน่งรองประธานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ที่เจอปัญหาเรื่องหลักเกณฑ์ต่างๆ ของวิทยฐานะ ซึ่งดร.ชินภัทร ก็รู้ดีว่าปัญหาเกิดจากอะไร และครูที่มีปัญหาส่วนใหญ่ก็เป็นครูในสังกัด สพฐ. ตรงนี้เชื่อว่าจะช่วยแก้ปัญหาได้มาก 3. ปัญหาเรื่องครูประถม มัธยม ซึ่งส่วนตัวของดร.ชินภัทร เองค่อนข้างเป็นกลางในเรื่องนี้น่าจะแก้ปัญหาตรงนี้ได้เช่นกัน สำหรับงานของ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ที่ดร.ชินภัทร เคยดูแลอยู่ แล้วต้องเปลี่ยนมาเป็น อ.เฉลียว ที่มานั่งปลัด ศธ.แทนนั้น ถือว่าทดแทนกันได้ เพราะ อ.เฉลียว รู้งานเพราะก่อนหน้านี้ก็เคยอยู่ในคณะทำงาน สกสค.เช่นกัน
นายสนอง ทาหอม ประธานสภามนตรีสมาพันธ์สมาคมครูแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สำหรับการโยกย้ายผู้บริหารใน ศธ.ครั้งนี้ สำหรับการย้าย ดร.ชินภัทร จากปลัด ศธ.ไปเป็นเลขาฯ กพฐ.นั้นถือว่าเหนือความคาดหมาย แต่จากการที่สมาพันธ์ฯ ได้เคยทำงานกับดร.ชินภัทร มานาน ท่านเป็นคนมีความรู้ ความสามารถ จริงจังในการทำงาน และจริงใจกับพี่น้องครู และการได้มาคุม สพฐ.ที่ต้องทำการบริหารครูส่วนใหญ่ของประเทศ เชื่อว่า ดร.ชินภัทร จะช่วยสร้าง สพฐ. และสานต่องานจากคุณหญิงกษมา ได้อย่างดีทีเดียว
ในส่วนของตำแหน่ง อ.เฉลียว ที่โยกจากเลขาฯ สอศ.มาเป็นปลัด ศธ.นั้น ท่านเองเป็นคนที่ถนัดงานบริหารด้านบุคคลชั้นยอด และที่ผ่านมาครู สพฐ.เสียขวัญ กำลังใจอย่างมากในเรื่องของการเลื่อนวิทยฐานะ โยกย้ายต่างๆ เมื่อได้ท่านเข้ามาดูแลตรงนี้ ที่ต้องรับผิดชอบ ก.ค.ศ.ด้วย ก็จะยิ่งช่วยให้งานบริหารด้านบุคคลดำเนินต่อไปได้ดี ช่วยแก้ปัญหาของ ก.ค.ศ.ได้อีกแรง
“รมว.ศธ. ตัดสินใจถูกที่สุดในการโยกย้ายผ้บริหารระดับสูงของ ศธ.ครั้งนี้ เชื่อว่าครูเองจะมีกำลังใจมากขึ้นเลยทีเดียว” ปธ.สภามนตรีสมาพันธ์สมาคมครูฯ กล่าว