“สมหวัง” เผย แหล่งผลิตครูสร้างครูบางสาขาเกินความต้องการ แต่ไร้อัตราบรรจุรองรับ ระบุ อาชีวะ พบครูอัตราจ้างสูง คาดภายในปี ’60 เกิดวิกฤตขาดครูหนัก ด้านคณะอนุกรรมการศึกษาข้อมูลผลิตครู เตรียมรวบข้อมูลวางแผนผลิตครูรายวิชา รับประกันอัตราบรรจุนักศึกษาครู ก่อนเสนอ “จุรินทร์” พร้อมขอสนับสนุนงบ SP2 จาก สพฐ.90 ล้าน จัดทำระบบพัฒนาข้อมูล ได้ตัวเลขความต้องการที่แท้จริง
ศ.กิตติคุณ ดร.สมหวัง พิธิยานุวัฒน์ รักษาการผู้อำนวยการสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการศึกษาข้อมูลการผลิต และความต้องการใช้ครู เปิดเผยว่า คณะอนุกรรมการได้รวบรวมข้อมูลการผลิตครูในคณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ ของสถาบันอุดมศึกษาต่างๆ ตลอดจนข้อมูลความต้องการใช้ครูผู้สอน ทั้งในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน และการอาชีวศึกษาของสถานศึกษาในทุกสังกัดทั่วประเทศ ซึ่งขณะนี้มีหน่วยผลิตครูได้ส่งข้อมูลมาแล้ว 60 แห่ง จากทั้งหมด 71 แห่งทั่วประเทศ ขณะเดียวกัน หน่วยที่ต้องการใช้ครูส่วนใหญ่ก็ได้ส่งข้อมูลมาให้แล้วเช่นกัน ซึ่งจากการวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้นพบว่า ขณะนี้มีการผลิตครูอยู่ใน 32 สาขาวิชาเอก โดยบางสาขาผลิตมากเกินความต้องการใช้ ทำให้นักศึกษาที่จบไปประมาณ 20-30% ต้องไปประกอบอาชีพอื่น
ในขณะเดียวกัน โรงเรียนก็ยังขาดครูผู้สอน แต่ก็ไม่มีอัตราบรรจุรองรับ โดยในส่วนของสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) มีการใช้ครูอัตราจ้างสูงถึง 30% และมีการคาดคะเนว่าหากปล่อยให้สถานการณ์เป็นเช่นนี้ต่อไป ประมาณปี 2560 จะเกิดวิกฤตครูขาดแคลน เพราะสถาบันต่างๆ จะปรับลดอัตราการผลิตครูลง
ศ.กิตติคุณ ดร.สมหวัง กล่าวต่อว่า คณะอนุกรรมการจึงทำการศึกษาและวางแผนการผลิตครูเป็นรายสาขาวิชาเอก ซึ่งจะไปสอดรับกับแผนการผลิตครูของคณะกรรมการวางแผนการผลิตและพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาชุดใหญ่ ที่มี ศ.ดร.วรากรณ์ สามโกเศศ เป็นประธาน โดยจะมีการรับประกันการมีอัตราบรรจุแก่นักศึกษาครู เพราะสถานศึกษาที่มีอัตราการใช้ครูอัตราจ้างจำนวนมากเป็นเรื่องที่น่ากังวล ทั้งกับตัวเด็กและครูเอง เพราะครูอัตราจ้างไม่มีความมั่นคง ดังนั้นวิธีการแก้ไขรัฐบาลจึงควรต้องจัดอัตราให้เพียงพอกับความต้องการใช้ของสถานศึกษาแต่ละแห่ง ทั้งนี้คณะอนุกรรมการฯ จะนำข้อมูลเสนอต่อคณะกรรมการชุดใหญ่ ภายในเดือนตุลาคมนี้ เพื่อเสนอ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.ศึกษาธิการต่อไป
“มีการคาดการณ์ว่า อีก 10 ปีข้างหน้า จะขาดแคลนครูอย่างหนักโดยเฉพาะในสาขาวิชาขาดแคลน อาทิ วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ซึ่งเราต้องมีวิธีการในการป้องกัน โดยจะขอสนับสนุนให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) นำงบประมาณจากโครงการปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง หรือ SP2 จำนวน 90 ล้านบาท มาจัดทำระบบพัฒนาข้อมูล เพื่อจะได้แก้ปัญหาได้อย่างทันท่วงที เพราะการแก้ปัญหาต้องมีตัวเลขความต้องการที่แท้จริง จึงจะสามารถคาดคะเนได้อย่างแม่นยำ ไม่ใช่มีแต่ตัวเลขที่จะนำมาทดแทนครูเกษียณอายุราชการเท่านั้น” รักษาการ ผอ.สมศ.กล่าว
