xs
xsm
sm
md
lg

มือดีร่อนแฟกซ์ แฉ “2 บิ๊ก สธ.” สั่งยัดไส้ครุภัณฑ์ “ไทยเข้มแข็ง”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นพ.เสรี หงษ์หยก
“หมอเสรี” เผย ได้ข้อมูลโกง “ไทยเข้มแข็ง” เชื่อมต้นตอ และ บ.เอกชนหลายแห่ง แต่หลักฐานส่วนใหญ่เป็นการกระทำด้วยวาจา จึงจำต้องปิดรายชื่อกันถูกฟ้อง ด้านกระทรวงหมอ วุ่น มือดีร่อนแฟกซ์ส่งห้องสื่อ แฉแหลก 2 ผู้บริหารระดับสูงมีเอี่ยว ท้ายเอกสารลึกลับ ระบุ ข้อมูลทั้งหมดเป็นข้อเท็จจริงที่ “นพ.สุชาติ เลาบริพัตร” และเจ้าหน้าที่ของ สบภ.ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ได้พยายามเรียงลำดับเหตุการณ์ แต่เจ้าตัวปฏิเสธไม่ได้เป็นคนส่ง พร้อมชี้แจงว่า ถือว่า ไม่ใช่เรื่องที่ต้องมีการปกปิด เนื่องจากเป็นการให้ข้อเท็จจริงกับคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนหน้านี้


นพ.เสรี หงษ์หยก ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่าถึงกรณีการสอบทุจริต “ไทยเข้มแข็ง” ว่า กระบวนการตรวจสอบของคณะกรรมการชุดที่ตนเป็นประธาน ได้มีการสอบพยานบุคคลไป 10 กว่าปาก และหลักฐานที่เป็นเอกสารอีกหลายชุด จนพบว่ามีมูลความผิดปกติของการทุจริตจริงและสามารถเชื่อมโยงกลุ่มบุคคลที่ถูกพาดพิง ทั้งคนทำและบริษัทเอกชนได้หลายแห่ง แต่หลักฐานที่ได้ส่วนใหญ่เป็นเพียงการกระทำด้วยวาจา ไม่มีเอกสารลายลักษณ์อักษร จึงต้องปกปิดรายชื่อ เพราะถือว่าหลักฐานอ่อนมาก อาจถูกฟ้องร้องได้ ดังนั้น จึงต้องมีคณะกรรมการสอบเชิงลึกเพื่อให้ได้ตัวบุคคลต่อไป

ด้าน นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ อดีตปลัด สธ.ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์โดยกล่าวเพียงสั้นๆ ว่า ขณะนี้อยู่ที่ต่างประเทศ ไม่สะดวกจะให้สัมภาษณ์ โดยอีก 1 สัปดาห์จึงจะเดินทางกลับประเทศไทย

"ประทิน"ลั่นเปิดโปงผู้บงการแน่
พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ อดีตประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาสอบสวนและศึกษาเรื่องเกี่ยวกับการทุจริต วุฒิสภา เปิดเผยว่า ยืนยันว่า ถ้าหลักฐานชัดเจนก็จะเปิดเผยรายชื่อของผู้บงการในการทุจริตในครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการที่เกษียณไปแล้ว หรือในส่วนของนักการเมือง และจะสอบสวนข้อเท็จจริงทุกอย่างให้ได้ข้อเท็จจริงที่สังคมต้องการทราบให้ได้มากที่สุด ไม่กลัวว่าจะมีการฟ้องร้องหมิ่นประมาทแต่อย่างใด เพราะว่าคณะกรรมการได้ดำเนินการตามหน้าที่ตามพยานหลักฐานต่างๆ

“นายวิทยา ได้ติดต่อให้มาร่วมเป็นคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในโครงการไทยเข้มแข็งของ สธ.ก็ยินดีที่จะมาร่วมงานเพื่อประโยชน์ของสังคมส่วนรวม ที่ผ่านมา ยืนยันว่า สามารถทำงานได้กับทุกคน ทั้งนี้ ยังไม่ทราบรายละเอียด ว่า เห็นข้อมูลยากลำบากเพียงใด แต่เบื้องต้นทราบว่ามีผลการสอบข้อเท็จจริงของ นพ.เสรี หงษ์หยก รักษาราชการรองปลัดสธ.รวมถึงทราบมาว่า นพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ประธานชมรมแพทย์ชนบทก็เป็นผู้ที่ทราบข้อมูล ก็คงต้องขอข้อมูลจากหลายๆ ฝ่ายมาพิจารณา” พล.ต.อ.ประทิน กล่าว
พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ
ใบปลิวชี้เป้า "2บิ๊ก สธ."สั่งยัดไส้ครุภัณฑ์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 13.00 น.วานนี้(14 ต.ค.)มีเอกสารการสรุปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในการของบประมาณเครื่องฆ่าเชื้อโรคด้วยแสงอัลตราไวโอเลต ส่งแฟกซ์มายังห้องสื่อมวลชนประจำกระทรวงสาธารณสุข โดยไม่มีการระบุที่มาที่ไป แต่มีหมายเหตุในตอนท้ายของหนังสือว่า ข้อมูลทั้งหมดเป็นข้อเท็จจริงที่ นพ.สุชาติ เลาบริพัตร ผู้อำนวยการสำนักบริหารสาธารณสุขภูมิภาค (สบภ.) และเจ้าหน้าที่ของ สบภ.ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ได้พยายามเรียงลำดับเหตุการณ์ เป็นคำชี้แจงของผู้เกี่ยวข้องที่คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงรายการครุภัณฑ์ที่ไม่กล้าเปิดเผย

หนังสือระบุเริ่มตั้งแต่การที่ นพ.สุชาติ ได้รับโครงการจากที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขรายหนึ่ง แต่ นพ.สุชาติ ยืนยันว่า จะของบประมาณได้ต้องได้รับคำสั่งจากผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงชายคนหนึ่ง หรือ ผู้บริหารระดับสูง สธ.หญิงคนหนึ่ง

กระทั่งผู้บริหารระดับสูงหญิงของกระทรวง ได้เรียก นพ.สุชาติ เข้าพบและอ้างถึงเรื่องปัญหาการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ในกลุ่มบุคลากรในโรงพยาบาลและสั่งให้ใส่คำของบประมาณเพื่อจัดซื้อเครื่องฆ่าเชื้อด้วยแสงอัลตราไวโอเลตทั่วประเทศ จำนวน 800 เครื่อง เครื่องละ 40,000 บาท ซึ่งวันที่ 17 พฤษภาคม เป็นวันที่สบภ.ต้องรวบรวมข้อมูลสิ่งก่อสร้างและครุภัณฑ์ส่งสำนักงบประมาณ โดยเมื่อเวลาประมาณ 19.00 น.ผู้บริหารระดับสูงชายของกระทรวงโทรศัพท์มาถาม นพ.สุชาติ ว่า ได้มีการใส่คำขอเครื่องฆ่าเชื้อโรค หรือไม่ นพ.สุชาติ ก็บอกว่า ได้กำลังรวบรวมข้อมูลเพื่อเสนอสำนักงบฯอยู่

ภายหลัง นพ.สุชาติ ได้หารือกับ กลุ่มแผนและประเมินผล สำนักบริหารสาธารณสุขภูมิภาค ว่า ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวง สั่งให้ใส่คำของบประมาณเครื่องฆ่าเชื้อ จึงมีการท้วงติงใน 2 ประเด็น คือ 1.สบภ.จะตั้งคำของบประมาณครุภัณฑ์ที่มีมูลค่ามากกว่า 1 ล้านบาท 2.งบประมาณ 40,000 บาท ต่อเครื่องมีแหล่งอ้างอิงใด นพ.สุชาติ จึงต่อโทรศัพท์มือถือให้ผู้บริหารระดับสูงชายของกระทรวงรายนั้น คุยเจ้าหน้าที่โดยตรง จึงพบว่าในโครงการมีการอ้างอิงหน่วยงานราชการที่เคยจัดซื้อมาแล้ว จึงมีการโทรศัพท์สอบถามผู้อำนวยการโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ได้รับคำยืนยันว่า เคยจัดซื้อในราคา 40,000 บาท

หนังสือระบุว่า ในการกรอกคำของบประมาณ นพ.สุชาติ ให้ใส่คำขอรวมเป็นรายการเดียวทั้งประเทศ ไม่ให้แตกเป็นพื้นที่จังหวัดหรืออำเภอ ซึ่ง นพ.สุชาติได้โทรศัพท์หารือกับสำนักงบประมาณว่า หากมีการปรับลดงบประมาณควรปรับงบส่วนนี้ออกได้ เมื่อมีการปรับลด-ปรับเพิ่ม งบประมาณในขณะนั้น ปรากฎว่ามีคำของบประมาณครุภัณฑ์ของจังหวัดระยองที่ใช้ในการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมขาดหายไป จึงมีการตั้งงบประมาณของเครื่องฆ่าเชื้อออกแล้วใส่ครุภัณฑ์ของจังหวัดระยองเข้าแทน ดังนั้น ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงหญิง จึงได้เรียกเจ้าหน้าที่สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ (สนย.) 2 ราย เข้าพบเพื่อสอบถามและให้ใส่คำของบประมาณเครื่องฆ่าเชื้อ เข้าไปใหม่

"หมอสุชาติ"ปัดกระจายใบปลิว
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีการสืบหาต้นต่อของเอกสารฉบับดังกล่าว พบว่า ส่งมาจากร้านถ่ายรูปแห่งหนึ่งย่านปทุมธานี และได้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ นพ.สุชาติ ซึ่งในวันนี้ลาป่วย และจะกลับไปทำงานต่อในวันพรุ่งนี้ (15 ต.ค.) โดย นพ.สุชาติ กล่าวว่า หนังสือดังกล่าวเป็นข้อเท็จจริงที่ได้จัดทำขึ้น ถือว่าไม่ใช่เรื่องที่ต้องมีการปกปิด เนื่องจากเป็นการให้ข้อเท็จจริงกับคณะกรรมาการตรวจสอบข้อเท็จจริง ก่อนหน้านี้ เนื้อหาเป็นการลำดับเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่าเป็นการส่งโครงการและการสั่งการของผู้บังคับบัญชาทุกท่านเป็นไปอย่างเปิดเผยมีผู้รับผิดชอบหลายคนอยู่ในเหตุการณ์ และถือเป็นเรื่องปกติในกระบวนการจัดตั้งงบประมาณ และขณะที่ตั้งงบประมาณมีการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ในโรงพยาบาลอย่างกว้างขวาง

“ผมไม่ได้เป็นผู้ส่งเอกสารที่มีการส่งแฟกซ์ไปยังห้องผู้สื่อข่าว สธ.แต่เอกสารดังกล่าว เจ้าหน้าที่ สบภ.หลายคนมีอยู่แล้ว และรู้เรื่องนี้กันทั้งหมด รวมถึงผมได้มอบให้กับผู้ใหญ่หลายคนที่สอบถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ดู เพราะถือว่าไม่ใช่เรื่องปิดบังก็ส่งให้อ่าน อาจจะมีเจ้าหน้าที่หรือใครก็ตามที่เห็นควรจะมีการเปิดเผยข้อมูลนี้ให้สาธารณะรับทราบ” นพ.สุชาติ กล่าว

นพ.สุชาติ กล่าวด้วยว่า คณะกรรมการไม่ควรเปิดเผยชื่อของตนเองให้สาธารณะรับทราบเพราะจริงๆ ไม่อยากเป็นข่าว แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ไม่เข้าใจว่าตนได้เปิดเผยข้อเท็จจริงรายชื่อผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้ว เหตุใดคณะกรรมการไม่เปิดเผยข้อมูล แต่ก็ไม่ทราบว่ามีอำนาจมากน้อยแค่ไหน

แพทย์ชนบทพอใจชื่อคนนอก พร้อมรับผลสอบ
นพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ประธานชมรมแพทย์ชนบท กล่าวว่า หากมีการตั้ง พล.ต.อ.ประทิน และ นพ.บรรลุ เข้ามาคณะกรรมการตรวจสอบฯ ก็พอใจ เนื่องจากบุคคลทั้ง 2 ท่านนี้ มีความน่าเชื่อถือ ประวัติมีความโปร่งใส่ ดังนั้น ไม่ว่าผลสอบจะออกมาเป็นอย่างใดก็ไม่ติดใจเพราะถือว่ายอมรับได้

“นพ.บรรลุ เป็นบุคคลที่แพทยชนบทเสนอให้เข้ามาเป็นคณะกรรมการมาก่อนหน้านี้แล้ว ส่วน พล.ต.อ.ประทิน เป็นผู้ที่มีคุณูปการยอมรับได้ไม่มีอะไรแอบแฝงเป็นคนกล้า อีกทั้งเป็นมือปราบ ซึ่งการทำอาชญากรรมทิ้งร่องรอย ดังนั้น คาดหวังว่า จะสาวไปถึงผู้ที่อยู่เบื้องหลังได้ไม่มากก็น้อย ที่สำคัญคือ กระทรวงควรจะทำตั้งนานแล้ว แต่รัฐมนตรีปล่อยให้สธ.บอบช้ำ ที่ผ่านมา ผมก็ไม่มีอคติอะไรอยู่แล้ว การเสนอให้รัฐมนตรีและรัฐมนตรีช่วยลาออกก็เพื่อเปิดทางให้ทำงานสะดวก ไร้แรงกดดัน การออกจากตำแหน่งไม่ได้หมายถึงว่า มีความผิด ซึ่งทีมที่ปรึกษา รมช.ก็ควรลาออกด้วย” นพ.เกรียงศักดิ์ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น